84
น้
อมน�
ำท�
ำตามแนวทางพระราชด�
ำริ
แห่
งความพอเพี
ยง
กว่
า ๑๖ ปี
ที่
ได้
ท�
ำงานในการผลั
กดั
นแนวทาง
ตามพระราชด�
ำริ
โดยผ่
านทางกลไกของรั
ฐ ขณะเดี
ยวกั
น
อาจารย์
ยั
กษ์
ก็
มองเห็
นหายนะที
่
ก�
ำลั
งคื
บคลานเข้
ามา เนื่
อง
ด้
วยเศรษฐกิ
จแบบทุ
นนิ
ยมในช่
วงนั้
น กระทั่
งฟองสบู
่
แตก
ระลอกแรกยิ่
งตอกย�้
ำความเชื่
อของอาจารย์
ยั
กษ์
มากขึ้
น
เรื่
อยๆ หลั
งจากที่
บรรยายมาหลายปี
วั
นหนึ่
งอาจารย์
ยั
กษ์
ก็
ตั
ดสิ
นใจลาออกจากราชการ เพื่
อลงมื
อปฏิ
บั
ติ
ตามแนวทาง
พระราชด�
ำริ
บนผื
นดิ
นบ้
านเกิ
ดของตน
โดยมาอาศั
ยอยู
่
ในคอกหมู
แคบๆ และลงมื
อท�
ำ
ทุ
กอย่
างด้
วยตนเองตั้
งแต่
ครั้
งนั้
น นั่
นจึ
งเป็
นที่
มาของความ
“เพี้
ยน” ที่
ชาวบ้
านในละแวกนั้
นต่
างพู
ดถึ
งอาจารย์
ยั
กษ์
ใน
ช่
วงแรกๆ ที่
เริ่
มต้
นใช้
ชี
วิ
ตแบบคนธรรมดา แต่
ด้
วยความหวั
ง
ที่
จะพลิ
กฟื
้
นความอุ
ดมสมบู
รณ์
ของผื
นดิ
นให้
กลั
บมา
และหวั
งว่
าสิ่
งที่
ตนเองท�
ำจะกลายเป็
นตั
วอย่
างให้
คนอื่
นๆ
ได้
ประจั
กษ์
และเดิ
นตามรอยเท้
าของในหลวงเหมื
อนตน
อาจารย์
ยั
กษ์
ก็
ตั้
งเป้
าหมายไว้
ว่
า วั
นหนึ่
งจะต้
องมี
คนเดิ
นทาง
มาหาความรู
้
ความคิ
ด ความเชื่
อ และความศรั
ทธา ณ คอกหมู
แห่
งนี้
ซึ่
งวั
นนี้
ก็
คงต้
องบอกว่
า สิ่
งนั้
นเป็
นจริ
งขึ้
นมาแล้
ว
ก่
อนที่
อาจารย์
ยั
กษ์
จะมาท�
ำศู
นย์
กสิ
กรรมธรรมชาติ
ที่
มาบเอื้
อง อ.บ้
านบึ
ง จ.ชลบุ
รี
ได้
ผ่
านการเตรี
ยมตั
วกว่
า ๑๓ ปี
ตั้
งแต่
พ.ศ. ๒๕๒๖ - พ.ศ. ๒๕๓๙ แรกๆ อาจารย์
ยั
กษ์
จะเริ่
ม
ด้
วยการปลู
กป่
าเพื่
อให้
ร่
มเย็
นก่
อน และปลู
กไม้
ส�
ำหรั
บ
ใช้
สร้
างบ้
านเรื
อน ซึ่
งเป็
นการปรั
บปรุ
งสภาพแวดล้
อมให้
ดี
ขึ้
น
อย่
างต่
อเนื่
องไปด้
วยในตั
ว
อาจารย์
ยั
กษ์
เลื
อกที่
มาบเอื้
องเพราะว่
า ที
่
นี่
ท�
ำการ
เกษตรได้
ยาก เนื่
องจากดิ
นก็
ไม่
ดี
น�้
ำก็
น้
อย แถมเป็
นเขต
อุ
ตสาหกรรม เรี
ยกได้
ว่
าแห้
งแล้
งมาก แต่
ถ้
าตนฟื
้
นฟู
ที่
นี่
ได้
จริ
งๆ สิ่
งนี้
จะยิ่
งตอกย�้
ำให้
ชาวบ้
านเห็
นตั
วอย่
างที่
ชั
ดเจน
ในปี
พ.ศ. ๒๕๓๙ - ๒๕๔๑ ช่
วงที่
ลาออกจาก กปร.
(ส�
ำนั
กงานคณะกรรมการพิ
เศษเพื
่
อประสานงานโครงการ
อั
นเนื่
องมาจากพระราชดํ
าริ
ปรั
ชญาเศรษฐกิ
จพอเพี
ยง)
อาจารย์
ยั
กษ์
ก็
เริ่
มปลู
กไม้
ที่
ใช้
เป็
นอาหาร เช่
น ปลู
กข้
าว ปลู
กผั
ก
เป็
นต้
น เมื่
อได้
ข้
าวเหลื
อกิ
นก็
เอาไปแบ่
งปั
นให้
ชาวบ้
าน
เนื่
องจากเป็
นข้
าวพั
นธุ์
ดี
จึ
งเป็
นพั
นธุ์
ข้
าวให้
ชาวบ้
านใช้
ปลู
ก
จากนั้
นก็
เริ่
มแปรรู
ปสมุ
นไพรในป่
าออกขาย เป็
น
ปุ
๋
ยบ้
าง ท�
ำถ่
านใช้
เอง ท�
ำปุ
๋
ยใช้
เอง ท�
ำของใช้
เอง เมื่
อเริ่
ม
เห็
นเป็
นจริ
งตามแนวทางพึ่
งพาตนเอง ผู
้
คนก็
เริ่
มเข้
าไปดู
งาน
กระทั่
งพ.ศ. ๒๕๔๑ อาจารย์
ยั
กษ์
ก็
ต้
องปรั
บคอกหมู
ออก
เพื่
อท�
ำเป็
นห้
องเรี
ยนในที่
สุ
ด เห็
นได้
ว่
าแนวทางพั
ฒนาดั
งกล่
าว
มี
ล�
ำดั
บขั้
นตอนเป็
น ๙ ขั้
นจากจุ
ดหมายสู่
จุ
ดเริ่
ม ในการมุ่
งสู่
การพึ่
งพาตนเองตามแนวพระราชด�
ำริ