84
วั
ฒนธ รม
เรื่
องสั้
น
เพื่
อนนอน
เรื่
องสั้
นกว่
าครึ่
งเป็
นเรื่
องเสี
ยดสี
การเมื
องยุ
คก่
อน ๒๕๐๐ เช่
น “บ้
านแขนขาด”
ที่
เล่
าเรื่
องนายแพทย์
นั
กนิ
ยมไพรผู
้
พลั
ดหลงไปพบหมู
่
บ้
านประหลาดที่
มี
ประเพณี
ตั
ดแขนขวาเด็
ก
แรกเกิ
ด เนื่
องจากความเจ็
บแค้
นนั
กการเมื
องที่
ไปยกมื
อขายตั
วในสภา แต่
ก็
ยั
งมี
เรื่
องสั้
นแนวอื่
น ๆ เช่
น
ล้
อเลี
ยนนิ
ทานอี
สป อี
โรติ
ก ผี
และแนวดรามา เช่
น “มอม” ซึ่
งพรรณนาตั
วเอกที่
เป็
นสุ
นั
ขได้
ซาบซึ้
ง
ตรึ
งใจ รวมทั้
งเคยได้
รั
บคั
ดเลื
อกให้
เป็
นส่
วนหนึ่
งของหนั
งสื
อเรี
ยนวิ
ชาวรรณคดี
ไทยเมื่
อ ๓๐ ปี
มาแล้
ว
ทั
ศนะวิ
จารณ์
หนั
งสื
อชุ
ดหน้
า
๕
สยามรัฐ
คอลั
มน์
ที่
ม.ร.ว. คึ
กฤทธิ์
เขี
ยนประจ�
ำที่
หน้
า ๕ หนั
งสื
อพิ
มพ์
สยามรั
ฐ
ยุ
คทศวรรษ
๒๕๑๐ ทั้
งหมด ถู
กน�
ำมาตี
พิ
มพ์
รวมเล่
มกั
นทั้
งปกแข็
งปกอ่
อนเกื
อบ ๒๐ เล่
ม แม้
ว่
าส่
วนใหญ่
จะเป็
น
เรื่
องเนื่
องด้
วยข่
าวคราวหรื
อความเป็
นไปในยุ
คระหว่
าง พ.ศ. ๒๕๑๑-๒๕๑๖ แต่
ยั
งนั
บว่
าน่
าสนใจใน
เชิ
งเทคนิ
คการเขี
ยน และการใช้
ภาษาไทยที่
ดี
ยิ่
ง ชนิ
ดที่
อาจนั
บเป็
น “ครู
” ของนั
กเขี
ยนได้
สารคดี
ต่
างประเทศ
ถกเขมร
หมายเหตุ
การเดิ
นทางไปเที่
ยวเสี
ยมเรี
ยบ เมื
องพระนคร (หรื
อนครวั
ดนครธม)
และกรุ
งพนมเปญ ของ ม.ร.ว. คึ
กฤทธิ์
กั
บมิ
ตรสหายชาวไทย เมื่
อปี
พ.ศ. ๒๔๙๖ เนื้
อความเกี่
ยวกั
บ
อารยธรรมเขมรโบราณอ้
างอิ
งจากบั
นทึ
กของเจี
ยวต้
าก๋
วน/โจวต้
ากวาน หนึ่
งในคณะทู
ตจี
นที่
เดิ
นทางไป
ยั
งเมื
องพระนครในปี
พ.ศ. ๑๘๓๙ ความน่
าสนใจของ
ถกเขมร
อยู่
ที่
“สายตา” และ “น�้
ำเสี
ยง” แนว
ชาติ
(ไทย) นิ
ยมเข้
มข้
น ที่
ปรากฏสอดแทรกอยู่
ตลอดทั้
งเรื่
อง
เรื่
องเก่
าเล่
าใหม่
กฤษฎาภิ
นิ
หารอั
นบดบั
งมิ
ได้
รวมพิ
มพ์
จาก
สยามรั
ฐ
ครั้
งแรกในปี
พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็
นการพรรณนาพระราชประวั
ติ
ของสมเด็
จพระนเรศวรมหาราช จากพงศาวดารฉบั
บวั
นวลิ
ต (Van Vliet ฟาน ฟลี
ต) ที่
นายวั
นวลิ
ต
หั
วหน้
าสถานี
การค้
าบริ
ษั
ทอิ
นเดี
ยตะวั
นออกของดั
ตช์
บั
นทึ
กไว้
ในรั
ชสมั
ยพระเจ้
าปราสาททอง เนื้
อความ
ในหนั
งสื
อเรื่
องนี้
อาจแตกต่
างไปจากในพระราชพงศาวดารของไทยมาก แม้
กระนั้
นก็
ยั
งมี
ลั
กษณะที่
ม.ร.ว. คึ
กฤทธิ์
เห็
นว่
าเป็
น “กฤษฎาภิ
นิ
หารอั
นบดบั
งมิ
ได้
” ของพระบุ
รพกษั
ตริ
ย์
พระองค์
นั้
น
๔
๕
๖
๗