26
จากหลั
กฐานต่
างๆอาจสั
นนิ
ษฐานได้
ว่
า การประดั
บานประตู
พระอุ
โบสถและวิ
หารในสมั
ยอยุ
ธยานั
น ก็
คงทำ
�กั
มาตั
งแต่
สมั
ยสมเด็
จพระเพทราชา และทำ
�กั
นอย่
างแพร่
หลาย
ในสมั
ยสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
วบรมโกศ ซึ่
งก็
เป็
นไปได้
ว่
ในสมั
ยนั้
นมี
ช่
างประดั
บมุ
กจำ
�นวนมาก ดั
งจารึ
กที่
ว่
“เมื่
อทำ
�บานประตู
พระอุ
โบสถวั
ดบรมพุ
ทธาราม
พ.ศ. ๒๒๙๕ นั้
นใช้
ช่
างถึ
ง ๒๐๐ คน เช่
นเดี
ยวกั
บบานประตู
มุ
กวิ
หารวั
ดพระศรี
รั
ตนมหาธาตุ
อำ
�เภอเมื
อง จั
งหวั
พิ
ษณุ
โลก”
และว่
ากั
นว่
า สร้
างในสมั
ยพระเจ้
าอยู่
หั
วบรมโกศ
โดยโปรดเกล้
าฯ ให้
สร้
างขึ้
นแทนบานประตู
ไม้
จำ
�หลั
กที่
นำ
�ไป
เป็
นบานประตู
วิ
หารพระแท่
นศิ
ลาอาสน์
จั
งหวั
ดอุ
ตรดิ
ตถ์
ดั
งจารึ
กที่
บานประตู
ด้
านขวามื
อว่
“พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
วโปรดเกล้
าฯ ให้
ช่
าง
๑๓๐ คน เขี
ยนลายประดั
บมุ
กที่
บานประตู
เมื่
อวั
นจั
นทร์
ขึ้
๑๓ ค่ำ
� เดื
อน ๑๐ พุ
ทธศั
กราช ๒๒๙๙ ลงมื
อประดั
บมุ
เมื่
อวั
นพฤหั
สบดี
ขึ้
น ๔ ค่ำ
� เดื
อน ๑๑ รวมเวลา ๕ เดื
อน
๒๐ วั
น จึ
งแล้
วเสร็
จ”
โดยลวดลายบนบานประตู
ก็
จะเป็
นลายกนก
กิ
นนร พร้
อมกั
บสั
ตว์
หิ
มพานต์
เช่
น คชสี
ห์
เหมราช ครุ
และกิ
นนรี
รำ
�ออกจากช่
อกนกที่
บรรจุ
อยู่
ในวงกลม และมี
กนกหู
ช้
างประกอบช่
องไฟ มี
ลายประจำ
�ยามก้
ามปู
เป็
นกรอบ
ส่
วนด้
านบนก็
จะประดั
บด้
วยลายกรุ
ยเชิ
ง อกเลาประตู
ประดั
บด้
วยพุ่
มข้
าวบิ
ณฑ์
สองข้
าง พร้
อมกั
บลายกนกก้
านแย่
ประกอบอกเลากลางประดั
บด้
วยภาพหนุ
มานแบกบุ
ษบก
นมอกเลาเชิ
งล่
างประดั
บด้
วยภาพกุ
มภกรรณถื
อกระบอง
นอกจากนั้
นก็
จะมี
บานประตู
ประดั
บมุ
กใน
สมั
ยอยุ
ธยาอี
กบานหนึ่
งที
น่
าสนใจไม่
แพ้
กั
น แต่
เดิ
มจะเป็
บานประตู
ศาลาการเปรี
ยญวั
ดป่
าโมก อำ
�เภอป่
าโมก
จั
งหวั
ดอ่
างทอง ซึ
งก็
จะนำ
�มาทำ
�เป็
นบานประตู
พระวิ
หารยอด
ในวั
ดพระศรี
รั
ตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวั
กรุ
งเทพมหานคร นั
นเอง จากการบรรยายเส้
นลายและ
ลวดลายประดั
บมุ
กนั้
น บางครั้
งคุ
ณอาจจะนึ
กภาพไม่
ชั
ดเจน
แต่
หากเมื่
อไหร่
ที่
คุ
ณได้
ไปสั
มผั
สและเห็
นของจริ
ง เมื่
อนั้
เชื่
อว่
าคำ
�พรรณนาเหล่
านั้
นจะชั
ดเจนและงดงามทุ
กครั
