62
วั
ฒนธ รม
นอกจากนี้
ยั
งมี
ผั
ดหมี่
โคราช นี่
อาจจะเป็
นการยั
กย้
าย
มาเป็
นก๋
วยเตี๋
ยวผั
ดแห้
ง ๆ ที่
คลุ
กเบ็
ดเสร็
จในตั
ว จึ
งเกิ
ด
ก๋
วยเตี๋
ยวผั
ดไทยขึ้
น ข้
อสั
นนิ
ษฐานนี้
ดู
จะมี
ร่
องรอยน่
าคิ
ด
ไม่
เช่
นนั้
นค�
ำว่
า “ไทย” คงไม่
ได้
รั
บเกี
ยรติ
เข้
าไปอยู
่
ในชื่
อเรี
ยก
หากพิ
นิ
จมาที่
เครื่
องปรุ
ง จะเห็
น “ตั
วร่
วม” คื
อกุ
้
งแห้
ง
และถั่
วงอก ที่
อยู
่
ได้
ทั้
งในก๋
วยเตี๋
ยวผั
ดและก๋
วยเตี๋
ยวน�้
ำ
แบบดั้
งเดิ
ม ในหนั
งสื
อ
สี
่
แผ่
นดิ
น
เช่
นกั
น เมื่
อประไพมาถาม
แม่
พลอยว่
า ก๋
วยเตี๋
ยวเขาท�
ำกั
นอย่
างไร ใส่
อะไรบ้
าง พลอย
ก็
ตอบเพลิ
ดเพลิ
นไปโดยอั
ตโนมั
ติ
ว่
า “ก็
ใส่
เส้
นก๋
วยเตี๋
ยวลวก
น�้
ำต้
มกระดู
กหมู
เนื้
อหมู
ถั่
วงอก กุ้
งแห้
ง ใบหอม”
ผั
ดไทยจึ
งมี
สาระหลายอย่
างที่
เราคนไทยควรต้
องใส่
ใจ
เรี
ยนรู
้
เพราะนี่
คื
อความ “ลงตั
วทางอาหาร” อี
กต�
ำรั
บหนึ่
ง
ที่
เราควรภาคภู
มิ
ใจอย่
างมี
ความรู้
คื
อภู
มิ
ใจแบบซึ
มลึ
กไม่
ใช่
แบบผิ
วเผิ
น
ความลงตั
วนี้
ขึ้
นอยู
่
กั
บเหตุ
ปั
จจั
ยส�
ำคั
ญหลายอย่
าง เช่
น
การที่
บ้
านเมื
องเรามี
ความหลากหลายทางวั
ฒนธรรมสู
ง
มี
วั
ตถุ
ดิ
บคุ
ณภาพดี
หลากชนิ
ด และอุ
ดมสมบู
รณ์
มี
ความ
ช่
างคิ
ดช่
างดั
ดแปลง
ลั
กษณะเด่
นของก๋
วยเตี๋
ยวผั
ดไทยมี
สองประการ คื
อ
กลมกล่
อมไปด้
วยสามรส เปรี้
ยว-เค็
ม-หวาน และความ
ประณี
ตในการตระเตรี
ยมเครื่
องปรุ
ง สิ่
งส�
ำคั
ญคื
อการเรี
ยนรู
้
ที่
จะลองผิ
ดลองถู
กจนเกิ
ดความกลมกล่
อมอย่
างมหั
ศจรรย์
ในรสชาติ
และคุ
ณค่
าทางอาหารอย่
างเป็
นดุ
ลยภาพ เรี
ยกว่
า
เจริ
ญปาก เจริ
ญตา เจริ
ญใจกั
นที
เดี
ยว
เคล็
ดลั
บของการท�
ำผั
ดไทยให้
อร่
อยเริ่
มที่
น�้
ำเคี่
ยวปรุ
ง
สามรส เปรี้
ยวจากน�้
ำมะขามเปี
ยก เค็
มจากน�้
ำปลารสดี
โดย
อย่
าให้
เค็
มจั
ดนั
ก (เพราะเวลาผั
ดจะยั
งได้
รสเค็
มจากหั
ว
ไช้
โป๊
และกุ
้
งแห้
งตั
วเล็
กอี
ก) น�้
ำตาลพื้
นบ้
านโบราณของไทย
ที่
ได้
จากมะพร้
าว โตนด (ตาล) หรื
อน�้
ำอ้
อย
การเคี่
ยวน�้
ำปรุ
งรสจนกลมกล่
อมได้
ที่
ดี
ในลั
กษณะนี้
สะท้
อนภาพสั
งคมโบราณที่
ใช้
เวลาเนิ่
นนานในการวางแผน
ถื
อว่
าเป็
นการเตรี
ยมการล่
วงหน้
า
อี
กประการหนึ่
ง การท�
ำผั
ดไทยที่
ดี
ยั
งต้
องให้
ความส�
ำคั
ญ
แก่
การหั่
น (หั
วไช้
โป๊
ว) ซอย (เต้
