72
วั
ฒนธ รม
เขาเคยพู
ดถึ
งตั
วเองไว้
ว่
า “ข้
าพเจ้
าขอแนะน�
ำตั
วเอง 
ในฐานะคนล้
มเหลวที่
พบความส�
ำเร็
จอั
นยิ่
งใหญ่
” ส่
วน
ประวั
ติ
ฉบั
บทางการระบุ
ว่
า นายสุ
ชาติ
 สวั
สดิ์
ศรี
 เกิ
ดที่
อ�
ำเภอท่
าเรื
อ จั
งหวั
ดพระนครศรี
อยุ
ธยา ในวั
นชาติ
 ๒๔
มิ
ถุ
นายน พ.ศ. ๒๔๘๘ ช่
วงปลายสงครามโลกครั้
งที่
 ๒ 
จบการศึ
กษาสาขาประวั
ติ
ศาสตร์
 (เกี
ยรติ
นิ
ยมดี
) จากคณะ
ศิ
ลปศาสตร์
 มหาวิ
ทยาลั
ยธรรมศาสตร์
 เมื่
อปี
 พ.ศ. ๒๕๐๙
๔๐ กว่
าปี
ต่
อจากนั้
น สุ
ชาติ
ใช้
ชี
วิ
ตอยู่
ในวงการหนั
งสื
มาโดยตลอด  
ยุ
คทศวรรษ ๒๕๑๐ เขาคื
อบรรณาธิ
การวารสาร
สั
งคมศาสตร์
ปริ
ทั
ศน์
 สื่
อสิ่
งพิ
มพ์
ที่
มี
อิ
ทธิ
พลยิ่
งในกลุ
มหนุ
สาวหั
วก้
าวหน้
า 
ล่
วงถึ
งทศวรรษ ๒๕๒๐ เขาเป็
นบรรณาธิ
การของ 
โลกหนั
งสื
 นิ
ตยสารรายเดื
อนว่
าด้
วยวงการวรรณกรรม และ
แดนเกิ
ดแห่
งนามปากกา “สิ
งห์
สนามหลวง” ในคอลั
มน์
ตอบ
จดหมายที่
มี
ผู
สนใจติ
ดตามอ่
านมากที่
สุ
ด  ลี
ลาของ “สิ
งห์
ฯ”
เต็
มไปด้
วยการยั่
วล้
อแบบยี
ยวนกวนประสาทและตอบโต้
ผู
ที่
มา “ลองของ” อย่
างดุ
เดื
อด ทว่
าพร้
อมกั
นนั้
นก็
หนั
กแน่
ด้
วยข้
อมู
ลประวั
ติ
นั
กเขี
ยน และเข้
มข้
นด้
วยเรื่
องราวของ
หนั
งสื
อหนั
งหาทั้
งไทยและเทศ ที่
เขาเพี
ยรค้
นคว้
าหามา
บรรณาการแก่
ผู้
อ่
านอย่
างเต็
มก�
ำลั
ง 
แม้
โลกหนั
งสื
 จะมี
อั
นต้
องปิ
ดตั
วไปในปี
 พ.ศ. ๒๕๒๖
แต่
คอลั
มน์
ตอบจดหมายพร้
อมด้
วยนามปากกา “สิ
งห์
สนามหลวง” กลั
บยื
นยงต่
อมาอี
กเกื
อบ ๓๐ ปี
 โยกย้
ายไปสู
นิ
ตยสารและหนั
งสื
อพิ
มพ์
อี
กหลายเล่
ม ทั้
ง 
ถนนหนั
งสื
อ 
Hi-Class  สยามรั
ฐสั
ปดาห์
วิ
จารณ์
และ
ผู
จั
ดการ
 ก่
อนจะมา 
ปรากฏบนหน้
ากระดาษของ
เนชั
นสุ
ดสั
ปดาห์
 อย่
างต่
อเนื่
อง
นั
บตั้
งแต่
 พ.ศ. ๒๕๔๐ 
อี
กคุ
ณู
ปการส�
ำคั
ญของสุ
ชาติ
ที่
เป็
นที่
ยอมรั
บนั
บถื
อกั
คื
อการเป็
น “บอกอเครางาม” คนเบื้
องหลั
งผู
ผลั
กดั
นนั
กเขี
ยน
รุ
นใหม่
  นั
กเขี
ยนรางวั
ลซี
ไรต์
แทบทุ
กรุ
น ตั้
งแต่
 ชาติ
 กอบจิ
ตติ
วิ
มล ไทรนิ่
มนวล วิ
นทร์
 เลี
ยววาริ
ณ กนกพงศ์
 สงสมพั
นธุ
เดื
อนวาด พิ
มวนา เรวั
ติ
 พั
นธุ
พิ
พั
ฒน์
 ประชาคม ลุ
