79
มกราคม-มี
นาคม ๒๕๕๗
โนรายกได้
ฝึ
กโนราตั้
งแต่
อายุ
๘ ขวบ และได้
ฝึ
กกั
บ “โนราเลื่
อน พงศ์
ชนะ” กระทั่
งแยกออกไปตั้
งคณะ
ของตั
วเองตั้
งแต่
อายุ
๑๖ ปี
โดยช่
วงตั้
งคณะใหม่
ๆ นั้
น พอ
หน้
าแล้
งก็
น�
ำคณะไปแสดงในเขตจั
งหวั
ดภู
เก็
ตและพั
งงา
เป็
นประจ�
ำ เมื่
อหน้
าฝนก็
น�
ำคณะกลั
บพั
ทลุ
ง และช่
วงที่
ว่
างเว้
นจากการแสดงก็
ได้
ไปฝึ
กร�
ำท�
ำบทกั
บโนราวั
น (เฒ่
า)
นครศรี
ธรรมราช ซึ่
งฝึ
กอยู่
ประมาณ ๖ เดื
อนก็
ช�
ำนาญ และ
ได้
เข้
าพิ
ธี
ครอบเทริ
ด หรื
อพิ
ธี
ผู
กผ้
าใหญ่
กั
บโนราวั
น (เฒ่
า)
ด้
วย ซึ่
งถื
อเป็
นพิ
ธี
ศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
และมี
ความส�
ำคั
ญมากต่
อผู
้
ที่
มี
อาชี
พเป็
นโนรา โดยเฉพาะส�
ำหรั
บผู
้
ที่
จะเป็
นนายโรงโนรา
หรื
อหั
วหน้
าคณะโนราต่
อไป จากนั้
นโนรายกก็
กลั
บมาบวช
๑พรรษาและรั
บราชการต�
ำรวจตามล�
ำดั
บหลั
งออกจากราชการ
ก็
ร�
ำโนราหาเลี้
ยงชี
พแต่
เพี
ยงอย่
างเดี
ยว
ปกติ
การร�
ำโนราหากจั
ดขึ้
นเพื
่
อการชมในฐานะ
มหรสพจะเรี
ยกว่
า
“โนราร�
ำ”
แต่
ถ้
าคณะโนราเดิ
นทางไป
แสดงยั
งต่
างถิ่
นในลั
กษณะแสดงเร่
ไปเรื่
อยๆ จะเรี
ยกว่
า
“โนราเดิ
นโรง”
และโนราตั้
งแต่
๒ คณะมาแสดงประชั
น
ขั
นแข่
งกั
นก็
เรี
ยกว่
า
“โนราโรงแข่
ง”
ซึ่
งโนรายกเคยร�
ำ
ทั้
ง
โนราโรงครู
๑
โรงแข่
ง ไปจนถึ
งร�
ำสาธิ
ต และฝึ
กศิ
ษย์
ทั้
งในนามส่
วนตั
ว และในนามของสถาบั
นการศึ
กษา
เป็
นจ�
ำนวนมาก ทั้
งได้
ประพั
นธ์
บทกลอนโนราเพื่
อใช้
ประกอบการร�
ำมากมาย เช่
น “ธรรม-ในท่
าร�
ำ” “ละครของ
โลก” “เตื
อนไทย” “บทพราน” “บทเพลงกั
บเพลงโทน” เป็
นต้
น
๑
โนราโรงครู
เป็
นพิ
ธี
กรรมที
่
มี
ความสำ
�คั
ญในวงการโนราเป็
นอย่
างยิ
่
ง ทั
้
งนี
้
เพราะ
เป็
นพิ
ธี
กรรมเพื
่
อเชิ
ญครู
หรื
อบรรพบุ
รุ
ษของโนรามายั
งโรงพิ
ธี
เพื
่
อรั
บการเซ่
นสั
งเวย
เพื่
อรั
บของแก้
บน และเพื่
อครอบเทริ
ดหรื
อผู
กผ้
าแก่
ผู้
แสดงโนรารุ่
นใหม่
ด้
วยเหตุ
ที
่
ต้
องทำ
�การเชิ
ญครู
มาเข้
าทรง (หรื
อมา “ลง”) ยั
งโรงพิ
ธี
จึ
งเรี
ยกพิ
ธี
กรรมนี
้
อี
กชื
่
อหนึ
่
ง
คื
อ
“โนราลงครู
”