69
เมษายน-มิ
ถุ
นายน ๒๕๕๗
อั
ศวิ
น แสงกุ
มาร
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
บานเย็
น รากแก่
น
ราชิ
นี
หมอลำ�ประยุ
กต์
“หมอล�
ำ”
เป็
นสุ
ดยอดเพลงพื้
นบ้
านทางภาคอี
สาน ด้
วยเนื้
อหาที่
สะท้
อนวิ
ถี
ชี
วิ
ตและ
ความเป็
นอยู
่
แบบชาวอี
สานอย่
างเที่
ยงแท้
บวกกั
บจั
งหวะท�
ำนองการขั
บร้
องที
่
สนุ
กสนาน
ผสานดนตรี
พื้
นบ้
านที่
มี
เอกลั
กษณ์
ท�
ำให้
ศิ
ลปิ
นหมอล�
ำกลายเป็
นหนึ่
งในวั
ฒนธรรมของ
ชาวอี
สานอย่
างแยกไม่
ออก และมี
ศิ
ลปิ
นหมอล�
ำเกิ
ดขึ้
นมากมาย แต่
ด้
วยความโดดเด่
นเป็
น
เอกลั
กษณ์
ของ
“บานเย็
น รากแก่
น”
หนึ่
งในศิ
ลปิ
นหมอล�
ำที
่
มี
ผลงานมาอย่
างต่
อเนื่
อง
จึ
งท�
ำให้
ได้
รั
บสมญานามว่
าเป็
น
“ราชิ
นี
หมอล�
ำ”
ย้
อนฮอยบานเย็
น
“หมอล�
ำ” เกิ
ดจากการผสมค�
ำ ๒ ค�
ำ คื
อ “หมอ”
หมายถึ
งผู
้
รู
้
ผู
้
ชํ
านาญและ“ล�
ำ”หมายถึ
ง เพลงบทกลอนดั
งนั้
น
หมอล�
ำ จึ
งหมายถึ
ง “ผู้
ที่
มี
ความชํ
านาญในการขั
บร้
องเพลง
หรื
อร่
ายกลอน” โดยเฉพาะบทเพลงพื้
นถิ่
นแถบอี
สาน และ
หนึ่
งในหมอล�
ำที่
มี
ผลงานมากมายนั่
นก็
คื
อ “นิ
ตยา รากแก่
น”
หรื
อ “บานเย็
น รากแก่
น” ชื่
อที่
ใช้
ในการแสดง อั
นเป็
นที่
รู
้
จั
กกั
นอย่
างกว้
างขวางในฐานะนั
กร้
องหมอล�
ำลู
กทุ
่
งหญิ
ง
ชาวอี
สาน เกิ
ดเมื่
อวั
นที่
๑๔ ตุ
ลาคม พ.ศ. ๒๔๙๕ จั
งหวั
ด
อุ
บลราชธานี
สมรสกั
บ “คุ
ณเทพบุ
ตร วิ
มลชั
ยฤกษ์
” มี
บุ
ตร
สาว ๒ คน บุ
ตรชาย ๑ คน ในอดี
ตแม่
บานเย็
นเริ่
มต้
นชี
วิ
ต
หมอล�
ำหลั
งจากจบการศึ
กษาประถมปี
ที่
๔ โดยเป็
นศิ
ษย์
“ครู
หนู
เวี
ยง แก้
วประเสริ
ฐ” ซึ่
งเป็
นหมอล�
ำกลอนที่
มี
ชื่
อเสี
ยงของจั
งหวั
ดอุ
บลราชธานี
และได้
ทุ
่
มเทฝึ
กซ้
อม
อย่
างหนั
กทั้
งกลอนล�
ำ ท่
าฟ้
อนร�
ำ จนสามารถขึ้
นเวที
แสดง
หมอล�
ำกลอนได้
ในขณะที่
มี
อายุ
เพี
ยง ๑๔ ปี
และรั
บงานแสดง
หมอล�
ำเป็
นอาชี
พมาจนกระทั่
งถึ
งปั
จจุ
บั
น ส�
ำหรั
บผลงานเพลง
ที่
สร้
างชื่
อจนเป็
นที่
รู
้
จั
ก ได้
แก่
“เพลงงิ
้
วต่
องต้
อนอ้
อนผู
้
บ่
าว”
รวมทั้
งล�
ำเพลิ
น และล�
ำเรื่
องต ่
อกลอนอี
กมากมาย
ด้
วยความเฉลี
ยวฉลาดในการด้
นกลอน บวกกั
บปฏิ
ภาณ
ไหวพริ
บ อี
กทั้
งมี
น�้
ำเสี
ยงไพเราะ ส่
งผลให้
เป็
นที่
นิ
ยมชมชอบ
ของผู้
ชมอย่
างต่
อเนื่
อง
ในปี
พ.ศ. ๒๕๑๖ แม่
บานเย็
นก็
ตั้
งวงดนตรี
“ลู
กทุ
่
ง
หมอล�
ำ บานเย็
น รากแก่
น” รั
บงานแสดงในจั
งหวั
ดต่
างๆจนได้
รั
บการขนานนามว่
า “ราชิ
นี
หมอล�
ำ” และด้
วยความไม่
หยุ
ดนิ
่
ง
ในการแสดง ชอบพลิ
กแพลงประยุ
กต์
ศาสตร์
ต่
างๆ ร่
วมกั
บ
การแสดง ไม่
ว่
าจะเป็
นการร�
ำฟ้
อน การออกแบบชุ
ดการแสดง
จึ
งท�
ำให้
มี
คนขนานนามต่
อว่
าเป็
น “หมอล�
ำประยุ
กต์
”
แรกเริ่
มนั้
นเข้
าสู
่
วงการอุ
ตสาหกรรมบั
นเทิ
งในปี
พ.ศ. ๒๕๒๓ โดยการร้
องเพลงหมอล�
ำแนวอนุ
รั
กษ์
และ
แนวร่
วมสมั
ย รวมทั้
งได้
บั
นทึ
กเสี
ยงในสั
งกั
ดค่
ายเพลงต่
างๆ
เช่
น ค่
ายเสี
ยงสยาม บริ
ษั
ทนิ
ธิ
ทั
ศน์
บริ
ษั
ทแคนซอ บริ
ษั
ท
ท็
อปไลน์
มิ
วสิ
ค เป็
นต้
น กระทั่
งมี
ผลงานเพลงออกสู่
สายตา
สาธารณชนเป็
นจ�
ำนวนมาก ทั้
งในรู
ปแบบของอั
ลบั้
มเพลง
มิ
วสิ
ควิ
ดี
โอ และการแสดงคอนเสิ
ร์
ตส�
ำคั
ญๆ จนกลายเป็
น
ศิ
ลปิ
นพื้
นบ้
านที่
ได้
รั
บการยอมรั
บ และยกย่
องในพื้
นที่
สื่
อสาธารณะอย่
างกว้
างขวาง