62
วั
ฒนธ รม
ย้
อนกลั
บไปในอดี
ตคงไม่
สามารถบอกได้
แน่
ชั
ดว่
าการนวด
แผนไทยเกิ
ดขึ
้
นครั
้
งแรกเมื
่
อใด แต่
หลั
กฐานเอกสารที
่
ชั
ดเจน
เกี
่
ยวกั
บหมอนวดและการนวดแผนไทย พบในสมั
ยกรุ
งศรี
อยุ
ธยา
ตั
้
งแต่
รั
ชสมั
ยสมเด็
จพระบรมไตรโลกนาถ ในพระไอยการนา
ต�
าแหน่
งนาพลเรื
อน คื
อต�
าแหน่
งข้
าราชการต่
าง ๆ ในฝ่
ายพลเรื
อน
ออกนามกรมหมอนวดและขุ
นนางที
่
เป็
นเจ้
ากรมไว้
ว่
า กรมหมอ
นวดขวา มี
หลวงราชรั
กษาเป็
นเจ้
ากรม และกรมหมอนวดซ้
าย มี
หลวงราโชเป็
นเจ้
ากรม
ทว่
าเมื
่
อกรุ
งศรี
อยุ
ธยาเสี
ยแก่
พม่
า พ.ศ. ๒๓๑๐ ต�
าราแพทย์
แผนไทยได้
ถู
กท�
าลายและสู
ญหายไปเป็
นอั
นมาก
กระทั
่
งพระบาทสมเด็
จพระพุ
ทธยอดฟ้
าจุ
ฬาโลกมหาราช
รั
ชกาลที
่
๑ ได้
ย้
ายราชธานี
จากฝั
่
งธนบุ
รี
มาฝั
่
งพระนคร และทรง
ปฏิ
สั
งขรณ์
วั
ดโพธารามหรื
อวั
ดโพธิ
์
ขึ
้
นเป็
นอารามหลวง ให้
ชื
่
อว่
า
วั
ดพระเชตุ
พนวิ
มลมั
งคลาราม ทรงมี
รั
บสั
่
งให้
สื
บเสาะรวบรวม
ต�
ารายา ฤๅษี
ดั
ดตน และต�
ารานวด น�
ามาแสดงไว้
ตามศาลาราย
ของวั
ดโพธิ์
เพื่
อให้
คนทั่
วไปสามารถเข้
ามาศึ
กษาหาความรู้
ต่
อมาในปี
พ.ศ. ๒๓๗๕ พระบาทสมเด็
จพระนั
่
งเกล้
า
เจ้
าอยู
่
หั
ว รั
ชกาลที
่
๓ ทรงพระกรุ
ณาโปรดเกล้
าฯ ให้
ปฏิ
สั
งขรณ์
วั
ดโพธิ
์
อี
กครั
้
ง ทรงให้
หล่
อรู
ปฤๅษี
ดั
ดตนโลหะ ๘๐ ตน รวบรวม
ต�
าราการแพทย์
และต�
ารานวด รวมทั
้
งให้
จารึ
กสรรพวิ
ชาต่
าง ๆ
ลงบนแผ่
นศิ
ลา บ้
างอยู
่
ในรู
ปจิ
ตรกรรมฝาผนั
ง ประดั
บตามศาลาราย
เสาระเบี
ยงและพระอุ
โบสถภายในวั
ดโพธิ
์
รวมทั
้
ง “ต�
าราหมอนวด
จ�
านวน ๖๐ ภาพ” ซึ
่
งจารึ
กไว้
ณ ศาลาหน้
าพระมหาเจดี
ย์
ด้
าน
เหนื
อ เท่
ากั
บเป็
นการช่
วยอนุ
รั
กษ์
ศาสตร์
การนวดแผนไทยให้
ชน
รุ่
นหลั
งได้
ศึ
กษาสื
บทอดมาจวบจนปั
จจุ
บั
น
การนวดแผนไทยซึ
่
งประกอบด้
วย การกด การบี
บ การคลึ
ง
เค้
น การดั
ด การประคบ และการอบตั
ว นั
บเป็
นการรั
กษาโรคด้
วย
วิ
ธี
การธรรมชาติ
เพราะการนวดจะช่
วยให้
ระบบไหลเวี
ยนเลื
อดใน
ร่
างกายคนเราท�
างานได้
ดี
ขึ
้
น กล้
ามเนื
้
อที
่
ตึ
งหรื
อแข็
งเกร็
งจะ
ผ่
อนคลาย และช่
วยกระตุ
้
นระบบประสาทต่
าง ๆ ให้
ท�
างานดี
ขึ
้
น
ยั
งช่
วยให้
ระบบข้
อต่
อและเส้
นเอ็
นเกิ
ดความยื
ดหยุ่
น
หลั
กการส�
าคั
ญของการนวดแผนไทย ก็
คื
อแนวเส้
นประธาน
๑๐ ซึ
่
งมี
จุ
ดเริ
่
มต้
นบริ
เวณรอบสะดื
อ แล้
วแยกออกไปตามทิ
ศทาง
ต่
างกั
น เพื
่
อควบคุ
มส่
วนต่
าง ๆ ของร่
างกาย หากเส้
นประธาน
๑๐ มี
ความผิ
ดปกติ
จะท�
าให้
เกิ
ดโรคในลั
กษณะต่
างกั
นไป
เส้
นประธานทั
้
ง ๑๐ เส้
น ได้
แก่
อิ
ทา ปิ
งคลา สุ
มะนา กาลทารี
หั
สรั
งษี
ทวารี
จั
นทภู
สั
ง รุ
ช�
า สิ
กขิ
ณี
และ สุ
ขุ
มั
ง โดยเส้
นประธาน
แต่
ละเส้
นมี
ความสั
มพั
นธ์
กั
บอาการเฉพาะของเส้
นนั
้
น ๆ