34
ปั
กขทื
นล้
านนา
มรดกอั
นทรงคุ
ณค่
าจากบรรพชน
องค์
ความรู้
ของบร รพชนชาวล้
านนาที่
ได้
สร้
างสรรค์
และรวบรวมไว้
แต่
อดี
ต อย่
างเช่
“ปั
กขทึ
นล้
านนา”
หรื
อเรี
ยกให้
เข้
าใจง่
ายกว่
านั้
นก็
คื
“ปฏิ
ทิ
นล้
านนา”
นั่
นเอง
ปั
จจุ
บั
นน้
อยนั
กที่
จะมี
คนรู้
จั
กและสนใจ แม้
กระทั่
งลู
กหลาน
ชาวล้
านนาเอง เช่
นที่
ผู้
เขี
ยนเองก็
เคยสงสั
ยเช่
นกั
นว่
า ปู่
ของ
ผู
เขี
ยนกำ
�ลั
งขี
ดเขี
ยนอะไรบางอย่
าง กระทั
งมาทราบภายหลั
งว่
สิ่
งที่
ปู่
ทำ
�นั่
นก็
คื
อ การหาฤกษ์
งามยามดี
ซึ่
งเป็
นส่
วนหนึ่
งใน
การบั
นทึ
กวั
นในปั
กขทื
นล้
านนา จากการศึ
กษาค้
นคว้
าทั้
งจาก
ตำ
�ราและปรึ
กษาผู้
เฒ่
าผู้
แก่
ปรากฏว่
าปฏิ
ทิ
นล้
านนานั้
นมี
ความหลากหลายมาก แม้
แต่
ข้
อมู
ลที่
มาจากแหล่
งเดี
ยวกั
นก็
ยั
งมี
ความแตกต่
างในรายละเอี
ยดอยู่
พอสมควร เนื่
องจากใน
อดี
ตยั
งไม่
มี
การบั
นทึ
กเป็
นลายลั
กษณ์
อั
กษรชั
ดเจนนั
ก เพราะ
เป็
นการสอนสั่
งกั
นแบบปากต่
อปากจากรุ่
นสู่
รุ่
น ดั
งนั
ความคลาดเคลื่
อน ความเปลี่
ยนแปลงจึ
งเกิ
ดขึ้
นได้
ง่
าย
แต่
อย่
างไรก็
ตาม ในความสำ
�คั
ญของปฏิ
ทิ
นล้
านนานั้
นได้
ส่
งผลและมี
อิ
ทธิ
พลต่
อการดำ
�เนิ
นชี
วิ
ตของชาวล้
านนา
ทั้
งเกี่
ยวพั
นกั
บสั
งคมการเมื
อง การปกครอง ไปจนถึ
งจารี
ประเพณี
ต่
างๆ โดยเฉพาะเรื
องที
เกี
ยวกั
บฤกษ์
ยาม วั
นดี
วั
นเสี
มุ
ขปาฐะ-ลายลั
กษณ์
ฐิ
ติ
มา สิ
งห์
แก้
เป็
นต้
น โดยในอดี
ตนั้
นไม่
ว่
าจะทำ
�อะไรชาวล้
านนาก็
จะต้
อง
ดู
ฤกษ์
ยามก่
อน เหล่
านี้
คื
อความสำ
�คั
ญและภู
มิ
ปั
ญญาที่
เรา
จะมาช่
วยกั
นสื
บสาน วั
นนี
จึ
งถื
อเป็
นโอกาสที
จะได้
มาทำ
ความรู้
จั
กกั
บปั
กขทื
นล้
านนาให้
มากขึ้
น เพื่
อคลายข้
อสงสั
เหล่
านั้
นกั
นดี
กว่
“ปฏิ
ทิ
น”
มาจากคำ
�ภาษาบาลี
โดยมี
คำ
�ว่
“ปฏิ
หมายถึ
ง เฉพาะ และคำ
�ว่
“ทิ
น”
หมายถึ
ง วั
น โดยรวมแล้
ปฏิ
ทิ
นจึ
งหมายถึ
ง “เฉพาะวั
น” คื
อ กำ
�หนดที่
ใช้
บอกเวลาใน
แต่
ละวั
น สำ
�หรั
บคนไทยกลุ่
มอื
นๆ เช่
น ล้
านนา ลื
อ เขิ
จะเรี
ยกปฏิ
ทิ
นว่
“ปั
กขทึ
น”
หรื
“ปั
กขทื
น”
บ้
างก็
เขี
ยน
เป็
“ปั
กกะตื
น”
โดยคำ
�ว่
“ปั
กข”
เป็
นภาษาบาลี
หมายถึ
ข้
าง ฝ่
าย ส่
วน
“ทื
น”
มาจากคำ
�ว่
า ทิ
น แต่
ด้
วยความที
สระอิ
มี
ลั
กษณะใกล้
เคี
ยงกั
บสระอึ
สระอื
อ จึ
งทำ
�ให้
เกิ
ดความ
คลาดเคลื
อนได้
ง่
าย แต่
ก็
นิ
ยมใช้
เรื
อยมา ดั
งนั
นบทความชิ
นนี
จึ
งใช้
ว่
“ปั
กขทื
น”
ตามรากภาษาบาลี
ซึ
งมี
ความหมายว่
า วั
โดยมั
กจะหมายถึ
งวั
นข้
างขึ้
นข้
างแรม ทั้
งนี้
เพราะระบบปฏิ
ทิ
ของคนไทยแต่
เดิ
มนั้
นจะใช้
ระบบจั
นทรคติ
มาก่
อน
1...,26,27,28,29,30,31,32,33,34,35 37,38,39,40,41,42,43,44,45,46,...124