ที่
คุ
ณได้
นึ
กถึ
สื
บสานบรรพชนศิ
ลป์
ในการทำ
�ลายประดั
บมุ
กนั้
นยั
งนิ
ยมทำ
�กั
นสื
บมา
ในสมั
ยรั
ตนโกสิ
นทร์
ดั
งปรากฏลายประดั
บมุ
กบนบานประตู
โบสถ์
วิ
หารและพระที
นั
งหลายแห่
ง เช่
น บานประตู
พระอุ
โบสถ
วั
ดพระศรี
รั
ตนศาสดาราม ซึ่
งสร้
างในสมั
ยพระบาทสมเด็
พระพุ
ทธยอดฟ้
าจุ
ฬาโลกมหาราช รั
ชกาลที่
๑ (พ.ศ.๒๓๒๕-
พ.ศ.๒๓๕๒) โดยสั
นนิ
ษฐานว่
า ช่
างอาจจะนำ
�แบบอย่
าง
ของลายประดั
บมุ
กบานประตู
วิ
หารวั
ดพระศรี
รั
ตนศาสดาราม
จั
งหวั
ดพิ
ษณุ
โลก และลายประดั
บมุ
กบานประตู
พระอุ
โบสถ
วั
ดบรมพุ
ทธารามมาเป็
นแบบอย่
าง
นอกจากนี
ก็
ยั
งมี
บานประตู
ปราสาทพระเทพบิ
ดร
ซึ่
งอาจจะเป็
นฝี
มื
อช่
างกลุ่
มเดี
ยวกั
น เพราะลวดลายคล้
ายกั
เช่
น ลายยั
กษ์
ลิ
ง ในเรื่
องรามเกี
ยรติ์
ท่
าทางต่
างๆ ออกทาง
ช่
องกนก บรรจุ
อยู่
ในวงกลมคล้
ายกั
บบานประตู
พระอุ
โบสถ
วั
ดพระศรี
รั
ตนศาสดารราม กรอบชั้
นนอกเป็
นลาย
ประจำ
�ยามก้
ามปู
ชั้
นในเป็
นลายกรุ
ยเชิ
ง ระหว่
างดอกวงกลม
มี
ลายหู
ช้
างกั
นช่
องไฟระหว่
างลาย บานประตู
มุ
กที
ทำ
�เป็
นลาย
ตามเรื่
องรามเกี
ยรติ์
ที่
น่
าสนใจอี
กแห่
งหนึ่
งคื
อ บานประตู
พระอุ
โบสถวั
ดพระเชตุ
พนวิ
มลมั
งคลาราม (วั
ดโพธิ์
) สร้
างใน
สมั
ยรั
ชกาลที่
๑ เช่
นเดี
ยวกั
น แต่
เป็
นตอนพระรามแผลงศร
เป็
นตาข่
ายไปจั
บวิ
รุ
ณจำ
�บั
ง ซึ่
งเป็
นภาพที่
งดงามอย่
างยิ่
ด้
วยเส้
นสายที่
อ่
อนช้
อยพลิ้
วไหวเหมื
อนเขี
ยนด้
วยปลายพู่
กั
เลยที
เดี
ยว
และก็
ยั
งมี
บานประตู
ประดั
บมุ
กฝี
มื
อช่
างรั
ชกาลที
แห่
งกรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร์
ที่
งดงามมากอี
กแห่
งหนึ่
ง นั่
นก็
คื
บานประตู
มณฑปพระพุ
ทธบาท อำ
�เภอพระพุ
ทธบาท จั
งหวั
สระบุ
รี
โดยบานประตู
ทั้
ง ๔ ช่
อง ตั้
งแต่
เชิ
งประตู
จะทำ
�เป็
ลายสวรรค์
ชั้
นต่
างๆ จนไปสิ้
นสุ
ดที่
ชั้
นพรหม คื
อ ชั้
นที่
๑๖
โดยกรอบชั
นนอกจะทำ
�เป็
นลายกนกก้
ามปู
และบานประตู
มณฑปพระพุ
ทธบาทก็
จะเป็
นฝี
มื
อช่
างโบราณที่
งดงามเป็
อย่
างยิ่
ต่
อมาในรั
ชกาลพระบาทสมเด็
จพระนั
งเกล้
าเจ้
าอยู
หั
รั
ชกาลที่
๓ (พ.ศ.๒๓๖๗ - พ.ศ.๒๓๙๔) ซึ่
งโปรดศิ
ลปะจี
เป็
นพิ
เศษ จึ
งโปรดเกล้
าฯให้
สร้
างโบสถ์
วิ
หาร เป็
นแบบศิ
ลปะ
1...,18,19,20,21,22,23,24,25,26,27 29,30,31,32,33,34,35,36,37,38,...124