35
เมษายน-มิ
ถุ
นายน ๒๕๕๖
การค้
าต่
างประเทศในสมั
ยกรุ
งศรี
อยุ
ธยาจนถึ
ง
ต้
นกรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร์
ใช้
เรื
อสำ
�เภา เป็
นหลั
ก และค้
าขายกั
น
เป็
นฤดู
กาลเพราะต้
องเดิ
นเรื
อเข้
าและออกมายั
งอ่
าวไทย
ให้
ทั
นฤดู
มรสุ
ม เช่
น เรื
อสิ
นค้
าจะต้
องมาให้
ทั
นลมมรสุ
ม
ตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อในเดื
อนตุ
ลาคมถึ
งมี
นาคม (ลมสิ
นค้
า-
ขาเข้
า) และกลั
บให้
ทั
นลมมรสุ
มตะวั
นตกเฉี
ยงใต้
ใน
เดื
อนเมษายนถึ
งกั
นยายน (ลมตะเภา-ขาออก) โดยเฉพาะ
เรื
อสำ
�เภาจี
นที่
บั
นทึ
กไว้
ในสมั
ยต้
นรั
ตนโกสิ
นทร์
จะนำ
�สิ
นค้
า
เข้
ามาในเดื
อนกุ
มภาพั
นธ์
ถึ
งต้
นเดื
อนเมษายน และออกไป
ราวปลายเดื
อนพฤษภาคมจนถึ
งกรกฎาคม
จากบั
นทึ
กการเดิ
นทางทั้
งของชาวสยามและ
ชาวจี
นและชาวตะวั
นตกในเอกสารหลายฉบั
บ สามารถสรุ
ป
ได้
ว่
า การเดิ
นเรื
อเลี
ยบชายฝั่
งสมั
ยโบราณนั้
น หากต้
องการ
เดิ
นทางมายั
งบ้
านเมื
องภายในกรุ
งศรี
อยุ
ธยาหรื
อบางกอก
นอกจากเรื
อของคนท้
องถิ่
นในแถบนั้
นแล้
วก็
ไม่
นิ
ยม
เลี
ยบอ่
าวโคลนด้
านตะวั
นตกที่
เป็
นชะวากเว้
าเข้
าด้
านใน
ตั้
งแต่
แหลมหลวงใกล้
กั
บหาดเจ้
าสำ
�ราญมาจนจรดปากแม่
น้
ำ
�
เจ้
าพระยา เพราะพื้
นน้ำ
�เต็
มไปด้
วยโคลนตมต้
องอาศั
ย
ความชำ
�นาญร่
องน้
ำ
� เมื่
อเดิ
นทางจากปากน้
ำ
�เจ้
าพระยา
ออกทะเลจะตั
ดตรงไปพั
กที่
เกาะสี
ชั
ง เกาะคราม หรื
อ
เกาะไผ่
ทางชายฝั่
งตะวั
นออกของอ่
าวไทย แล้
วชั
กใบแล่
น
ตั
ดข้
ามอ่
าวไทยไปที่
เขาเจ้
าลายบริ
เวณชายฝั่
งชะอำ
� หรื
อ
ต่ำ
�ลงมาแถวเขาสามร้
อยยอดแถบเมื
องกุ
ย ทั้
งสองแห่
ง
มี
เทื
อกเขาโดดเด่
นเป็
นจุ
ดสั
งเกตเห็
นได้
ง่
าย หลั
งจากนั้
น
จึ
งเดิ
นเรื
อเลี
ยบชายฝั่
งลงใต้
ต่
อไป หรื
อหากต้
องการไป
ทางอ่
าวตั
งเกี๋
ยทางเวี
ยดนามและชายฝั่
งกั
มพู
ชา ก็
จะเดิ
นเรื
อ
สลั
บฟั
นปลา จากปากน้
ำ
�ไปที่
เกาะสี
ชั
งแล้
วข้
ามอ่
าวมาที่
สามร้
อยยอดหรื
อเมื
องกุ
ยบุ
รี
แล้
วจึ
งข้
ามอ่
าวมุ
่
งไปทาง
ตะวั
นออกมี
ที่
หมายที่
เกาะช้
าง เกาะหมาก เกาะกู
ด เกาะกง
เลี
ยบชายฝั่
งกั
มพู
ชาต่
อไปยั
