Page 44 - วารสารวัฒนธรรม ตุลาคม - ธันวาคม ๒๕๕๖

42
กล่าวโดยสรุปได้ว่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้ าอยู่หัว ได้เสด็จประพาสจังหวัดชลบุรี เมื่อวันเสาร์ที่ ๗
ธันวาคม ๒๔๕๕ ผู้ว่าราชการจั งหวัดชลบุ รีในสมัยนั้น คือ
พระยาวิ เศษฦาไชย ได้จั ดวิ่ งควายถวายเพื่อทรงทอด
พระเนตรที่หน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี (ศิรารัตน์ พรหม
สิทธิ พร. ๒๕๕๑)
ที่ มาของประเพณีวิ่ งควายนั้ นมี หลากหลาย
ตามแต่ ที่ได้ เล่าเรื่องกันมา บ้างก็ เชื่อว่ าประเพณี วิ่งควาย
มาจากกิ จกรรมฉลองงานบุ ญตามพระพุ ทธศาสนา
ณ วั ดใหญ่อิ นทาราม พระอารามหลวง ซึ่ งตั้ งอยู่ตรง
ถนนเจตน์ จำ�นงค์ มีการหารือระหว่ างสมภารกับอุบาสก
อุบาสิ กาและเห็นพ้องกันว่าควรจั ดให้มีการเทศน์มหาชาติ
เป็นงานประจำ�ปี ชาวบ้านจะเตรียมปัจจัยไทยธรรมในสมัยนั้ น
นิยมใช้ อาหารประจำ�พื้นบ้านเป็ นเครื่องกั ณฑ์เทศน์ เช่น
ข้าวเปลือก ข้าวสาร หมาก มะพร้ าว กล้วย อ้อย ฟั กเขียว
ฟั กทอง และปลาแห้ง เป็นต้น บรรทุ กเกวียนไปวัด ตรงกับ
วั นขึ้น ๑๔ ค่ ำ�เดือน ๑๑ ช่วยกันจัดเตรียมงานที่ศาลาวัด
ในการเทศน์มหาชาติในวันรุ่งขึ้น
เนื้ อเรื่ องการเทศน์มหาชาติ คือเวสสั นดรชาดก
กล่าวถึงพระประวัติในอดีตชาติขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
มีทั้งหมด ๑๓ ตอนหรือ ๑๓ กัณฑ์ โดยเริ่มจากกัณฑ์ทศพร
เกวียนที่ บรรทุกปัจจัยไทยธรรมมี ๑๓ เล่ม มีควายใช้เทียมเกวียน
๒๖ ตัว ชาวบ้านจะตกแต่งเกวียนของตนให้แลดูสวยงาม
เมื่อถึงเวลาประชาชนจะมาร่วมทำ �บุญพร้อมกันมากมาย
ทำ�ให้คนและควายจำ�นวนมากเข้ามาแออัดอยู่ในวัด
พอเวลาบ่ ายคนขับเกวียนก็ชวนกันขี่ควายไปยัง
สระบัวซึ่งมีน้ำ�จื ดเพื่ อให้ควายกินและอาบ พร้ อมทั้งเก็บ
ดอกบัวด้วย ขณะที่ คนขี่ควายไปพร้อมกันมากๆ เช่นนั้น
จึงเกิดความสนุ กท้าผู้อื่นให้ขี่ควายแข่งประลองฝีเท้ าดูว่า
ภาพประเพณีวิ่งควายในอดีต