50
เดื
อน ๑๑ ออกพรรษาหน้
าน�
้
ำ
ของประชาชน พระมหากษั
ตริ
ย์
จึ
งทรงมี
พระราชพิ
ธี
เพื่
อกำ
�กั
บน้ำ
�ให้
พอเหมาะแก่
การเกษตร
พระราชพิ
ธี
หลวงที่
พระมหากษั
ตริ
ย์
ทรงกระทำ
�
เพื่
อเสี่
ยงทายโดยพระมหากษั
ตริ
ย์
และพระมเหสี
เสด็
จไป
ในพระราชพิ
ธี
เรี
ยกว่
า “อาสวยุ
ช” ดั
งในกฎมนเที
ยรบาล
กล่
าวว่
า “เดื
อน ๑๑ อาสยุ
ชแข่
งเรื
อ เดื
อน ๑๒ พิ
ทธี
จรอง
เปรี
ยงลดชุ
ดลอยโคม เดื
อน ๑ ไล่
เรื
อ”
กฎมนเที
ยรบาลกล่
าวถึ
งเดื
อน ๑๑ ซึ่
งเป็
นพิ
ธี
กรรม
เสี่
ยงทายเพื่
อควบคุ
มน้ำ
�ไว้
ดั
งนี้
เดื
อนสิ
บเอ็
ด การอาสยุ
ชพิ
ทธี
มี
หม่
งครุ
่
มซ้
ายขวา
ระบำ
�หรทึ
กอิ
นทรเภรี
ดนตรี
เช้
าธรงพระมหามงกุ
ฎ
ราชาประโภก กลางวั
นธรงพระสพรรณมาลา เอย็
นธรง
พระมาลาสุ
กหร่ำ
�สภั
กชมภู
สมเดจ์
พระอรรคมเหษี
พระภรรยาธรงพระสุ
วรรณมาลา นุ
่
งแพรลายทองธรงเสื
้
อ
พระอรรคชายาธรงศิ
รเพศมวยธรงเสื้
อ พระสนมใส่
สนองเกล้
าสภั
กสองบ่
า สมรรถไชยเรื
อต้
น สรมุ
กขเรื
อ
สมเดจ์
พระอรรคมเหษี
สมรรถไชยไกรสรมุ
กขนั้
น
เปนเรื
อเสี
่
ยงทาย ถ้
าสมรรถไชยแพ้
ไซ้
เข้
าเหลื
อเกลื
ออิ
่
ม
ศุ
กขเกษมเปรมประชา ถ้
าสมรรถไชยชำ
�นะไซ้
จะมี
ยุ
ข
กฎหมายตราสามดวง.ฉบั
บพิ
มพ์
มหาวิ
ทยาลั
ยธรรมศาสตร์
และการเมื
องแก้
ไขปรั
บปรุ
งใหม่
. (๒๕๔๘).
กำ
�ธร เลี้
ยงสั
จธรรม : บรรณาธิ
การ.
กรุ
งเทพฯ : สุ
ขภาพใจ
ซึ่
งหมายถึ
งพระมหากษั
ตริ
ย์
ทรงเรื
อสมรรถไชย
ซึ่
งเป็
นเรื
อเสี่
ยงทายและพระมเหสี
ทรงประทั
บเรื
อไกรสรมุ
ข
แล้
วพายแข่
งกั
น ถ้
าเรื
อสมรรถไชยแพ้
หมายถึ
งบ้
านเมื
องจะ
มี
ข้
าวเหลื
อเกลื
ออิ่
มนั่
นคื
อความอุ
ดมสมบู
รณ์
แต่
ถ้
าเรื
อ
สมรรถไชยชนะบ้
านเมื
องก็
จะมี
ทุ
กข์
เป็
นนั
ยยะให้
เห็
นว่
า
เพศหญิ
งเป็
นสั
ญลั
กษณ์
อย่
างชั
ดเจนที่
แสดงถึ
งความอุ
ดม
สมบู
รณ์
อั
นเป็
นแนวคิ
ดที่
มี
มาแต่
คติ
ความเชื่
อดั้
งเดิ
ม
โดยสภาพแวดล้
อมของบริ
เวณดิ
นดอนสามเหลี
่
ยม
ปากแม่
น้
ำ
�เจ้
าพระยาก่
อนการสร้
างเขื่
อนขนาดใหญ่
ที่
ทำ
�ให้
สภาพแวดล้
อมแตกต่
างไปจากเดิ
มอย่
างมาก บริ
เวณนี้
