26
สื
บสาวราวเรื่
องเครื่
องรั
ยางรั
กมาจากไหน
สั
นนิ
ษฐานว่
าชาวจี
นได้
นำ
�ยางรั
กมา ใช้
ใน
การเคลื
อบเพื
อป้
องกั
นผิ
ววั
ตถุ
และยั
งใช้
เขี
ยนลวดลายตกแต่
ผิ
ววั
ตถุ
มานานแล้
ว เช่
นการพบภาชนะไม้
เคลื
อบผิ
วด้
วยรั
อายุ
ราว ๓,๑๙๐ – ๓,๒๙๐ ปี
ส่
วนในประเทศญี่
ปุ่
น ได้
พบ
โบราณวั
ตถุ
สมั
ยก่
อนประวั
ติ
ศาสตร์
ที่
เคลื
อบด้
วยรั
กซึ่
งจมดิ
อยู่
เป็
นเวลานาน แต่
สภาพและสี
ของเนื้
อรั
กทั้
งสี
แดงและดำ
ยั
งคงสมบู
รณ์
แสดงถึ
งคุ
ณสมบั
ติ
ที
คงทนของยางรั
ก ความคิ
และกรรมวิ
ธี
การทำ
�เครื่
องรั
กคงเริ่
มมาจากจี
นแล้
วขยายไปสู่
ญี่
ปุ่
น เกาหลี
และเอเชี
ยตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
เช่
น เวี
ยดนาม
ไทย และพม่
า ตามเส้
นทางการค้
า แต่
อย่
างไรก็
ตามญี่
ปุ่
คงรู้
จั
กการนำ
�ยางรั
กมาใช้
ประโยชน์
ก่
อนที่
เทคนิ
คการทำ
เครื่
องรั
กของจี
นจะแพร่
เข้
ามามี
บทบาทในภายหลั
วิ
ธี
การทำ
�เครื
องรั
กในสมั
ยแรกๆ คงเป็
นขั
นตอน
ง่
ายๆ โดยใช้
ยางรั
กทาเพื่
อรั
กษาผิ
ววั
ตถุ
ต่
อมาจึ
งมี
พั
ฒนาการด้
านความงาม โดยทารั
กให้
เกิ
ดความเงางาม
มี
การใช้
สี
ต่
างๆ มาผสมกั
บยางรั
กให้
เกิ
ดรั
กสี
เพื่
อใช้
เขี
ยน
ลวดลายต่
างๆ และภาพเล่
าเรื่
องราว และเริ่
มมี
การเตรี
ยม
พื้
นวั
ตถุ
และลงรั
กหลายๆ ชั้
น ต่
อมามี
การนำ
�เอาโลหะมี
ค่
เช่
น ทองและเงิ
น หรื
อวั
สดุ
อื่
นๆ เช่
น เปลื
อกหอย กระจก
และดิ
นเผาเคลื
อบ ฯลฯ มาประดั
บเป็
นลวดลายบนผิ
วรั
สำ
�หรั
บการทำ
�เครื่
องรั
กในประเทศไทยนั
น การนำ
ยางรั
กมาใช้
เคลื
อบตกแต่
งวั
ตถุ
มี
หลั
กฐานที่
เป็
นรู
ปธรรม
ชั
ดเจนในสมั
ยอยุ
ธยา ทั้
งจากเอกสารและโบราณวั
ตถุ
สถาน
หลายประเภท อั
นถื
อว่
าเป็
นงานศิ
ลปะชั้
นสู
งและมี
คุ
ณค่
ที่
ได้
สื
บทอดอย่
างต่
อเนื่
องมาถึ
งสมั
ยรั
ตนโกสิ
นทร์
และนิ
ยม
กั
นอย่
างแพร่
หลายทั้
งในงานช่
างหลวงและช่
างพื้
นบ้
าน
ในสมั
ยพระบาทสมเด็
จพระจุ
ลจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว มี
