98
ในขณะที่
ปราสาทหิ
นพิ
มาย ปราสาทพนมรุ
้
ง และ
ปราสาทเมื
องต�่
ำในเขตแดนไทย ก็
ได้
รั
บการเสนอชื่
อเป็
น
แหล่
งมรดกทางวั
ฒนธรรมที่
อยู
่
ใน “บั
ญชี
รายชื่
อเบื้
องต้
น”
(Tentative List) ขององค์
การยู
เนสโกแล้
ว แต่
อยู่
ในระหว่
าง
รอการน�
ำเสนอต่
อคณะกรรมการมรดกโลกเพื่
อพิ
จารณาให้
เป็
นแหล่
งมรดกโลก ภายใต้
ชื่
อ
“ปราสาทหิ
นพิ
มายและ
เส้
นทางวั
ฒนธรรม และปราสาทพนมรุ
้
งและปราสาท
เมื
องต�่
ำ” (Phimai, its Cultural Rout and the Associated
Temples of Phanomroong and Muangtam)
ทั้
งนี้
ปราสาทหิ
นทั้
งสามนี้
ตั้
งอยู่
ในแนวเส้
นทาง
อารยธรรมส�
ำคั
ญของภู
มิ
ภาคอุ
ษาคเนย์
-อาเซี
ยน ที่
เรี
ยกกั
น
ว่
า
“เส้
นทางชั
ยวรมั
น”
ตามพระนาม
“พระเจ้
าชั
ยวรมั
นที่
๗”
แห่
งอาณาจั
กรกั
มพู
ชา สมั
ยนครธม ทรงขึ้
นครองราชย์
พ.ศ.๑๗๒๔ -๑๗๖๓
ซึ่
งเป็
นยุ
คหลั
งนครวั
ด ทรงครองราชย์
เพี
ยง ๔๐ ปี
แต่
ทรงได้
รั
บการยกย่
องเป็
น “วี
รกษั
ตริ
ย์
” ผู
้
กอบกู
้
อาณาจั
กรเขมรจากการถู
กอาณาจั
กรจามปารุ
กราน แล้
ว
ยั
งทรงขยายอาณาเขตของขอมออกไปกว้
างขวางยิ่
งกว่
า
กษั
ตริ
ย์
องค์
ใด
พระเจ้
าชั
ยวรมั
นที่
๗ ทรงนั
บถื
อศาสนาพุ
ทธ
นิ
กายมหายาน ศิ
ลาจารึ
กค้
นพบที่
ปราสาทพระขรรค์
ระบุ
ว่
า
ทรงก้
าวตามรอยธรรมกษั
ตริ
ย์
ผู
้
ยิ่
งใหญ่
คื
อพระเจ้
าอโศก
มหาราช ด้
วยการสร้
างวั
ดวาอารามมากมาย และยั
งทรง
มี
พระบรมราชโองการให้
สร้
างโรงพยาบาลชุ
มชน หรื
อ
“อโรคยศาลา” ตามเส้
นทางเดิ
นทุ
กสายจากแว่
นแคว้
นที่
ไกลที่
สุ
ดที่
อยู
่
ภายใต้
พระราชอ�
ำนาจของพระองค์
พุ
่
งตรง
มายั
งเมื
องพระนครหลวง ศู
นย์
กลางของอาณาจั
กรเขมร
รวมทั้
งสิ
้
น ๑๐๒ แห่
ง รั
บรั
กษาโรคภั
ยให้
ผู
้
จาริ
กแสวงบุ
ญ
และประชาชนทุ
กชนชั้
น
ซึ่
งในจ�
ำนวนอโรคยศาลา ๑๐๒ แห่
งนั้
น จารึ
กระบุ
ว่
ามี
๑๗ แห่
งที่
โปรดให้
สร้
างบนเส้
นทางจากพระนครหลวง
(ยโสธรปุ
ระ) ผ่
านปราสาทพนมรุ
้
ง มุ
่
งตรงไปยั
งปราสาท
พิ
มาย ซึ่
งในยุ
คนั้
นเป็
นชุ
มชนที่
เจริ
ญมาก่
อนแล้
ว โดยตลอด
๑
๒
๓
๑. ปราสาทหิ
นพิ
มาย
๒. ปราสาทพนมรุ้
ง
๓. ปราสาทเมื
องต่ำ
�
๔. พระพุ
ทธรู
ปภายในปราสาทหิ
นพิ
มาย
๕. พระพุ
ทธรู
ปปางนาคปรก ศิ
ลปะเขมร
สมั
ยบายน ในปราสาทหิ
นพิ
มาย
๖. สถาปั
ตยกรรมรอบปราสาทหิ
นพิ
มาย