กรกฎาคม-กั
นยายน
๒๕๕๕
99
ฮิ
นดู
ชนเชื่
อกั
นว่
าบนยอดบนสุ
ดของเขาไกลาส
อั
นศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
เป็
นที่
สถิ
ตของ “องค์
ศิ
วะมหาเทพ”
และบนยอดมวยบนเศี
ยรของท่
านก็
เป็
นที่
สถิ
ต
ของ “นางคงคา” เทวี
แห่
งสายน�้
ำที่
ศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
ที่
สุ
ด
เรื่
องราวดั
งกล่
าวเป็
นสิ่
งที่
น่
าสนใจอย่
างยิ่
งของ
สายสั
มพั
นธ์
ระหว่
างฮิ
นดู
ชนในอิ
นเดี
ยที่
แสดง
สั
มพั
นธภาพระหว่
างมนุ
ษย์
กั
บสภาพแวดล้
อม
ทางธรรมชาติ
ทั้
งที่
เป็
นขุ
นเขา และแม่
น�้
ำอย่
าง
แน่
นแฟ้
น จนเกิ
ดการแปลความหมาย และ
ถ่
ายทอดออกมาเป็
นปรั
มปราคติ
ที่
เล่
าสื
บทอดกั
น
มาหลายต่
อหลายพั
นปี
ชาวพุ
ทธ และชาวฮิ
นดู
ต่
างพิ
จารณาเห็
นพ้
องกั
น
ว่
า “เขาไกลาส” คื
อภู
มิ
ลั
กษณ์
ทางธรรมชาติ
๐๕
ทั
บหลั
ง
สลั
กภาพพระอิ
นทร์
ทรงช้
างเอราวั
ณ
เดิ
มคงเป็
น
ส่
วนประกอบ
ของเทวสถาน
ขอมโบราณ
ปั
จจุ
บั
นเก็
บรั
กษา
อยู่
ที่
วั
ดโพธิ์
ย้
อย
จั
งหวั
ดบุ
รี
รั
มย์
และเป็
นสิ่
งประจั
กษ์
ที่
เป็
นตั
วแทนของ “เขา
พระสุ
เมรุ
” แต่
แปลงรู
ปไปในจิ
นตนาการจน
กลายเป็
นส่
วนหนึ่
งของปรั
มปราคติ
ที่
ยั
งสื
บทอด
ลมหายใจมาจนกระทั่
งปั
จจุ
บั
นนั่
นเอง
ตามคติ
กล่
าวว่
า “เขาพระสุ
เมรุ
” เป็
นหลั
กของ
“ไตรภู
มิ
” อั
นหมายถึ
ง “ภพภู
มิ
ทั้
งสาม” หรื
อ
เป็
นแกนหลั
กในทางดิ่
งของ “จั
กรวาล” นั่
นเอง
ภพภู
มิ
ทั้
งสามที่
กล่
าวมาข้
างต้
น ได้
แก่
“กามาวจร”
โลกอั
นเป็
นที่
อยู
่
ของสั
ตว์
ผู
้
เสพกาม คื
อ อบายภู
มิ
๔ ชั้
น สุ
คติ
ภู
มิ
๗ ชั้
น ส�
ำหรั
บ “อรู
ปาวจร” คื
อ
ชั้
นพรหมมี
รู
ป ๑๖ ชั้
น และ “อรู
ปาวจร” คื
อ
ชั้
นพรหมไม่
มี
รู
ปทั้
ง ๔ ชั้
น
1...,91,92,93,94,95,96,97,98,99,100
102,103,104,105,106,107,108,109,110,111,...124