วารสารวัฒนธรรม มกราคม - มีนาคม ๒๕๕๗ - page 97
97
มกราคม-มี
นาคม ๒๕๕๗
๓
เดซา
เป็
นภาษาสั
นสกฤตสำ
�เนี
ยงชวา
ถอดเป็
นสั
นสกฤตสำ
�เนี
ยงไทยก็
คื
อ ทศ ซึ่
งอ่
าน
ว่
า ‘ทด-สะ’ และแปลว่
า สิ
บ ส่
วน มุ
กกะ
สั
นสกฤตแบบไทยก็
คื
อ มุ
ข ที่
แปลว่
า
หน้
าหรื
อระเบี
ยงที่
ยื่
นออกมา รวมความแล้
ว
เดซามุ
กกะ ของชวาก็
คื
อ ‘ทศมุ
ข’ ซึ่
งแปลว่
า
สิ
บหน้
า ตรงตั
วเป๊
ะ แต่
ทำ
�ไมไทยกลั
บนิ
ยมเรี
ยก
‘ทศกั
ณฐ์
’ ซึ
่
งแปลว่
า สิ
บคอ มากกว่
า ทศมุ
ข
ก็
ไม่
ทราบได้
…ครั
บ อย่
างที่
ว่
าไปแล้
ว ‘รามายณะ’ เป็
น
มหากาพย์
ส�
ำคั
ญของศาสนาฮิ
นดู
และภาษาที่
มาพร้
อม
กั
บศาสนานี้
คื
อ สั
นสกฤต และแม้
กาลเวลาได้
คร่
าเอา
ศาสนาฮิ
นดู
ไปจากอุ
ษาคเนย์
นานมากแล้
ว แต่
อิ
ทธิ
พลของ
สั
นสกฤตกลั
บยั
งเห็
นอยู่
ได้
มาก แม้
แต่
ในชื่
อเสี
ยงเรี
ยงนาม
หากคนในอุ
ษาคเนย์
มี
ถึ
ง ๖๐๐ ล้
านคนจริ
ง
ผมว่
ากว่
าครึ่
งแหละครั
บ ที่
ใช้
ชื่
อซึ่
งมี
ที่
มาจากภาษาสั
นสกฤต
หากจะถามว่
า อะไรเป็
นรากวั
ฒนธรรมร่
วม
ของผู
้
คนส่
วนใหญ่
ในอุ
ษาคเนย์
ผมก็
ว่
าเป็
นภาษาสั
นสกฤต
นี่
แหละครั
บ อาจมิ
ใช่
ทั้
งหมด แต่
ก็
มี
เป็
นจ�
ำนวนมากที
เดี
ยว
และรู
ปรอยอั
นจั
บต้
องได้
ของสั
นสกฤตอย่
างหนึ่
งก็
คื
อ
รามายณะ หรื
อ รามเกี
ยรติ์
นี่
แหละครั
บ
ปั
จจุ
บั
นประชาคมอาเซี
ยนมี
ทั้
งหมด ๑๐ ประเทศ
แต่
อย่
างน้
อยมี
ถึ
ง ๗ ประเทศที่
มี
เรื่
องของรามายณะปรากฏ
อยู
่
ในวั
ฒนธรรม คื
อ ไทย ลาว กั
มพู
ชา พม่
า มาเลเซี
ย
อิ
นโดนี
เซี
ย และบรู
ไน ที่
เหลื
อก็
อาจจะมี
ร่
องรอยอยู
่
บ้
าง
แต่
ไม่
โดดเด่
นจนอาจหลงหู
หลงตาผมไปบ้
าง
ในเมื
องไทยเราไม่
ต้
องอธิ
บายมาก คนไทย
ส่
วนใหญ่
แม้
แต่
ลู
กเล็
กเด็
กแดงน่
าจะรู
้
จั
ก พระราม พระ
ลั
กษณ์
นางสี
ดา ทศกั
ณฐ์
และขาดไม่
ได้
คื
อ หนุ
มาน เรื่
อง
ของรามเกี
ยรติ์
ปรากฏอยู
่
ในนาฏกรรมเก่
าแก่
อย่
าง ‘โขน’
และจิ
ตรกรรมตามที่
ต่
างๆ
ในประเทศลาวก็
เช่
นกั
น การละเล่
นที่
เรี
ยกว่
า
ฟ้
อน ‘พะลั
ก-พะลาม’ ก็
คื
อ รามายณะ นั่
นเอง สมั
ยก่
อน
ถื
อเป็
นนาฏศิ
ลป์
ชั
้
นสู
ง ที่
ฝึ
กสอนกั
นแต่
ในพระราชวั
ง ปั
จจุ
บั
น
เขาก็
ก�
ำลั
งพยายามฟื้
นฟู
ขึ้
นมาใหม่
ประเทศกั
มพู
ชาซึ่
งใกล้
ชิ
ดทางวั
ฒนธรรมกั
บไทย
อย่
างยิ่
ง เขาเรี
ยกรามายณะว่
า ‘เรี
ยมเกร์
’ เห็
นไหมว่
าแทบ
จะเหมื
อนที่
ไทยเรี
ยก รามเกี
ยรติ์
เลย ค�
ำถามคื
อเขมรเรี
ยก
ตามไทย หรื
อ ไทยเรี
ยกตามเขมร
เขมรเองเขาก็
มี
นาฏศิ
ลป์
ส�
ำคั
ญที่
นิ
ยมน�
ำเอาเรื่
อง
เรี
ยมเกร์
หรื
อรามเกี
ยรติ์
มาแสดง ถื
อว่
าเป็
นต้
นแบบของ
โขนละคร นั่
นคื
อการแสดงที่
เรี
ยกว่
า “แสบกธม” (อ่
านว่
า
สะ-แบก-ทม) ซึ
่
งมี
ร่
องรอยในราชส�
ำนั
กกั
มพู
ชาตั้
งแต่
ราวหลั
ง
พ.ศ. ๑๕๐๐
I...,87,88,89,90,91,92,93,94,95,96
98,99,100,101,102,103,104,105,106,107,...IV