อยู่
ในแถบพาดผ่
านมรสุ
มเขตร้
อนทำ
�ให้
ฤดู
ฝนเริ่
มในราว
เดื
อนพฤษภาคม เมื่
อน้
ำ
�ฝนรวมกั
บน้
ำ
�เหนื
อที่
ไหลหลาก
มาสมทบในราวๆ เดื
อนกั
นยายนและเดื
อนตุ
ลาคม ทำ
�ให้
เกิ
ดน้
ำ
�ท่
วมปกคลุ
มพื้
นที่
ดิ
นดอนสามเหลี่
ยมปากแม่
น้
ำ
�สู
ง
โดยเฉลี
่
ยราว ๕๐ เซนติ
เมตรถึ
งหนึ
่
งเมตรเป็
นเวลาหลายเดื
อน
เพราะไม่
สามารถระบายน้
ำ
�ลงทะเลได้
อย่
างรวดเร็
ว เนื่
องจาก
ภู
มิ
ประเทศซึ่
งเป็
นที่
ราบลุ่
มและปรากฏการณ์
น้ำ
�ทะเลหนุ
น
ในช่
วงราวเดื
อนกั
นยายนถึ
งตุ
ลาคมเป็
นช่
วงที่
น้ำ
�เจิ่
งนองล้
นฝั่
งและเข้
าท่
วมพื้
นที่
ลุ่
ม ชาวนาชาวสวนในเขต
ภาคกลางจึ
งใช้
เรื
อเป็
นพาหนะเดิ
นทางในช่
วงเวลานี้
ในเพลงเรื
อซึ่
งเป็
นความทรงจำ
�จากครั้
งอดี
ตที่
แสดงถึ
ง
ฤดู
กาลและสภาพแวดล้
อมของคนท้
องทุ่
งภาคกลางไว้
ว่
า
“เดื
อนสิ
บเอ็
ดน้ำ
�นอง เดื
อนสิ
บสองน้ำ
�ทรง
พอถึ
งเดื
อนอ้
าย เดื
อนยี่
น้ำ
�ก็
รี่
ไหลลง”
ในช่
วงเดื
อนสิ
บเอ็
ดหรื
อราวๆ เดื
อนตุ
ลาคม เป็
นเวลา
ที่
ชาวนาในเขตที่
ราบลุ่
มเริ่
มเก็
บเกี่
ยวข้
าวนาปี
ในบางท้
องที่
ซึ่
งใช้
ปลู
กข้
าวขึ้
นน้ำ
�ลำ
�ต้
นสู
งราว ๒-๓ เมตรก็
อาจจะต้
องรอ
ไปจนถึ
งเดื
อนธั
นวาคมหรื
อราวเดื
อนอ้
ายในระบบการนั
บ
เดื
อนจั
นทรคติ
แบบไทยและสั
มพั
นธ์
กั
บหมดกาลวาระ
เข้
าพรรษาที
่
พระสงฆ์
จะต้
องจำ
�วั
ดไม่
เดิ
นทางเป็
นเวลา ๓ เดื
อน
หลั
งจากออกพรรษาแล้
วจึ
งถึ
งเทศกาลกฐิ
น ที่
ชาวบ้
าน
จะร่
วมใจกั
นแห่
กฐิ
นทั้
งทางบกและทางน้
ำ
�ไปยั
งวั
ดของ
ชุ
มชนต่
างๆ ที่
ต่
างปวารณาเพื่
อจองกฐิ
นไว้
ตั้
งแต่
เข้
าพรรษา
ในฤดู
กาลหน้
าน้
ำ
�มี
พิ
ธี
กรรมสำ
�คั
ญเกี่
ยวข้
องกั
บ
การเสี่
ยงทายเพื่
อสร้
างความมั่
นใจให้
เกิ
ดขึ้
น เป็
นขวั
ญและ
กำ
�ลั
งใจในการทำ
�การเกษตร เพราะตามลั
กษณะภู
มิ
ประเทศ
ของพระนครศรี
อยุ
ธยาซึ่
งเป็
นที่
ลุ่
มต่
ำ
� น้
ำ
�ท่
วมทุ่
ง บางปี
น้ำ
�มากลดไม่
ทั
นก็
ทำ
�ความเสี
ยหายแก่
พื
ชพั
นธุ์
ธั
ญญาหาร
1...,42,43,44,45,46,47,48,49,50,51
53,54,55,56,57,58,59,60,61,62,...124