58
การนวดรั
กษาแผนโบราณของไทยเป็
นองค์
ความรู
ที่
สื
บต่
อกั
นมายาวนานนั
บแต่
อดี
ตกาล อี
กทั้
งยั
งมี
การบั
นทึ
และถ่
ายทอดอย่
างเป็
นระบบแบบแผน โดยเฉพาะอย่
างยิ่
ภายในวั
ดพระเชตุ
พนวิ
มลมั
งคลารามฯ หรื
อวั
ดโพธิ์
ที่
ประชาชนทั่
วไปรู้
จั
กเป็
นอย่
างดี
นั่
นเอง
ประติ
มากรรมของฤาษี
ในอิ
ริ
ยาบถต่
างๆ ณ วั
พระเชตุ
พนวิ
มลมั
งคลารามฯ ถื
อเป็
นหลั
กฐานสำ
�คั
ญของ
องค์
ความรู้
ในเรื่
องการนวดรั
กษาแผนโบราณ ซึ่
งมี
จารึ
แสดงเจตจำ
�นงและคุ
ณค่
าความหมายของการสร้
างขึ้
นไว้
อย่
างชั
ดเจน
ในเรื่
องดั
งกล่
าวนี้
มี
บั
นทึ
กสั้
นๆ ของสมเด็
กรมพระยาดำ
�รงราชานุ
ภาพ ซึ่
งได้
กล่
าวไว้
ในหนั
งสื
อนิ
ทาน
โบราณคดี
เรื่
องที่
๕ ที่
มี
ชื่
อว่
า “ของแปลกที่
เมื
องชั
ยปุ
ระ
ในอิ
นเดี
ย” โดยตอนหนึ่
งได้
กล่
าวไว้
ว่
. . . เ มื่
อกลั
บมา จึ
ง ค้
นหาตำ
� ร าฤ ๅ ษี
ดั
ดตน
พบอธิ
บายปรากฏในศิ
ลาจารึ
กเรื่
องสร้
างวั
ดพระเชตุ
พนฯ
ว่
า พระบาทสมเด็
จพระพุ
ทธยอดฟ้
าจุ
ฬาโลกโปรดให้
"ตั้
งตำ
�รายา" และฤๅษี
ดั
ดตนไว้
เป็
นทานตามศาลารายริ
กำ
�แพงวั
ดพระเชตุ
พนฯ รู
ปฤๅษี
ดั
ดตนสร้
างในรั
ชกาลที่
เป็
นรู
ปปั
น และคงมี
อั
กษรจารึ
กศิ
ลาติ
ดไว้
ใกล้
กั
บรู
ปฤๅษี
บอก
ว่
า ดั
ดตั
วท่
านั
นแก้
โรคอย่
างนั
น ครั
นถึ
งรั
ชกาลที
๓ เมื
ปฏิ
สั
งขรณ์
วั
ดพระเชตุ
พนฯ พระบาทสมเด็
จพระนั
งเกล้
าเจ้
าอยู
หั
โปรดให้
เปลี่
ยนรู
ปฤๅษี
เป็
นหล่
อด้
วยดี
บุ
ก และโปรดให้
พวกกวี
แต่
งโคลงสี่
ขนานชื
อฤๅษี
แล้
วบอกท่
าดั
ดตนแก้
โรค
อย่
างใดๆ จารึ
กศิ
ลาติ
ดประจำ
�ไว้
กั
บรู
ปภาพตั
วละบทหนึ่
เรี
ยกรวมกั
นว่
า "โคลงฤๅษี
ดั
ดตน"... ในนิ
ทานโบราณคดี
ตอนนี
พระองค์
ยั
งได้
กล่
าวถึ
งที่
มาของวิ
ชาความรู้
ฤาษี
ดั
ดตนว่
มี
ที่
มาจากท่
วงท่
าคลายเมื
อยขบจากการบำ
�เพ็
ญตบะของฤาษี
ชี
พราหมณ์
ซึ่
งทรงพบเห็
นการบำ
�เพ็
ญตบะของดาบสผู้
มี
ชื
อเสี
ยงซึ
งได้
เดิ
นทางมาบำ
�เพ็
ญตบะ ณ เมื
องปี
นั
ง ชาวเมื
องปี
นั
ได้
อธิ
บายต่
อพระองค์
ว่
า ดาบสนั้
นจะเว้
นวจี
กรรมไม่
พู
กั
บใครๆและนั
งสมาธิ
ตลอดทั
งวั
นนอกจากนี
มี
พิ
ธี
การแก้
เมื
อยขบ
อี
กประการหนึ
ง ซึ
งทรงสรุ
ปไว้
ว่
า ...ฉั
นได้
ฟั
งก็
เข้
าใจแจ่
มแจ้
สิ้
นสงสั
ย ได้
ความรู้
ว่
า การดั
ดตนนั้
นเป็
นส่
วนอั
นหนึ่
งของ
การบำ
�เพ็
ญตบะนั
นเอง เพราะนั
งหรื
อยื
นที
เดี
ยวตลอดวั
นยั
งค่
ทรมานร่
างกายเกิ
นวิ
สั
ย ก็
ย่
อมเกิ
ดอาการเมื่
อยขบ จึ
งคิ
วิ
ธี
ดั
ดตนสำ
�หรั
บระงั
บทุ
กขเวทนาอั
นเกิ
ดแต่
บำ
�เพ็
ญตบะ
แล้
วตั้
งเป็
นตำ
�ราไว้
แต่
ดึ
กดำ
�บรรพ์
...
บั
นทึ
กของพระองค์
นี้
ทำ
�ให้
แน่
ชั
ดว่
าวิ
ชาความรู้
ฤาษี
ดั
ดตน มี
รากฐานมาจากอิ
นเดี
แต่
โบราณกาล ซึ
งที
พิ
พิ
ธภั
ณฑสถานเมื
องชั
ยปุ
ระ ประเทศอิ
นเดี
มี
ประติ
มากรรมฤาษี
ดั
ดตนที
คล้
ายคลึ
งกั
น บ่
งบอกความเชื
อมโยง
อั
นเป็
นต้
นเค้
าแห่
งความรู้
แขนงนี้
คำ
�ว่
า “ฤาษี
” หรื
อ ฤษี
ในพจนานุ
กรมไทย ฉบั
ราชบั
ณฑิ
ตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๒ หมายถึ
ง นั
กบวชพวกหนึ่
ซึ่
งมี
มาก่
อนพุ
ทธกาล เป็
นผู้
ที่
สละบ้
านเรื
อนออกไปแสวงหา
ความสงบ ส่
วนการดั
ดตน คื
อกิ
ริ
ยาอาการในการทำ
�ให้
ร่
างกายบิ
ด ยื
ด หด งอ เปรี
ยบดั
งที่
ใช้
เรี
ยกการดั
ดวั
ตถุ
สิ่
งของ
ต่
างๆ ซึ่
งแต่
โบราณกาลนั้
นผู้
ที่
มี
วั
ตรปฏิ
บั
ติ
เช่
นนี้
คื
อเหล่
าฤาษี
ดาบส สั
นนิ
ษฐานได้
ว่
าเป็
นเหตุ
ที่
มาของชื่
อเรี
ยก “ฤาษี
ดั
ดตน”
นั่
นเอง
1...,50,51,52,53,54,55,56,57,58,59 61,62,63,64,65,66,67,68,69,70,...124