34
ดั
งนั้
นเรื่
องราวของตาม่
องล่
ายที่
มี
ชื่
อสถานที่
ต่
างๆ ปรากฏทั้
งสองฝั่
งของอ่
าวไทยจึ
งไม่
ใช่
เรื่
องน่
าแปลกใจ
แต่
อย่
างใดเพราะในอดี
ตเคยมี
การเดิ
นทางโดยใช้
เรื
อเลี
ยบ
ชายฝั่
งและสามารถตั
ดข้
ามอ่
าวไทยในฤดู
ลมมรสุ
มได้
อย่
างเป็
นสิ่
งสามั
นิ
ทานหรื
อเรื่
องเล่
าแบบมุ
ขปาฐะเรื่
องตาม่
องล่
าย
ถู
กถ่
ายทอดและบั
นทึ
กไว้
เช่
นในหนั
งสื
อ “สมุ
ดราชบุ
รี
” ตี
พิ
มพ์
เมื
อ พ.ศ.๒๔๖๙ เล่
าเรื
องเรื
อสำ
�เภาบรรทุ
กผู
คนทั
งชาวพื
นราบ
และชาวเขามากั
บเรื
อสำ
�เภา ภายหลั
งเรื
อสำ
�เภาล่
ม คนที่
รอด
ตายกลายมาเป็
นบรรพบุ
รุ
ษตั้
งถิ่
นฐานที่
เทื
อกเขาเจ้
าลาย
ที่
ชะอำ
�ในปั
จจุ
บั
น ต่
อมามี
การยกขั
นหมากแย่
งชิ
งลู
กสาว
เจ้
าเขาตาม่
องล่
ายระหว่
างเจ้
ากรุ
งจี
นและเจ้
าลาย ปรากฏว่
ไม่
มี
ใครได้
ไปและต้
องสู
ญเสี
ยสิ
นสอด
ทองหมั้
น ไปในทะเล สิ่
งของได้
กลายเป็
นชื
อสถานที
ต่
างๆ ในอ่
าวไทย
ตอนใน และเมื่
อน้
�ทะเลแห้
งหายไป
แผ่
นดิ
นเริ่
มปรากฏ เจ้
าเขาทั้
งหลาย
ก็
สื
บทอดวงศ์
วานของตนในเขต
เมื
องเพชรบุ
รี
และใกล้
เคี
ยงสื
บมา
น อ ก จ า ก นี้
ยั
ง พ บ ไ ด้
จาก “นิ
ราศตั
ง เกี๋
ย” ของหลวง
นรเนติ
บั
ญชากิ
จ ที่
เขี
ยนขึ้
นในราว
พ.ศ.๒๔๓๐ ซึ่
งเป็
นประสบการณ์
โดยตรงของผู้
ที่
เคยเดิ
นทางโดยใช้
เรื
อเดิ
นทะ เลเลี
ยบชายฝั่
ง ไปยั
อ่
าวตั
งเกี๋
ยของเวี
ยดนาม จึ
งรั
บรู้
เรื่
องราวนิ
ทานตาม่
องล่
ายไปด้
วย
นอ ก จ า ก นี้
ยั
ง มี
นิ
ท า น
ท้
องถิ่
นที่
อยู่
ในเขตภายในแผ่
นดิ
น (Inland) ที่
มี
เนื้
อหา
คล้
ายๆ กั
บเรื่
องตาม่
องล่
าย ที่
เป็
นการยกขั
นหมากมาขอ
ลู
กสาวคนท้
องถิ่
น โดยมี
ความเข้
าใจผิ
ดทำ
�ให้
ต้
องแข่
งกั
เจ้
ากรุ
งจี
น หรื
อคนรั
กเดิ
มมาทำ
�ลายขบวนขั
นหมากเสี
ยั
งปรากฏอี
กหลายเรื่
องและหลายท้
องถิ่
น เช่
เรื
อง นางรุ
มสายสก ซึ
งเป็
นเรื
องเกี
ยวกั
บเจ้
าราชกุ
แห่
งเขาดงเร็
กยกขบวนขั
นหมากทางเรื
อสำ
�เภามาสู
ขอ
นางผมหอมธิ
ดาเจ้
าเมื
องจั
นทบุ
รี
นางจำ
�ปาผู
เคยเป็
นเมี
ยเก่
ใช้
จระเข้
ไปทำ
�ลายขบวนขั
นหมาก ภายหลั
งน้
�ทะเลแห้
งลง
จึ
งจบลงด้
วยการตายกลายเป็
นภู
เขาและชื่
อสถานที่
ต่
างๆ
ในกั
มพู
ชาและชายแดนที่
ต่
อกั
บไทย
นิ
ทานพื้
นเมื
องลพบุ
รี
การแย่
งยกขบวนขั
นหมาก
ของเจ้
ากรุ
งจี
นมาสู
ขอนางนงประจั
น ซึ
งมี
คนรั
กแต่
เดิ
มแปลงกาย
เป็
นจระเข้
ทำ
�ลายขบวนเรื
อขั
นหมากและของหมั้
น จระเข้
นางนงประจั
นและสำ
�เภาจี
นกลายเป็
นชื่
อสถานที่
ต่
างๆ
แถบนั้
น เช่
น เขาวงพระจั
นทร์
บางขั
นหมาก เขาตะเภา
เขาตะกร้
า เขาแก้
ว เขาจี
นโจนจี
นแล เป็
นต้
นิ
ทานแถบนครสวรรค์
ต่
อเนื่
องกั
บสุ
พรรณบุ
รี
ที
เล่
าว่
า หญิ
งสาวคนหนึ
งบ้
านอยู
ดอนคา มี
ชายที
เขาพนมเสพ
มาสู่
ขอแก่
พ่
อคนหนึ่
งและแม่
คนหนึ่
ง พ่
อแม่
จึ
งวิ
วาทกั
นางจึ
งตั
ดนมทิ้
งข้
างหนึ่
งและไปบวชที่
เดิ
มบางในจั
งหวั
สุ
พรรณบุ
รี
จึ
งกลายเป็
นชื่
อสถานที่
ต่
างๆ ในนครสวรรค์
และสุ
พรรณบุ
รี
นิ
ทานเรื่
องตาม่
องล่
ายจึ
งมี
ความหมายสำ
�คั
ต่
อการวิ
เคราะห์
ถึ
งการตั
งถิ่
นฐานของบ้
านเมื
องภายใน
ของลุ่
มน้
�เจ้
าพระยาตอนบน แม้
จะไม่
สามารถระบุ
ช่
วงเวลา
ที่
ชั
ดเจนได้
แต่
ก็
สามารถประเมิ
นถึ
งความสำ
�คั
ญของตำ
�นาน
และนิ
ทานท้
องถิ่
นในเรื่
องเหล่
านี้
ได้
ไม่
น้
อย
1...,26,27,28,29,30,31,32,33,34,35 37,38,39,40,41,42,43,44,45,46,...124