106
หลั
กธรรมข้
อที่
ปุ
ถุ
ชนควรตระหนั
ในการดำ
�เนิ
นชี
วิ
ต ณ ปั
จจุ
บั
น?
วิ
สั
ชนา
ทุ
กวั
นนี้
เราอยู่
ในยุ
คโลกาภิ
วั
ตน์
ที่
คนส่
วนใหญ่
มี
ชี
วิ
ตอยู่
กั
บข้
อมู
ลข่
าวสารมากกว่
าทุ
กยุ
คสมั
ยที่
ผ่
านมา
นอกจากนั้
นก็
ยั
งมี
เครื่
องมื
อเผยแพร่
ข้
อมู
ลข่
าวสารที่
ทั
นสมั
อย่
างมากเข้
ามามี
บทบาทในชี
วิ
ตของคนไทย เครื่
องมื
ที่
ว่
านี้
ก็
คื
อ โซเชี
ยลมี
เดี
ย ที่
ก่
อให้
เกิ
ดโซเชี
ยลเน็
ตเวิ
ร์
จนอาจกล่
าวได้
ว่
า ทุ
กวั
นนี้
เกิ
ดพลเมื
องรุ่
นใหม่
นั่
นก็
คื
“พลเมื
องเจนเนอเรชั่
น-จิ้
ม”
ที่
ทุ
กคนเอาแต่
“จิ้
ม”
โทรศั
พท์
ของตั
วเองเพื่
อเสพข่
าวสารข้
อมู
ลเกื
อบตลอดเวลา
จนมี
คำ
�ล้
อเลี
ยนประชาชนในยุ
คนี้
ว่
าเป็
นส่
วนหนึ่
งของ
“สั
งคมก้
มหน้
า”
ที่
ต่
างคนต่
างก็
ก้
มหน้
าก้
มตาค้
นหาแต่
ข้
อมู
ลหรื
อก้
มหน้
าติ
ดต่
อกั
บคนที่
อยู่
ในเครื
อข่
ายของตนเอง
เท่
านั้
ท่
ามกลางสั
งคมที่
บริ
โภคข่
าวสารข้
อมู
ลและบริ
โภค
เทคโนโลยี่
สู
งขนาดนี้
หลั
กธรรมสำ
�คั
ญที่
ควรนำ
�มาปฏิ
บั
ติ
ก็
คื
อ “กาลามสู
ตร” อั
นว่
าด้
วย “การวางท่
าที
อย่
างปั
ญญาชน
ในการบริ
โภคข้
อมู
ลข่
าวสาร ๑๐ ประการ” ดั
งนี้
หรื
ออริ
ยมรรคมี
องค์
๘ ที่
เรี
ยกกั
นว่
“การเจริ
ญวิ
ปั
สสนา
กรรมฐาน”
หรื
“การเจริ
ญสติ
อริ
ยมรรคมี
องค์
๘ คื
๑.สั
มมาทิ
ฐิ
เห็
นชอบ
๒.สั
มมาสั
งกั
ปปะ
คิ
ดชอบ
๓.สั
มมาวาจา
เจรจาชอบ
๔.สั
มมากั
มมั
นตะ
กระทำ
�ชอบ
๕.สั
มมาอาชี
วะ
ดำ
�รงชี
วิ
ตชอบ
๖.สั
มมาวายามะ
พยายามชอบ
๗.สั
มมาสติ
ระลึ
กชอบ
๘.สั
มมาสมาธิ
ตั้
งจิ
ตมั่
นชอบ
ระดั
บดั
บทุ
กข์
ในชี
วิ
ตประจำ
�วั
น คื
อ นำ
�วิ
ธี
คิ
ดแบบ
อริ
ยสั
จมาใช้
แก้
ปั
ญหาชี
วิ
ต เช่
น เมื่
อมี
ความทุ
กข์
หรื
ปั
ญหาใดๆ เกิ
ดขึ้
นมาในชี
วิ
ต แทนที่
จะบ่
น แทนที่
จะพึ่
งพา
สิ่
งศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
เทวฤทธิ์
ปาฏิ
หาริ
ย์
แทนที่
จะโทษกรรมเก่
โทษโชคชะตา ก็
หั
นมาใช้
วิ
ธี
คิ
ดแบบอริ
ยสั
จในการจั
ดการกั
ปั
ญหา โดยการ
๑. วิ
เคราะห์
ปั
ญหา
“ว่
าปั
ญหาจริ
งๆ มั
นคื
ออะไร”
๒. สื
บสาวหาสาเหตุ
ของปั
ญหา
“ว่
ามั
นเกิ
ดขึ้
นมาจากเหตุ
ปั
จจั
ยใด”
๓. กำ
�หนดทางออกของปั
ญหา
“ว่
าหนทางที่
ถู
กต้
องมั
นควรเป็
นอย่
างไร”
๔. ลงมื
อแก้
ปั
ญหา
“ด้
วยการปฏิ
บั
ติ
ตามกระบวนการ/ขั้
นตอน
ที่
จะนำ
�ไปสู่
การแก้
ปั
ญหาได้
อย่
างแท้
จริ
ง”
ปั
ญหา หรื
อความทุ
กข์
ทุ
กชนิ
ดในโลก หากลงมื
แก้
ไขโดยใช้
วิ
ธี
คิ
ดแบบอริ
ยสั
จแล้
ว ไม่
มี
ปั
ญหาไหนที่
แก้
ไข
ไม่
ได้
เพราะทุ
กปั
ญหาล้
วนเกิ
ดขึ้
นมาอย่
างมี
สาเหตุ
เสมอ
ในเมื่
อไม่
มี
ส่ิ
งใดเกิ
ดขึ้
นมาลอยๆ แต่
ทุ
กสิ่
งที่
เกิ
ดขึ้
นย่
อมมี
ท่ี
มาที่
ไป ดั
งนั้
น ถ้
าเราสื
บสาวจนรู้
เหตุ
ปั
จจั
ยอย่
างแน่
แท้
ปั
ญหาทุ
กอย่
างก็
ย่
อมได้
รั
บการคลี่
คลายอย่
างถึ
งที่
สุ
แน่
นอน วิ
ธี
คิ
ดแบบอริ
ยสั
จนี้
สอดคล้
องกั
บวิ
ธี
คิ
ดแบบ
วิ
ทยาศาสตร์
ด้
วย นั
กวิ
ทยาศาสตร์
ทั้
งหลายล้
วนแล้
วแต่
ใช้
วิ
ธี
คิ
ดแบบอริ
ยสั
จในการค้
นคว้
าทดลองจนค้
นพบกฎ
ทางวิ
ทยาศาสตร์
ทั้
งสิ้
1...,98,99,100,101,102,103,104,105,106,107 109,110,111,112,113,114,115,116,117,118,...124