วารสารวัฒนธรรม มกราคม - มีนาคม ๒๕๕๗ - page 21
21
มกราคม-มี
นาคม ๒๕๕๗
ยาหยี
เสนา
เนิ่
นนานมาแล้
ว ไม่
มี
ใครทราบว่
า “ลิ
เกป่
า” หรื
อ
“ลิ
เกร�
ำมะนา” หรื
อ “ลิ
เกบก” ซึ่
งเป็
นการละเล่
นพื้
นเมื
อง
ชาวปั
กษ์
ใต้
ของไทยที่
น่
าสนใจ เป็
นที่
นิ
ยมกั
นมากแถบพื้
นที่
จั
งหวั
ดพั
ทลุ
ง นครศรี
ธรรมราช หรื
อภาคใต้
ทั่
วไป เช่
น ระนอง
กระบี่
ตรั
ง สงขลา หรื
อสตู
ล มี
มาหรื
อปรากฏตั้
งแต่
เมื่
อใด
เพี
ยงได้
รั
บการบอกเล่
าจากคนเฒ่
าคนแก่
รุ
่
นเก่
าๆ ว่
า
พื้
นที่
ภาคใต้
แทบทุ
กหมู
่
บ้
านเคยมี
คณะลิ
เกป่
าแสดงให้
คน
ในชุ
มชนได้
รั
บชม สะท้
อนกระแสนิ
ยมลิ
เกป่
าในครั้
งนั
้
นว่
า
ไม่
ธรรมดาที
เดี
ยว
กล่
าวกั
นว่
า ลิ
เกป่
าเป็
นมหรสพการแสดงการละเล่
น
ตั้
งแต่
ครั้
งอดี
ต ได้
รั
บอิ
ทธิ
พลทางวั
ฒนธรรมจากแขกเปอร์
เซี
ย
ที่
เดิ
นทางไปค้
าขายยั
งดิ
นแดนและแคว้
นต่
างๆ ยุ
คที่
ตะวั
นออกกลางรุ
่
งเรื
อง ภาษาเปอร์
เซี
ย จะเป็
นภาษาที่
ใช้
กั
น
แพร่
หลายในอ่
าวเบงกอล ทั้
งน�
ำศิ
ลปวั
ฒนธรรมและความเชื่
อ
ศาสนา ไปเผยแผ่
เกื
อบทุ
กเมื
องในคาบมหาสมุ
ทรอิ
นเดี
ย
ผ่
านเส้
นทางเดิ
นเรื
อโบราณ รวมถึ
งหั
วเมื
องส�
ำคั
ญทางฝั
่
งทะเล
ตะวั
นตกของประเทศไทย เช่
น อาณาจั
กรศรี
วิ
ชั
ย จั
งหวั
ด
สุ
ราษฎร์
ธานี
และอาณาจั
กรตามพรลิ
งค์
(พุ
ทธศตวรรษที
่ิิ
๑๓-๑๘)
ในยุ
คที่
เป็
นศู
นย์
กลางการแผ่
อิ
ทธิ
พลสร้
างพลั
งและอ�
ำนาจ
ผ่
านเมื
อง ๑๒ นั
กษั
ตร หรื
อหั
วเมื
องหน้
าด่
านชายฝั่
งส�
ำคั
ญ
ของแหลมมลายู
เนื้
อหาในหนั
งสื
อนครศรี
ธรรมราช พู
ดถึ
ง
ความเป็
นมาของลิ
เกป่
าเอาไว้
ว่
า ลิ
เกป่
าได้
แบบอย่
าง
มาจากพวกแขก กล ่
า วคื
อค�
ำ ว ่
า “ ลิ
เ ก ” มาจาก
การร ้
อง เพลงเพื่
อสรรเสริ
ญพระผู
้
เป ็
นเจ ้
าของพวก
แขกเจ้
าเซ็
นที่
เรี
ยกว่
า “ดิ
เกร์
” ซึ่
งเป็
นภาษาเปอร์
เซี
ย ที่
ได้
เข้
า
มามี
อิ
ทธิ
พลตั้
งแต่
สมั
ยกรุ
งศรี
อยุ
ธยา และเป็
นชนที่
ก่
อตั้
ง
อาณาจั
กรตามพรลิ
งค์
สมั
ยพระเจ้
าศรี
ธรรมโศกราช
ที่
เรื
องอ�
ำนาจและมี
อาณาจั
กรครอบคลุ
มพื้
นที
่
แหลมมลายู
หลั
งจากนั้
นก็
มี
คนไทยเริ่
มหั
ดร้
องเพลงดิ
เกร์
กั
นบ้
าง ซึ่
งใน
ชั้
นแรกมี
ท�
ำนองการใช้
ถ้
อยค�
ำเหมื
อนกั
บเพลงสวดของแขก
แต่
เมื
่
อมี
คนไทยน�
ำมาร้
องมากขึ้
น ก็
กลายเป็
นแบบไทย
I...,11,12,13,14,15,16,17,18,19,20
22,23,24,25,26,27,28,29,30,31,...IV