งทางชายฝั่
งเวี
ยดนาม
ในทางกลั
บกั
นหากเดิ
นเรื
อเลี
ยบชายฝั่
งมาจาก
ทางคาบสมุ
ทรมลายู
จะแวะเติ
มน้
ำ
�จื
ดหรื
อหลบลมที่
แถบ
เขาสามร้
อยยอดเมื
องกุ
ยบุ
รี
เลี
ยบชายฝั่
งผ่
านเขาเจ้
าลาย
จนถึ
งแหลมหลวงหรื
อแหลมผั
กเบี้
ย จากบริ
เวณนี้
จะแล่
น
ห่
างฝั่
งโคลนตั
ดตรงไปปากน้ำ
�เจ้
าพระยา หากไม่
เข้
าปากน้ำ
�
ก็
ชั
กใบใช้
ลมตั
ดข้
ามอ่
าว มี
ที่
หมายอยู่
แถวเกาะช้
าง เกาะกู
ด
แล้
วเดิ
นเรื
อต่
อไปยั
งชายฝั่
งเวี
ยดนามและจี
นต่
อไป
การรู้
จั
กกระแสลมคื
อความรู้
สำ
�คั
ญในการเดิ
นเรื
อ
เลี
ยบชายฝั่
ง จะมี
ช่
วงเวลาในการเดิ
นทางเข้
าออกในรอบปี
เช่
น ช่
วงเดื
อนตุ
ลาคมถึ
งกุ
มภาพั
นธ์
- มี
นาคม จะเป็
นลมอุ
ตรา
หรื
อลมอุ
กา หรื
อลมตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อ เป็
นลมมรสุ
ม
ที่
พั
ดจากทิ
ศตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อไปทางตะวั
นตกเฉี
ยงใต้
จะพั
ดร่
วมกั
บลมเหนื
อหรื
อลมว่
าวหรื
อบางครั้
งจะพั
ดร่
วมกั
บ
ลมตะวั
นออกและลมหั
วเขา เป็
นช่
วงซึ่
งเรื
อสำ
�เภาจะเข้
ามายั
ง
อ่
าวภายใน
ลมสลาตั
นคื
อลมมรสุ
ม พั
ดจากทิ
ศใต้
ขึ้
นไป
ทางเหนื
อ พั
ดร่
วมกั
บลมพั
ทธยา เป็
นลมที่
พั
ดจากและ
ทิ
ศตะวั
นตกเฉี
ยงใต้
ไปทางตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อ ส่
วนลมตะเภา
พั
ดจากทิ
ศตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
ไปทางตะวั
นตกเฉี
ยงเหนื
อ
ช่
วงในราวเดื
อนเมษายน-พฤษภาคมจนถึ
งกั
นยายน และ
ลมพั
ดหลวงหรื
อลมตะโก้
พั
ดจากทิ
ศตะวั
นตกเฉี
ยงเหนื
อไป
ทางทิ
ศตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
ก็
จะพั
ดอยู่
ในช่
วงปลายฤดู
ฝน
นอกจากชาวประมงพื้
นถิ่
นภายในอ่
าวไทย
บางท่
านแล้
ว ความรู
้
เรื
่
องลมต่
างๆ เหล่
านี
้
ค่
อยๆ เลื
อนหายไป
เพราะการค้
าสำ
�เภาหลวงเปลี่
ยนมาใช้
เรื
อกำ
�ปั่
นแบบ
ตะวั
นตกเมื่
อ พ.ศ. ๒๓๗๘ และเปลี่
ยนมาเป็
นเรื
อกลไฟ
ซึ่
งสามารถสร้
างได้
ในสยามเอง เมื่
อ พ.ศ. ๒๓๙๘ ทำ
�ให้
การใช้
สำ
�เภาเดิ
นเรื
อเลี
ยบชายฝั่
งแบบเดิ
มตามฤดู
กาลใน
แถบคาบสมุ
ทรค่
อยๆ หมดไป
การเดิ
นเรื
อเลี
ยบชายฝั่
ง