วารสารวัฒนธรรม มกราคม - มีนาคม ๒๕๕๗ - page 73
73
หลั
งเหตุ
การณ์
๖ ตุ
ลา ๑๙ สถาพร ศรี
สั
จจั
ง
เขี
ยนงานประพั
นธ์
ในนามปากกาใหม่
อี
กนามปากกาหนึ่
งว่
า
พนม นั
นทพฤกษ์
ประเดิ
มด้
วยเรื่
องสั้
น
“คลื่
นหั
วเดิ่
ง”
ลงพิ
มพ์
ในนิ
ตยสารช่
อการะเกด และได้
รั
บรางวั
ลช่
อการะเกดประจ�
ำปี
๒๕๑๙ ต่
อมาเรื่
องสั้
นเรื่
องนี้
ได้
รั
บรางวั
ลดี
เด่
นประจ�
ำปี
๒๕๒๒ จากสมาคมภาษาและหนั
งสื
อแห่
งประเทศไทย
ในพระบรมราชู
ปถั
มภ์
“คลื่
นหั
วเดิ่
ง”
เป็
นเรื่
องที่
จั
บใจ
คนหนุ
่
มสาวนั
กอุ
ดมคติ
เพราะยื
นหยั
ดความเป็
นนั
กสู
้
ที่
เผชิ
ญหน้
ากั
บปั
ญหา ไม่
ยอมพ่
ายแพ้
ต่
ออุ
ปสรรคและ
ชะตากรรมที่
โหมกระหน�่
ำอย่
างรุ
นแรง หลั
งจากนั้
นมี
เรื่
องสั้
นอี
กจ�
ำนวนมากในนามปากกานี้
ทยอยสู
่
สายตาผู
้
อ่
าน
เป็
นเรื่
องสั้
นสะท้
อนภาพสั
งคมและวั
ฒนธรรมของท้
องถิ่
น
ชนบทภาคใต้
ที่
ได้
รั
บผลกระทบจากการพั
ฒนาที่
เน้
น
วั
ตถุ
นิ
ยมและบริ
โภคนิ
ยม เรื่
องสั้
นเหล่
านี้
ต่
อมารวมเล่
ม
ในชื่
อว่
า
คื
นฟ้
าฉ�่
ำดาว รอยเปื
้
อน และทางเดิ
น ยื
นต้
านพายุ
ดาวที่
ขี
ดเส้
นฟ้
า
นอกจากนี้
ยั
งเขี
ยนนวนิ
ยายเรื่
อง
ทุ่
งหญ้
าขาว ป่
าสู
ง
และวั
นรุ้
งทอสาย
และ
ดั่
งผี
เสื้
อเถื่
อน
ผลงานร้
อยแก้
วอี
กประเภทหนึ่
งที่
สถาพร ศรี
สั
จจั
ง เขี
ยนไว้
คื
อวรรณกรรมเยาวชนมี
๓ เรื
่
อง คื
อ
เด็
กชายชาวเลบองหลา
และ
ดงคนดี
แม้
จะเขี
ยนไม่
มาก แต่
ทุ
กเรื่
อง
ได้
รั
บรางวั
ลจากคณะกรรมการพั
ฒนาหนั
งสื
อ
แห่
งชาติ
กระทรวงศึ
กษาธิ
การ และได้
รั
บยกย่
อง
จากองค์
กรวรรณกรรมหลายองค์
กรให้
เป็
น ๑
ใน ๑๐๐ เล่
มหนั
งสื
อดี
ที่
เด็
กและเยาวชนควรอ่
าน
ส่
วนกวี
นิ
พนธ์
นั
บเป็
นผลงานโดดเด่
น
ของสถาพร ศรี
สั
จจั
ง มี
ลี
ลาการเล่
าเรื่
องคล้
าย
เรื
่
องสั้
น และ แสดงน้
ำ
�เนื้
อของชี
วิ
ตในถ้
อยคำ
�
ที่
สรรสร้
างอย่
างมี
วรรณศิ
ลป์
ทำ
�ให้
สถาพร ศรี
สั
จจั
ง เป็
นกวี
ต้
นแบบ หรื
อ เป็
นต้
นตระกู
ลช่
างชาวใต้
ที่
สลั
กเสลาถ้
อยคำ
�เป็
นบทกวี
ที่
สั
มผั
สใจผู้
อ่
าน มี
ผลงาน
กวี
นิ
พนธ์
รวมเล่
มหลายเล่
ม เช่
น
“คื
อนกที่
ว่
ายเวิ้
งฟ้
า”
“ณ เพิ
งพั
กริ
มห้
วย” “ทะเล ป่
าภู
และเพิ
งพั
ก” “คื
อรั
บรู
้
เห็
น
คื
อเป็
น คื
อรั
ก”
บทกวี
เสี
ยดสี
การเมื
องรุ
นแรงในนามปากกา
อิ
นถา ร้
องวั
วแดง
ชื่
อ
ฟ้
องนายหั
ว
และร้
อยแก้
วเชิ
งกวี
ชื่
อ
ที่
ว่
ารั
ก..รั
กนั้
น...
กวี
นิ
พนธ์
ของสถาพร ศรี
สั
จจั
ง มี
เนื้
อหา
แบ่
งเป็
น ๒ กลุ่
มใหญ่
คื
อ กวี
นิ
พนธ์
เกี
่
ยวกั
บสั
งคมและ
การเมื
อง และ กวี
นิ
พนธ์
เกี่
ยวกั
บชี
วิ
ตและธรรมชาติ
กวี
นิ
พนธ์
เกี่
ยวกั
บสั
งคมและการเมื
อง เป็
น
งานเขี
ยนที่
สถาพรมุ
่
งเปิ
ดโปงความเลวร้
ายของสั
งคม วิ
พากษ์
ความชั่
วร้
ายและฉ้
อฉลของการเมื
องและนั
กการเมื
อง
อย่
างห้
าวหาญ บทกวี
เช่
นนี้
มี
จ�
ำนวนมาก อย่
างเช่
น
“ในความต่
าง”
แสดงข้
อเปรี
ยบเที
ยบระหว่
าง
“นั
กการเมื
อง”
กั
บ
“นั
กกานเมื
อง”
ซึ่
งเป็
นค�
ำที่
ค�
ำสิ
งห์
ศรี
นอก หรื
อ
“ลาว ค�
ำหอม”
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
สาขาวรรณศิ
ลป์
พ.ศ. ๒๕๓๕
ใช้
เป็
นชื่
อเรื่
องสั้
นเรื่
องหนึ่
ง ค�
ำว่
า
กาน
มี
ความหมายว่
า
ตั
ด
ค�
ำว่
า
นั
กกานเมื
อง
จึ
งมี
ความหมายว่
าเป็
นผู
้
ท�
ำลายบ้
านเมื
อง
I...,63,64,65,66,67,68,69,70,71,72
74,75,76,77,78,79,80,81,82,83,...IV