วารสารวัฒนธรรม เมษายน - มิถุนายน ๒๕๕๗ - page 26
จั
งหวั
ดสุ
ริ
นทร์
ดิ
นแดนอี
สานใต้
ของประเทศไทย
เป็
นอี
กพื้
นที่
หนึ่
งที่
มี
ผู
้
คนสื
บสานฝี
มื
อเชิ
งช่
างเครื่
องเงิ
น-ทอง
มาแต่
อดี
ตและยั
งคงสื
บมาจนปั
จจุ
บั
น สุ
ริ
นทร์
มี
กลุ
่
มชนที่
อาศั
ยอยู
่
หลากหลายกลุ
่
ม ประชากรกลุ
่
มใหญ่
คื
อกลุ
่
มชน
เขมร กู
ย และลาว ภายหลั
งมี
กลุ่
มคนไทย ไทยเบิ้
ง (โคราช)
จี
น และกลุ
่
มอื่
นๆ มาอยู
่
ร่
วมกั
น กลายเป็
นดิ
นแดนที่
มี
ความหลากหลายทางวั
ฒนธรรม มี
ทั้
งวั
ฒนธรรมที่
เป็
น
อั
ตลั
กษณ์
เฉพาะ อาทิ
เช่
น กลุ่
มชาวกู
ยเลี้
ยงช้
าง และมี
การ
ผสมผสานวั
ฒนธรรมอย่
างกลมกลื
นลงตั
วปรากฏในงาน
พิ
ธี
กรรมหลายพิ
ธี
กรรม
เล่
าต่
อๆ กั
นมาในหมู
่
ลู
กหลานชาวอ�
ำเภอ
เขวาสิ
นริ
นทร์
จั
งหวั
ดสุ
ริ
นทร์
ถึ
งความเป็
นมาของสกุ
ลช่
าง
เครื่
องประดั
บเงิ
น-ทอง ว่
า รุ่
นชวดเป็
นช่
างท�
ำทองได้
อพยพ
จากทางใต้
ของอาณาจั
กรกั
มพู
ชา ข้
ามพนมดองแร็
กมาตั้
ง
รกรากที่
บ้
านคู
ประทาย ตั้
งแต่
ปลายสมั
ยอยุ
ธยา (ภายหลั
ง
ตั้
งเป็
นเมื
องสุ
ริ
นทร์
) ชวดที่
อพยพมาได้
แต่
งงานกั
บชาวบ้
าน
คู
ประทายและมี
บุ
ตร ท่
านได้
ถ่
ายทอดวิ
ชาความรู
้
เชิ
งช่
างนี
้
แก่
บุ
ตรชื่
อ “ตาแก้
ว” และตาแก้
วได้
ถ่
ายทอดวิ
ชาความรู
้
นี้
ต่
อให้
บุ
ตรชื่
อ “ตาเป็
ด” ซึ่
งภายหลั
งคุ
ณตาเป็
ดได้
แต่
งงานกั
บ
“คุ
ณยายซ็
อม” แห่
งบ้
านโชค เขวาสิ
นริ
นทร์
จึ
งได้
มาตั้
งรกราก
ที่
บ้
านโชคและประกอบอาชี
พเป็
นช่
างท�
ำเครื่
องประดั
บทอง
คุ
ณตาเป็
ดมี
ฝี
มื
อเป็
นที่
ร�่
ำลื
อ ท่
านได้
ถ่
ายทอดความรู
้
ให้
แก่
บุ
ตร
คื
อ “คุ
ณตาเกิ
ด มุ
ตตะโสภา” และ “คุ
ณตาตุ่
ม มุ
ตตะโสภา”
บุ
ตรรุ
่
นนี้
ได้
มุ
่
งมั่
นในการสื
บทอด ในยามว่
างจากฤดู
กาล
ท�
ำนาทั้
งสองได้
เดิ
นทางไปซื้
อทองและเงิ
นจากจั
งหวั
ด
อุ
บลราชธานี
เพื่
อมาท�
ำเครื่
องประดั
บรู
ปแบบต่
างๆ เช่
น
ตะเกา (ตุ้
มหู
) และ ประเกื
อม (ประค�
ำ) โดยน�
ำมาร้
อยเป็
น
สร้
อยข้
อมื
อ สั
งวาล ก�
ำไล แหวน สร้
อยคอตามสมั
ยนิ
ยม
และน�
ำไปขายในเขตจั
งหวั
ดสุ
ริ
นทร์
บุ
รี
รั
มย์
ศรี
สะเกษ ทั้
ง
สองท่
านได้
ถ่
ายทอดความรู
้
ให้
แก่
ลู
กหลานและผู
้
สนใจ
ในหมู
่
บ้
านมาหลายรุ
่
นจวบจนปั
จจุ
บั
นอาจนั
บได้
ว่
าเป็
น
ชั่
วอายุ
ที่
๗ ของการสื
บทอด
ปราชญ์
ชาวสุ
ริ
นทร์
ได้
เปรี
ยบเปรยไว้
ว่
า “หญิ
งสาว
ชาวสุ
ริ
นทร์
เฉิ
ดฉั
นด้
วยการนุ
่
งผ้
าไหม ใส่
ประเกื
อม” เป็
น
ถ้
อยค�
ำที่
งดงามอ่
อนช้
อย สมดั
งลวดลายและความอุ
ตสาหะ
ในการสรรสร้
างงานฝี
มื
ออั
นประณี
ตของช่
างท�
ำเครื่
องประดั
บ
เหล่
านั้
น
เครื่
องประดั
บเงิ
น-ทอง ของชาวอ�
ำเภอเขวาสิ
นริ
นทร์
ที่
มี
ชื่
อเสี
ยงมาช้
านานได้
แก่
ตะเกา คื
อ ต่
างหู
และประเกื
อม
คื
อ เม็
ดประค�
ำ นั่
นเอง แต่
ทุ
กวั
นนี้
ช่
างที่
สื
บทอดการท�
ำ
เครื
่
องประดั
บทองไม่
ค่
อยมี
คนท�
ำแล้
วเนื่
องจากราคาของทอง
ที่
สู
งขึ้
น ปั
จจุ
บั
นยั
งมี
ครู
ช่
างรุ
่
นอาวุ
โสสองท่
าน คื
อ คุ
ณลุ
งป่
วน
เจี
ยวทอง แห่
งบ้
านโชค และคุ
ณลุ
งปั
ญญา บุ
ตรชาติ
บ้
านนาตั
ง
ทั้
งสองท่
านยั
งคงถ่
ายทอดความรู
้
ในการท�
ำเครื่
องประดั
บเงิ
น
ให้
แก่
ลู
กหลานตามความช�
ำนาญของตน
I...,16,17,18,19,20,21,22,23,24,25
27,28,29,30,31,32,33,34,35,36,...122