วารสารวัฒนธรรม เมษายน - มิถุนายน ๒๕๕๗ - page 22
22
การแสดงหมอลำ
�กลอน
และหมอล�
ำหญิ
งใช้
ค�
ำกลอนด�
ำเนิ
นเนื้
อหา เน้
นความสนุ
กสนาน
มี
แคนเป่
าคลอให้
เกิ
ดอรรถรส ให้
ความสุ
ขแก่
ผู
้
ชม ลั
กษณะเดี
ยว
กั
บการร้
องเพลงอี
แซว หรื
อเพลงพื้
นบ้
านหลายๆ อย่
างของ
ภาคกลางที่
มุ
่
งการเกี้
ยวพาราสี
แก้
ค�
ำกั
นด้
วยไหวพริ
บปฏิ
ภาณ
เป็
นศิ
ลปะการแสดงที่
ไม่
ใช่
เรื่
องจริ
งทั้
งของพ่
อเพลง แม่
เพลง
และหมอล�
ำ
ช่
วงที่
๔ ล�
ำเรื่
องทั่
วไป ล�
ำช่
วงนี้
มี
เนื้
อหาหลากหลาย
ขึ้
นอยู
่
ที่
การตั้
งประเด็
นเป็
นการแสดงภู
มิ
รู
้
ในเรื่
องราวต่
างๆ
เช่
น เรื่
องทางพระพุ
ทธศาสนา วรรณคดี
ที่
เกี่
ยวกั
บศาสนา
สถานการณ์
บ้
านเมื
อง การล�
ำลั
กษณะนี้
เป็
นการแสดงความรู
้
ความสามารถของหมอล�
ำ เริ่
มต้
นด้
วยการล�
ำเรื่
องใดเรื
่
องหนึ่
ง
จนหมดสาระก่
อน จากนั้
นล�
ำถามฝ่
ายตรงข้
ามว่
าจะแก้
ล�
ำได้
อย่
างไร หากแก้
ได้
ถู
กต้
องถู
กใจผู
้
ฟั
ง หมอล�
ำท่
านนั้
นก็
จะได้
รั
บ
ความนิ
ยมจากผู
้
ฟั
งเช่
นเดี
ยวกั
บล�
ำเกี้
ยว ซึ่
งน�
ำไปสู
่
ความมี
ชื่
อเสี
ยงของหมอล�
ำท่
านนั้
นๆ ส่
งผลทางบวกต่
อการ
ประกอบอาชี
พหมอล�
ำด้
วย
ช่
วงที่
๕ ล�
ำลาหรื
อล�
ำล่
องล�
ำลา เป็
นการล�
ำช่
วง
สุ
ดท้
ายเพื่
อขอบคุ
ณเจ้
าภาพ บุ
คคลที่
เกี่
ยวข้
อง ขอบคุ
ณผู
้
ชม
อ�
ำนวยพรให้
ผู
้
ชมทุ
กคนโชคดี
มี
สุ
ข ห่
างทุ
กข์
โศกโรคภั
ยทั้
งปวง
การล�
ำลานี้
บรรยายเนื้
อความและความรู
้
สึ
กเสี
ยดายที่
ต้
อง
จากลาไป จึ
งมี
ค�
ำเรี
ยกว่
า “ล�
ำบั้
นออนซอน” ซึ่
งมี
ความหมาย
ถึ
งการน่
าเสี
ยดายจนไม่
อยากลาจาก ถื
อเป็
นธรรมเนี
ยม
การแสดงทั่
วไป และเป็
นที่
หมายว่
ารู
้
ว่
าการแสดงถึ
งช่
วงสุ
ดท้
าย
ของการแสดงแล้
ว
ในการแสดงหมอล�
ำพื้
นและหมอล�
ำกลอน สิ่
งที่
คู
่
กั
นที่
ท�
ำให้
เกิ
ดอรรถรส เกิ
ดสี
สั
นของการแสดงและขาดไม่
ได้
คื
อแคน นั
บเป็
นสั
ญลั
กษณ์
ที่
โดดเด่
นของหมอล�
ำ โดยมี
หมอแคน ๒ คน บางงานอาจมี
เพี
ยงคนเดี
ยวก็
ได้
ท�
ำหน้
าที่
เป่
าเคล้
าคลอ ประสานเสี
ยงร่
วมไปกั
บแนวการล�
ำของหมอล�
ำ
ลายแคนที่
หมอแคนเป่
า มี
๔ ท�
ำนองหลั
ก คื
อ ลายใหญ่
ลายสุ
ดสะแนน ลายโป้
ซ้
าย (ลายติ
ดสู
ด) และลายส้
อย
นอกจากท�
ำนองหลั
กดั
งกล่
าวแล้
วยั
งมี
ลายแคนอี
กจ�
ำนวนมาก
ของหมอแคน เช่
น ลายแม้
ฮ้
างขึ้
นภู
ลายสาวเข็
นฝ้
าย
ลายสาวหยิ
กแม่
ลายลมพั
ดพร้
าว ลายภู
ไท ลายภู่
ตอมดอก
ลายโปงลาง ลายงั
วขึ้
นภู
ฯลฯ
ส่
านท�
ำนองที่
หมอล�
ำล�
ำนี้
มี
๓ ท�
ำนองหลั
ก คื
อ
ท�
ำนองแรกเป็
นการล�
ำทางยาว (ล�
ำล่
องหรื
อล�
ำอ่
านหนั
งสื
อ
ก็
เรี
ยก) ลั
กษณะของท�
ำนองล�
ำมี
เอื้
อน จั
งหวะลี
ลาและ
I...,12,13,14,15,16,17,18,19,20,21
23,24,25,26,27,28,29,30,31,32,...122