กรมช่
างต่
างๆ ถึ
ง ๓๒ กรม สั
งกั
ดอยู่
ในกรมช่
างสิ
บหมู่
ซึ่
งเป็
นช่
างหลวง ต่
อมากรมศิ
ลปากรได้
จั
ดแบ่
งหมวดหมู่
ของช่
างต่
างๆ เป็
น ๑๐ หมู่
ซึ่
งช่
างแทบทุ
กหมู่
ล้
วนเกี่
ยวข้
อง
กั
บงานรั
กทั้
งสิ้
รั
กเป็
นยางไม้
ชนิ
ดหนึ่
งที่
ได้
จากการเจาะหรื
อกรี
เก็
บยางจากต้
นรั
ก ซึ
งต้
นรั
กที
ให้
ยางรั
กมี
อยู
หลายชนิ
ต้
นรั
กที
ใช้
กรี
ดยางในประเทศไทย รวมทั
งอิ
นเดี
ยและพม่
ส่
วนใหญ่
ได้
มาจากต้
นรั
กใหญ่
หรื
อรั
กพม่
า (Melanorrhoea
us i tata ) ที่
มี
การกระจายพั
นธุ์
ทั่
วไปในเขตร้
อนของ
ทวี
ปเอเชี
ยตั้
งแต่
อิ
นเดี
ยถึ
งเอเชี
ยตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
โดย
ยางรั
กของไทยมี
คุ
ณภาพดี
ที่
สุ
ด มี
ความข้
น สามารถเคลื
อบ
ผิ
ววั
ตถุ
ได้
ทนทาน แข็
งแรง และสามารถเก็
บไว้
ได้
นาน
โดยไม่
เสื่
อมคุ
ณภาพ แม้
ว่
าจะแห้
งช้
า แต่
ก็
ทำ
�ให้
การเคลื
อบ
ได้
ผิ
วเรี
ยบมี
ความสม่ำ
�เสมอ
ต้
นรั
กใหญ่
ขึ้
นอยู่
มากในป่
าเบญจพรรณและป่
าดิ
เขาแถบภาคเหนื
อของไทย เรื
อยไปจนถึ
งรั
ฐฉานในพม่
า เป็
ไม้
ยื
นต้
นผลั
ดใบขนาดกลางถึ
งขนาดใหญ่
เปลื
อกของลำ
�ต้
บาง แตกสะเก็
ดเป็
นแว่
นเล็
กๆ มี
ยางรั
กสี
ดำ
�ซึ
มตามรอยแตก
ยางรั
กจั
ดเป็
นของป่
าหวงห้
าม การเจาะเก็
บยางรั
กใน
ประเทศไทยจะเริ่
มในฤดู
ฝนเรื่
อยไปจนถึ
งฤดู
หนาว ช่
วงที่
ดี
ที่
สุ
ดคื
อเดื
อนพฤศจิ
กายน-ธั
นวาคม เพราะจะมี
น้
�ปนน้
อย
การเจาะยางรั
กจะเลื
อกต้
นรั
กที่
มี
เส้
นผ่
าศู
นย์
กลางประมาณ
๑ ฟุ
ต กรี
ดตามลำ
�ต้
นเป็
นรู
ปตั
ววี
และค่
อยๆ แกะเปลื
อกเปิ
ออกห่
างจากกระพี้
ไม้
เอากระบอกไม้
ไผ่
เสี
ยบไว้
ตรงกั
ปลายแหลมฐานตั
ววี
ยางรั
กที
ได้
ใหม่
ๆ จากต้
นจะมี
สี
น้
�ตาลอ่
อน และจะเปลี่
ยนเป็
นสี
คล้ำ
�อย่
างรวดเร็
วจนเป็
สี
ดำ
�เมื
อถู
กอากาศและแสงสว่
าง ต้
องทิ
งไว้
ราว ๑๐ วั
น จึ
งจะ
สามารถไปเก็
บยางรั
กจากต้
นรั
กที่
เจาะไว้
ได้
1...,18,19,20,21,22,23,24,25,26,27 29,30,31,32,33,34,35,36,37,38,...124