วารสารวัฒนธรรม มกราคม - มีนาคม ๒๕๕๗ - page 40

40
เอกสารการอ้
างอิ
เจ้
าแม่
ลิ้
มกอเหนี่
ยว ปั
ตตานี
. มู
ลนิ
ธิ
เทพปู
ชนี
ยสถาน.
)
รองศาสตราจารย์
มั
ลลิ
กา คณานุ
รั
กษ์
. (๒๕๔๔). หนั
งสื
อรวมเรื่
องน่
ารู้
: ภาคใต้
.
ทองแถม นาถจำ
�นง และพรพล ปั
นเจริ
ญ เรี
ยบเรี
ยง. (๒๕๔๔). สื
บตำ
�นานเจ้
าแม่
ลิ้
มกอเหนี่
ยว. กรุ
งเทพฯ : เสี
ยดฟ้
า.
รศ.ดร.ครองชั
ย หั
ตถา. (๒๕๔๙). มั
สยิ
ดกรื
อเซะ มรดกอารยธรรมปั
ตตานี
. ปั
ตตานี
: ภาควิ
ชาภู
มิ
ศาสตร์
คณะ
มนุ
ษยศาสตร์
และสั
งคมศาสตร์
มหาวิ
ทยาลั
ยสงขลานคริ
นทร์
.
หลายครั้
งหลายคราที่
ความเข้
าใจในประวั
ติ
ศาสตร์
คลาดเคลื่
อนและน�
ำไปสู่
ความขั
ดแย้
งในพื้
นที่
เช่
น ต�
ำนาน
เจ้
าแม่
ลิ้
มกอเหนี่
ยวที่
เกี่
ยวพั
นกั
บมั
สยิ
ดกรื
อเซะ ส่
งผลให้
ชุ
มชนในพื้
นที
เสี
ยโอกาสการพั
ฒนาจากหน่
วยงานภาครั
รวมถึ
งความไม่
พอใจในมั
คคุ
เทศก์
ต่
างถิ่
น ที่
ให้
ความส�
ำคั
เรื่
องราวเชิ
งอภิ
นิ
หารมากกว่
าความส�
ำคั
ญของมั
สยิ
ด ใน
ฐานะศาสนสถานของชาวมุ
สลิ
แท้
จริ
งแล้
วที่
ผ่
านมา ไม่
ว่
าจะเป็
นนั
กประวั
ติ
ศาสตร์
นั
กโบราณคดี
และชาวมุ
สลิ
มโดยทั่
วไป พวกเขาต่
างก็
รั
บรู
เรื่
องมั
สยิ
ดกรื
อเซะในฐานะที่
เป็
น “ศาสนสถานอั
นส�
ำคั
ของศาสนาอิ
สลาม” ตั้
งแต่
เมื่
อครั้
งที่
ชาวปั
ตตานี
ได้
รั
บเอา
วิ
ถี
อิ
สลามเข้
ามาในชี
วิ
ต ก็
เป็
นที่
ยอมรั
บกั
นว่
า กรื
อเซะ
เป็
นมั
สยิ
ดแห่
งแรกในภู
มิ
ภาคนี้
ที่
สร้
างแบบสถาปั
ตยกรรม
ตะวั
นออกกลาง และยั
งถื
อเป็
นต้
นแบบของมั
สยิ
ดสมั
ยใหม่
ที่
แพร่
หลายในเวลาต่
อมา
อย่
างไรก็
ตามในปั
จจุ
บั
นมั
สยิ
ดกรื
อเซะกลายเป็
สถานที่
ท่
องเที่
ยว เป็
นโบราณสถาน และในขณะเดี
ยวกั
นก็
เป็
นสถานที่
ปฏิ
บั
ติ
ศาสนกิ
จของพี่
น้
องมุ
สลิ
ม พร้
อมๆ กั
การสนั
บสนุ
นและส่
งเสริ
มจากหน่
วยงานภาครั
ฐด้
านต่
างๆ
โดยมี
คนในชุ
มชนร่
วมด้
วยอย่
างใกล้
ชิ
ด เช่
น “มหกรรม
ท่
องเที่
ยวปั
ตตานี
อาเซี
ยน มหาสมโภชน์
เจ้
าแม่
ลิ้
มกอเหนี่
ยว”
ที่
ส�
ำนั
กงานการท่
องเที่
ยวและกี
ฬาจั
งหวั
ด ร่
วมกั
บ มู
ลนิ
ธิ
เทพปู
ชนี
ยสถาน เทศบาลเมื
องปั
ตตานี
องค์
การบริ
หาร
ส่
วนจั
งหวั
ดปั
ตตานี
การท่
องเที่
ยวแห่
งประเทศไทย (ททท.)
ส�
ำนั
กงานนราธิ
วาส และศู
นย์
อ�
ำนวยการบริ
หารจั
งหวั
ชายแดนภาคใต้
(ศอ.บต.) ที่
ได้
จั
ดขึ้
น ณ ศาลเจ้
าเล่
งจู
เกี
ยง
จั
งหวั
ดปั
ตตานี
ทุ
กปี
เพื่
อเป็
นการส่
งเสริ
มและพั
ฒนา
การท่
องเที่
ยวเชิ
งอนุ
รั
กษ์
วั
ฒนธรรมประเพณี
ท้
องถิ่
น สร้
าง
สี
สั
นและคื
นชี
วิ
ตชี
วาให้
แก่
ปั
ตตานี
และประชาสั
มพั
นธ์
ภาพลั
กษณ์
ที่
สวยงามของจั
งหวั
ดสู
สายตาบุ
คคลภายนอก
ตลอดจนกระตุ
นให้
เกิ
ดความเชื่
อมั่
นในการเดิ
นทางมา
ท่
องเที่
ยว อั
นจะส่
งผลต่
อเศรษฐกิ
จโดยรวมของปั
ตตานี
เมื่
อเราหยิ
บยกบอกต่
อแต่
เรื่
องดี
ๆ เชื่
อว่
า นั่
นจะน�
ำพาเรา
ไปสู่
ทั
ศนคติ
ที่
ดี
ต่
อกั
นในที่
สุ
ข้
อมู
ลเพิ่
มเติ
I...,30,31,32,33,34,35,36,37,38,39 41,42,43,44,45,46,47,48,49,50,...IV
Powered by FlippingBook