นิตยสารวัฒนธรรม ฉบับ ๔ ปีพ.ศ.๒๕๕๗ - page 22
22
โมงครุ่
ม
การเล่
นโมงครุ
่
มหรื
อเรี
ยกอี
กชื่
อหนึ่
งว่
าอี
หลั
ดถั
ดทา
ในเอกสารโบราณ เรี
ยกว่
า “หม่
งครุ
่
ม โหม่
งครุ
่
ม มงครุ
่
ม”
ในพจนานุ
กรมฉบั
บราชบั
ณฑิ
ตยสถาน ๒๕๕๖ ใช้
ว่
า
“โมงครุ
่
ม” อธิ
บายว่
า การมหรสพอย่
างหนึ่
งที่
แสดงในงาน
พระราชพิ
ธี
สมโภช เช่
น พระราชพิ
ธี
โสกั
นต์
พระราชพิ
ธี
นี้
ใช้
แก่
พระองค์
เจ้
าขึ้
นไป
การแต่
งกายของผู
้
แสดงโมงครุ
่
มคล้
ายกั
บระเบง
และกุ
ลาตี
ไม้
คื
อสวมชุ
ดเข้
มขาบ ซึ่
งเป็
นผ้
าที่
ทอควบกั
บ
ทองแล่
ง (ทองค�
ำที่
แผ่
เป็
นเส้
นบางๆ แล้
วน�
ำมาแล่
งรี
ดตั
ด
เป็
นริ้
วๆ ตามยาว : ผู้
เขี
ยน) สวมสนั
บเพลา คาดผ้
าที่
เอว
สวมเทริ
ด นั
กแสดงมื
อถื
อไม้
ก�
ำพด ลั
กษณะอย่
างตระบอง
ขนาดสั้
น ๒ อั
น ส่
วนล่
างท�
ำเป็
นด้
ามส�
ำหรั
บถื
อ ผู้
แสดงถื
อ
ไม้
ก�
ำพดข้
างละมื
อ การเล่
นโมงครุ
่
มแบ่
งผู
้
แสดงออกเป็
นกลุ
่
ม
กลุ
่
มละ ๔ คน กลุ
่
มหนึ่
งมี
กลองโมงครุ
่
ม ๑ ลู
ก ผู
้
แสดงยื
นใกล้
กั
บกลองข้
างละ๒คน กลองโมงครุ
่
มนี้
เป็
นกลองขึ
้
นหนั
งสองหน้
า
มี
รู
ปทรงอย่
างเดี
ยวกั
บกลองทั
ด วางบนฐานตั้
งตรงกลาง
ด้
านหน้
ามี
ผู
้
เล่
น ๑ คน ยื
นตี
โหม่
งบอกท่
าทางให้
ผู
้
เล่
นท�
ำตาม
ผู
้
ตี
โหม่
งตี
ให้
สั
ญญาณ เมื่
อผู
้
เล่
นเข้
าประจ�
ำที่
แล้
วคนตี
จึ
งตี
โหม่
งพร้
อมร้
องว่
า "อี
หลั
ดถั
ดทา" จากนั้
นตี
โหม่
งอี
ก ๒ ที
เพื
่
อบอกท่
าต่
างๆผู
้
เล่
นแสดงท่
าทางยั
กเอวซ้
ายที
หนึ่
ง ขวาที
หนึ่
ง
พร้
อมร้
องว่
า "ถั
ดถั
ดท่
า ถั
ดท่
าท่
าถั
ด" จนกว่
าคนตี
โหม่
งตี
ให้
สั
ญญาณเปลี่
ยนท่
า โดยผู
้
ตี
โหม่
งตี
รั
วสั
ญญาณ ผู
้
เล่
นหยุ
ด
ยื
นอยู
่
กั
บที่
ด้
วยวิ
ธี
ร้
องบอกว่
า "โมงครุ
่
ม" ตี
โหม่
ง ๒ ที
เสี
ยงดั
ง
“มงๆ” ผู้
แสดงใช้
ไม้
ก�
ำพดตี
ที่
หน้
ากลองซ้
ายที
ขวาที
ให้
ดั
ง
“ครุ
่
มๆ” ผู
้
ตี
โหม่
งตี
รั
วสั
ญญาณให้
ผู
้
แสดงหยุ
ด แล้
วบอกท่
าใหม่
ท่
าที่
เล่
นมี
หลายท่
า เช่
น ท่
าบั
วตู
ม ท่
าบั
วบาน ท่
ามั
งกรฟาดหาง
พระจั
นทร์
ทรงกลด ท่
าเทพนม ท่
าช้
างประสานงา ท่
าเมขลาล่
อแก้
ว
ท่
ารามสู
รขว้
างขวาน ท่
าหนุ
มานถวายแหวน ท่
าพระอิ
นทร์
เป่
าสั
งข์
ฯลฯ
I...,12,13,14,15,16,17,18,19,20,21
23,24,25,26,27,28,29,30,31,32,...122