วารสารวัฒนธรรม เมษายน - มิถุนายน ๒๕๕๗ - page 83

83
๑ “ขี้
สู
ด” เกิ
ดจากการทำ
�รั
งของ “ชั
นโรง” ซึ่
งเป็
นผึ้
งขนาดเล็
กหลายชนิ
ดในวงศ์
Apidae โดยรั
งจะทำ
�จากขี้
ผึ้
งผสมดิ
นและยางไม้
มี
การเรี
ยกชื่
อแตกต่
างกั
นไป
เช่
น หู
ด ขี้
ตั
งนี
หรื
อ กิ
นชั
น ส่
วนทางอี
สานเรี
ยกว่
า ขี้
สู
ด นั่
นเอง
๒ “ย่
านาง” เป็
นชื่
อไม้
เถาชนิ
ดหนึ่
ง ใช้
ต้
มกั
บหน่
อไม้
แก้
รสขื่
น รากย่
านางใช้
ทํ
ยาได้
บ้
างก็
เรี
ยกเถาวั
ลย์
เขี
ยว
สื
บสานต�
ำนานแคนอี
สาน
ในการถ่
ายทอดภู
มิ
ปั
ญญาการท�
ำแคนให้
คงอยู
นั้
น ช่
างสุ
ดได้
มี
การไปสอนตามโรงเรี
ยนต่
างๆ หลายโรงเรี
ยน
โดยเฉพาะที่
“โรงเรี
ยนนาหนองทุ
มวิ
ทยา” ซึ่
งช่
างสุ
ดจะน�
อุ
ปกรณ์
ต่
างๆ ในการท�
ำแคนไปสอนให้
เด็
กๆ ได้
เห็
น ได้
เรี
ยนรู
กั
บของจริ
ง เพราะช่
างสุ
ดระลึ
กอยู
เสมอว่
า แคนนั้
นเป็
ต้
นตระกู
ลของผู
คนในภาคอี
สาน จึ
งอยากจะให้
ลู
กหลาน
ได้
อนุ
รั
กษ์
สื
บต่
อไว้
นานๆ โดยช่
างสุ
ดได้
พยายามอย่
างเต็
มที่
ในการช่
วยสื
บสานปณิ
ธานนี้
จากบรรพบุ
รุ
ษ ตราบเท่
าที่
ยั
มี
แรงอยู
ซึ
งช่
างสุ
ดได้
เล่
าถึ
งกระบวนการในการท�
ำแคนไว้
เบื้
องต้
นดั
งนี้
ในแคนหนึ่
งเต้
าจะมี
"ไม้
ลู
กแคน" ซึ่
งท�
ำมาจาก
ไม้
กู
แคนเป็
นพื
ชตระกู
ลไผ่
เกิ
ดขึ้
นเองตามธรรมชาติ
ทางภาคอี
สานเรี
ยกว่
าไม้
ไผ่
เฮี้
ย โดยที่
เราไม่
ได้
ไปปลู
เราก็
ไปคั
ดเลื
อกเอาไม้
เหล่
านั้
นมาท�
ำเป็
นแคน และมี
“ไม้
เต้
าแคน” ส�
ำหรั
บใช้
เป็
นช่
องลม ที่
จะควบคุ
มไม่
ให้
ลมรั่
ออกไปที่
อื่
น บั
งคั
บให้
ลมไปที่
ลิ
นแคน ซึ่
งเต้
าแคนจะเป็
ตั
วอุ้
มลมเอาไว้
นั่
นเอง แล้
วก็
ต้
องมี
“ขี้
สู
ขี้
สู
ดเป็
นขี้
ผึ้
ชนิ
ดหนึ่
ง เอาไว้
ยาแนวตรงเต้
าแคน เพื่
อไม่
ให้
ลมรั่
วออก
และที่
ส�
ำคั
ญจะต้
องมี
โลหะชนิ
ดหนึ่
งที่
เอาไว้
ท�
ำ “ลิ้
นแคน”
ซึ่
งเสี
ยงจะดี
หรื
อไม่
ก็
อยู
ที่
ลิ้
นแคน อยู
ที่
คุ
ณภาพการท�
ำลิ้
ถ้
าได้
มาตรฐานก็
จะดั
งดี
สุ
ดท้
ายก็
มั
ดด้
วย
“เถาย่
านาง
(บางแห่
งปรั
บใช้
วั
สดุ
อื่
นตามความเหมาะสม เช่
น หวาย หรื
เชื
อก เป็
นต้
น) ตามประวั
ติ
ความเป็
นมา หรื
อต�
ำนานต่
างๆ
ก็
เล่
าว่
า มี
การน�
ำเถาย่
านางมามั
ดแคน ซึ่
งถื
อเป็
นภู
มิ
ปั
ญญา
อี
สานดั้
งเดิ
มแท้
ส่
วนวิ
ธี
การท�
ำแคนนั้
นช่
างสุ
ดได้
แนะน�
ำวิ
ธี
การ
เบื้
องต้
นดั
งนี้
คื
อ แรกเริ่
มก็
ต้
องคั
ดเลื
อกไม้
ให้
ได้
มาตรฐาน
ลิ้
นก็
ต้
องได้
มาตรฐาน การสั
บลิ้
น ต้
องท�
ำให้
ลิ้
นละเอี
ยด เพื่
ให้
เสี
ยงดั
งคงที่
ไม่
แตก มี
ความทนทาน ซึ่
งต้
องอาศั
ยความ
ช�
ำนาญ โดยการเที
ยบเสี
ยงก็
มี
แบบอย่
าง ภาษาอี
สานเขา
เรี
ยกว่
า แคนแพแปด แพเก้
า แพสิ
บ เป็
นต้
น หลั
กการก็
คื
เสี
ยงสู
งนั้
น ลิ้
นกั
บแพจะอยู
ใกล้
กั
น ถ้
าเสี
ยงต�่
ำก็
ให้
ขยั
บขึ้
ไปเป็
นระยะๆ ตามขั้
นเสี
ยง
I...,73,74,75,76,77,78,79,80,81,82 84,85,86,87,88,89,90,91,92,93,...122
Powered by FlippingBook