วารสารวัฒนธรรม เมษายน - มิถุนายน ๒๕๕๗ - page 23
23
เมษายน-มิ
ถุ
นายน ๒๕๕๗
การแสดงหมอลำ
�เพลิ
น
ข้
อมู
ลเพิ่
มเติ
ม
ท�
ำนองช้
า มี
การเอื้
อนเสี
ยงเพื
่
อให้
เกิ
ดความไพเราะจั
บใจผู
้
ฟั
ง
ใช้
บรรยายธรรมชาติ
ความรั
ก หรื
อสะท้
อนอารมณ์
เศร้
า
ท�
ำนองที่
๒ ล�
ำทางสั้
น มี
ลั
กษณะของท�
ำนองล�
ำแบบเนื้
อเต็
ม
ไม่
มี
เอื้
อน ยกเว้
นสวนที่
ขึ้
นต้
นมี
ว่
า “โอละนอ” เดิ
นกลอนอย่
าง
รวดเร็
ว กระชั
บ นิ
ยมใช้
ส�
ำหรั
บบรรยายเนื้
อความที่
ต้
องการ
ความรวดเร็
วเป็
นส�
ำคั
ญ โดยมุ
่
งที่
เนื้
อหาสาระมากกว่
า
ความไพเราะ ล�
ำทางสั้
นมั
กแสดงออกในทางความสุ
ข
สบายใจ ส่
วนท�
ำนองที่
๓ ล�
ำเต้
ย มี
ท�
ำนองย่
อย เช่
น ล�
ำเต้
ยโขง
ล�
ำเต้
ยพม่
า ล�
ำเต้
ยธรรมดา ถ้
าเป็
นหมอล�
ำแถบอ�
ำเภอโนนตาล
จั
งหวั
ดมุ
กดาหาร มี
ล�
ำเต้
ยหั
วโนนตาล ซึ่
งเป็
นลั
กษณะเฉพาะ
ของท�
ำนองในพื้
นที่
แห่
งนี้
ท�
ำนองของล�
ำเต้
ยใช้
จั
งหวะรวดเร็
ว
กระฉั
บกระเฉงนิ
ยมใช้
ล�
ำโต้
ตอบระหว่
างหมอล�
ำชา-หมอล�
ำหญิ
ง
มุ่
งการเย้
าหยอก เกี้
ยวพาราสี
ตลกขบขั
น
โอกาสที่
มี
การแสดงหมอล�
ำ นั
บเป็
นคุ
ณค่
า
ทางการแสดงที่
สะท้
อนความเป็
นวั
ฒนธรรมเพลงและ
ดนตรี
อี
สานที่
สามารถน�
ำไปแสดงในงานอย่
างกว้
างขวางทั้
ง
งานมงคลและงานอวมงคล เช่
น งานทอดผ้
าป่
า งานบุ
ญผะเวส
(งานบุ
ญมหาชาติ
) งานเข้
าพรรษา งานทอดกฐิ
น งานบวชนาค
งานแต่
งงาน งานขึ้
นปี
ใหม่
งานสมโภชหรื
องานเฉลิ
มฉลองต่
างๆ
งานเทศกาลประจ�
ำปี
ของท้
องถิ่
น งานกาชาดของแต่
ละจั
งหวั
ด
งานศพ งานท�
ำบุ
ญอุ
ทิ
ศส่
วนกุ
ศลให้
แก่
ผู้
ล่
วงลั
บไปแล้
ว
ในปั
จจุ
บั
นแม้
ว่
าหมอล�
ำมี
พั
ฒนาการคล้
อยไปตาม
การเปลี่
ยนแปลงทางสั
งคมวั
ฒนธรรมและเศรษฐกิ
จนั
บตั้
งแต่
การเกิ
ดหมอล�
ำหมู
่
ที่
ด�
ำเนิ
นเป็
นเรื่
องราว หมอล�
ำเพลิ
นที่
เพิ่
มต่
อจากหมอล�
ำหมู
่
และหมอล�
ำซิ่
งซึ่
งมี
ความรวดเร็
ว
ทั
นใจกว่
า เข้
ารสนิ
ยมของผู
้
คนรุ
่
นใหม่
มี
การน�
ำรู
ปแบบ
ของลิ
เกภาคกลาง การร้
องเพลงลู
กทุ
่
ง การเพิ่
มดนตรี
ใน
รู
ปแบบของวงดนตรี
พื้
นบ ้
านอี
สานไปจนถึ
งการน�
ำ
เครื่
องดนตรี
สากลเข้
ามาผสมผสานให้
เป็
นที่
ชื
่
นชอบของ
ผู
้
ชมการแสดงในปั
จจุ
บั
น แต่
เมื่
อมองลึ
กไปยั
งคุ
ณค่
าของ
หมอล�
ำที่
เป็
นเนื้
อแท้
ดั้
งเดิ
มก็
ยั
งคงด�
ำรงอยู
่
สิ่
งส�
ำคั
ญทาง
ด้
านมรดกภู
มิ
ปั
ญญาทางวั
ฒนธรรมได้
ให้
ความยอมรั
บ
ว่
าหมอล�
ำพื้
น และหมอล�
ำกลอน คื
อรากฐานที่
เป็
นแก่
น
วั
ฒนธรรมภู
มิ
ปั
ญญาของชาวอี
สาน ด้
วยคุ
ณค่
าทางศิ
ลปะ
และวั
ฒนธรรมเช่
นนี้
I...,13,14,15,16,17,18,19,20,21,22
24,25,26,27,28,29,30,31,32,33,...122