นาชั
จนถึ
ง อุ
ทิ
ศ เหมะมู
ล ล้
วนแล้
วแต่
เคยผ่
านสนามของนิ
ตยสาร
เรื่
องสั้
ช่
อการะเกด
 ที่
มี
สุ
ชาติ
เป็
นบรรณาธิ
การมาก่
อนทั้
งสิ้
นอกเหนื
อจากมิ
ติ
การเป็
นบรรณาธิ
การมื
ออาชี
พและนั
ประวั
ติ
ศาสตร์
วรรณกรรมแล้
ว สุ
ชาติ
ยั
งมี
อี
กหลายสถานะใน
วงการศิ
ลปะของเมื
องไทย
ในฐานะนั
กเขี
ยน เขามี
ผลงานเรื่
องสั้
นและบทกวี
จ�
ำนวน
หนึ่
ง ซึ่
งหากคิ
ดโดยปริ
มาณแล้
วอาจไม่
มากนั
ก หากแต่
ถื
อได้
ว่
าเป็
น “หมุ
ดหมาย” ส�
ำคั
ญแห่
งยุ
คสมั
ย 
เริ่
มต้
นด้
วย
ความเงี
ยบ
 ผลงานรวมเล่
มเรื่
องสั้
น บทกวี
และบทละครของเขา 
เนื่
องเพราะความ “ล�้
ำยุ
ค” ตั้
งแต่
เมื่
อแรกตี
พิ
มพ์
ออกมา
ในปี
 พ.ศ. ๒๕๑๕ 
ความเงี
ยบ
 ถู
กกล่
าวขวั
ญถึ
งว่
าเป็
หนั
งสื
อที่
อ่
านยากหรื
อเข้
าไม่
ถึ
ง เรื่
องสั้
นแต่
ละเรื่
องเป็
เหมื
อนภาพปะติ
ดปะต่
อชิ้
นส่
วนของความทรงจ�
ำและเรื่
องราว
ในบรรยากาศกึ่
งฝั
นกึ่
งจริ
ง ชนิ
ดที่
อาจเรี
ยกด้
วยส�
ำนวนสมั
นี้
ว่
า “สุ
ดเซอร์
ฯ” แต่
 ๓๐ กว่
าปี
ต่
อมา ดร. ธี
รา สุ
ขสวั
สดิ์
ณ อยุ
ธยา ซึ่
งท�
ำงานวิ
จั
ยว่
าด้
วยเรื่
องหนั
งสื
อเล่
มเดี
ยวกั
นนั้
ประเมิ
นคุ
ณค่
าของ
ความเงียบ
 ไว้
ว่
า 
“ไม่
เพี
ยงเป็
นงานปฏิ
กิ
ริ
ยาต่
อระบบอุ
ตสาหกรรมนิ
ยม
หรื
อทุ
นนิ
ยม การใช้
ชี
วิ
ตที่
ขาดเป้
าหมายและคุ
ณค่
าของความ
เป็
นมนุ
ษย์
ของชนชั้
นกลางเท่
านั้
น แต่
ยั
งแสดงความคิ
ด 
ต่
อต้
านการปกครองที่
เน้
นการโฆษณาชวนเชื่
อของรั
ฐบาล 
‘คนกิ
นคน’ ทั้
งเรื่
องเศรษฐกิ
จ นโยบายการเมื
อง การ 
ต่
างประเทศ ซึ่
งเป็
นสิ่
งหลอกลวงประชาชน และขั
ดแย้
งต่
ความเป็
นจริ
งมาโดยตลอด รวมทั้
งวิ
จารณ์
ระบบสั
งคมและ
การศึ
กษาไทยอย่
างตรงไปตรงมาอี
กด้
วย”
จิ
นตนาการสามบรรทั
  ปรากฏตั
วขึ้
นในปี
 พ.ศ.
๒๕๓๑ เป็
นหนั
งสื
อรวมงานเขี
ยนชุ
ดที่
เขาอธิ
บายว่
า 
“เพื่
อหลี
กเลี่
ยงความจ�
ำกั
ดบางอย่
าง ผมจึ
งไม่
เรี
ยกชิ้
นงาน
ของผมว่
าเป็
น “บทกวี
” หรื
อ “แคนโต้
” หรื
อ “ไฮกุ
” แต่
ได้
บั
ญญั
ติ
ภาษาของผมขึ้
นมาเรี
ยกว่
า ‘จิ
นตนาการสาม
บรรทั
ด’...”
1...,64,65,66,67,68,69,70,71,72,73 75,76,77,78,79,80,81,82,83,84,...124