32
งานเครื่
องเขิ
ร่
วมมาด้
วยและได้
ทำ
�งานประเภทนี้
ตกแต่
งเครื่
องเรื
อน
แบบจี
นออกขาย ช่
างไทยก็
ย่
อมมี
โอกาสได้
เห็
นและอาจ
เลี
ยนแบบวิ
ธี
การมาเขี
ยนทำ
�ได้
เองขึ้
นบ้
าง จึ
งเกิ
ดการเขี
ยน
ลายกำ
�มะลอที่
มี
รู
ปภาพและลวดลายแบบไทยประเพณี
ขึ้
งานลายกำ
�มะลอได้
ขาดช่
วงไประหว่
างสมั
ที่
กรุ
งศรี
อยุ
ธยาเสี
ยแก่
ข้
าศึ
ก จนกระทั่
งพระบาทสมเด็
พระนั่
งเกล้
าเจ้
าอยู
หั
วได้
ทรงพระราชดำ
�ริ
ให้
ฟื้
นฟู
ขึ้
นอี
กครั้
ซึ่
งในสมั
ยนี้
มี
ทั้
งงานขนาดย่
อม เช่
น ไม้
ประกั
บหน้
าผู
กคั
มภี
ร์
หี
บใส่
คั
มภี
ร์
และงานขนาดใหญ่
เช่
น ตู้
ไม้
ใส่
หนั
งสื
อ ลั
บแล
ฉากบั
งตา ม้
าหมู
ซึ
งส่
วนมากเป็
นของที
ทำ
�ขึ
นเพื
อเป็
นพุ
ทธบู
ชา
งานเขี
ยนลายกำ
�มะลอบนบานประตู
-หน้
าต่
างสมั
ยรั
ชกาลที
ที่
มี
ความสวยงามแห่
งหนึ่
ง คื
อบานประตู
-หน้
าต่
างหอไตร
วั
ดโมฬี
โลกยาราม ริ
มคลองบางกอกใหญ่
แต่
สี
ตกจางลง
ไปมาก บางส่
วนก็
สู
ญหายไป ส่
วนในพระอุ
โบสถวั
ดนางนอง
เขตบางขุ
นเที
ยน ก็
มี
จิ
ตรกรรมฝาผนั
งแบบกำ
�มะลอเรื
องสามก๊
เขี
ยนอยู่
ระหว่
างช่
องหน้
าต่
าง ส่
วนพื้
นที่
ระหว่
างบานประตู
ด้
านหน้
าเป็
นภาพฮก ลก ซิ่
ว พร้
อมทั้
งเครื่
องมงคลแบบจี
นั
บเป็
นฝี
มื
อการเขี
ยนลายกำ
�มะลอสมั
ยรั
ชกาลที
๓ ที
สมบู
รณ์
อี
กแห่
งหนึ
ง งานเขี
ยนลายกำ
�มะลอภายหลั
งรั
ชกาลที่
ไม่
ปรากฏได้
ทำ
�สื
บมาอี
กเลย ในปั
จจุ
บั
นงานช่
างประเภทนี้
หาดู
ได้
ยาก จนแทบสู
ญหายไปจากความทรงจำ
�ของผู้
คน
เครื่
องเขิ
นเป็
นงานศิ
ลปะประเภทเครื่
องรั
ก มั
กทำ
เป็
นภาชนะต่
างๆ ที
ทำ
�จากผิ
วไม้
ไผ่
ซึ
งนำ
�มารี
ดแล้
วทำ
�เป็
นโครง
ฉาบด้
วยรั
กสมุ
กหรื
อรั
กชาดเพื่
อกั
นน้
�รั่
วซึ
ม ตกแต่
งผิ
ให้
เกลี้
ยง นอกจากนี้
ยั
งมี
การประดั
บตกแต่
งลวดลายต่
างๆ
ลงบนพื้
นผิ
ว คื
อใช้
เหล็
กปลายแหลมขุ
ดลงบนพื้
นรั
กที่
ทา
เคลื
อบชิ้
นงานแล้
วให้
เป็
นลวดลายตามจิ
นตนาการของช่
าง
เรี
ยกว่
า “เครื
องเขิ
นลายขุ
ด” แล้
วจึ
งถมสี
ต่
อจากนั้
นจึ
งทา
รั
กน้
�เกลี
ยงให้
มั
นเป็
นเงา หรื
ออาจตกแต่
งด้
วยการปิ
ดทองรดน้
ที
เรี
ยกว่
า “เครื
องเขิ
นลายทอง” ภาคเหนื
อและภาคกลางตอนบน
นิ
ยมทำ
�เป็
นภาชนะใช้
สอย เช่
น ขั
นโอ ขั
นข้
าว ขั
นดอก พาน
กระโถน กล่
องยาเส้
น และหี
บผ้
า เป็
นต้
น ภาชนะเครื
องเขิ
คงมิ
ใช่
เป็
นสิ
งของเครื
องใช้
ชนิ
ดใหม่
ที่
เพิ่
งเข้
ามาสู่
ล้
านนา
พร้
อมกั
บการอพยพของชาวไทเขิ
น แต่
เป็
นของที่
มี
การใช้
อย่
างแพร่
หลายในล้
านนามาก่
อนหน้
านั้
นนานแล้
ว เมื่
อพม่
ได้
ยึ
ดครองเมื
องเชี
ยงใหม่
ก็
ได้
กวาดต้
อนชาวเชี
ยงใหม่
และ
ช่
างฝี
มื
อไปไว้
ในเมื
องพม่
าหลายครั้
ง ต่
อมาพม่
าได้
นำ
�วิ
ธี
การ
ทำ
�เครื่
องเขิ
นจากล้
านนามาใช้
เครื
องเขิ
นพม่
าจึ
งถู
กเรี
ยกว่
“โยนเถ่
” (Yung The) แปลว่
า ภาชนะของไทโยน และได้
พั
ฒนา
ต่
อมาโดยแต่
งผิ
วด้
วยรั
กปิ
ดกระจกและรั
กปั้
นแปะ จนเป็
ที่
นิ
ยมมี
ชื่
อทั้
งพม่
าและไทยใหญ่
จิ
ตรกรรมฝาผนั
งลายกำ
�มะลอภาพฮก ลก ซิ่
ในพระอุ
โบสถ วั
ดนางนอง กรุ
งเทพฯ
ขั
นโอ
ภาชนะเครื่
องเขิ
สำ
�หรั
บใส่
อาหารหรื
สิ่
งของถวายพระ
ขั
นหมาก
ภาชนะเครื่
องเขิ
จั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
1...,24,25,26,27,28,29,30,31,32,33 35,36,37,38,39,40,41,42,43,44,...124