าหู
้
) คั่
ว โขลก (ถั่
วลิ
สงและ
พริ
กขี้
หนู
แห้
ง) เรี
ยกว่
าไม่
ต้
องหวงเวลาในการเตรี
ยมการเลย
แต่
ใช้
เวลาปรุ
ง (ผั
ด) ไม่
นาน
ผั
ดไทยยั
งมี
ลั
กษณะที่
ไม่
สิ้
นเปลื
องค่
าวั
ตถุ
ดิ
บมาก คื
อ
ไม่
ใช้
เนื้
อสั
ตว์
มากเหมื
อนอาหารชนิ
ดอื่
น แต่
ถ้
าจะให้
ดู
ฟู
่
ฟ่
า
ขึ้
นมาอี
ก ก็
ต้
องเป็
นสู
ตรคนชายทะเลฝั
่
งตะวั
นออก ที่
ใช้
ปู
ม้
า
สั
บชิ้
นพอเหมาะ เคี่
ยวกั
บหมู
สามชั้
นหั่
นชิ้
นเล็
ก ๆ ที่
เขา
เรี
ยกว่
า “น�้
ำโล้
” (น�้
ำพะโล้
) แต่
ผั
ดไทยสู
ตรนี้
ดู
จะไม่
เน้
น
เครื่
องเคราหลากหลายแบบผั
ดไทยภาคกลางทั่
วไป
จะเห็
นได้
ว่
าผั
ดไทยดั้
งเดิ
มนั้
นต้
องลงทุ
นแรงงานและ
เวลา ทั้
งต้
องอดทนตระเตรี
ยมเครื่
องด้
วยความประณี
ต
ตั
วเอกของฉากนี้
คื
อมะขามเปี
ยกที่
คั้
นเอาน�้
ำข้
น ๆ มา
ปรุ
งแต่
งรส ในซี
รี
ส์
เกาหลี
ชื่
อดั
ง
แดจั
งกึ
ม
พู
ดถึ
งน�้
ำปรุ
งรส
ที่
คนเกาหลี
โบราณให้
ความส�
ำคั
ญมาก ถึ
งกั
บต้
องหมั
กใส่
โอ่
งใหญ่
ๆ ตั้
งเรี
ยงรายไว้
ท�
ำให้
นึ
กถึ
งน�้
ำมะขามเปี
ยกของเรา
โดยอั
ตโนมั
ติ
อาหารสามรสแบบไทย ๆ ต้
องมี
มะขามเปี
ยก
เจี
ยวน�้
ำมั
นหมู
แล้
วเก็
บกากหมู
ชิ้
นเล็
กที่
กรอบๆ ไว้
ด้
วย
ตั
กน�้
ำมั
นขึ้
นให้
เหลื
อติ
ดกระทะสั
กช้
อนโต๊
ะครึ่
ง โขลกพริ
กแห้
งและ
หอมแดงหั
วเล็
กให้
พอหยาบๆ ตั
กใส่
กระทะ เจี
ยวให้
หอม แล้
วใส่
กุ้
งแห้
งตั
วเล็
ก หั่
นเต้
าหู้
เหลื
อง หั
วไช้
โป๊
ว เป็
นชิ้
นลู
กเต๋
าเล็
กๆ
ถั่
วลิ
สงคั่
วต�
ำหยาบ ผั
ดให้
หอม (ถั่
วลิ
สงนี่
จะแยกใส่
ข้
างจานก็
ได้
ที่
ส�
ำคั
ญคื
อต้
องคั่
วก่
อนจึ
งต�
ำหยาบ) ใส่
เส้
นเล็
กที่
แช่
น�้
ำพอนิ่
ม
แล้
วเติ
มน�้
ำปรุ
งผั
ดไทย (ที่
เคี่
ยวน�้
ำมะขามเปี
ยก น�้
ำตาลโตนด
และน�้
ำปลาให้
ได้
สามรส) ลงไปคลุ
กเคล้
า จนเส้
นกระจายติ
ดเครื่
องปรุ
งดี
เอาตะหลิ
วแหวกเส้
นให้
เห็
นก้
นกระทะ แล้
วหยอดน�้
ำมั
นหมู
ลงไปเกื
อบ
๑ ช้
อนโต๊
ะ ก่
อนจะตอกไข่
ตามลงไป ใช้
แง่
งตะหลิ
วเขี่
ยให้
ไข่
แดงแตก
เล็
กน้
อยก่
อนกลบเส้
นทั
บลงไป ใส่
ใบกุ
ยช่
ายตั
ดท่
อนสั้
น ถั่
วงอกเด็
ดหาง
ใครชอบกากหมู
ก็
ใส่
ลงไปนิ
ดหน่
อย ผั
ดอี
กสองที
ก็
ตั
กขึ้
น
หรื
อเอากากหมู
มาวางกองข้
างเส้
นเวลาจะเสิ
ร์
ฟก็
ได้
(นิ
ดหน่
อยพอ เพื่
อรั
กษาสุ
ขภาพให้
กิ
นผั
ดไทยกั
นไปนานๆ)
ผั
ดไทย
สู
ตรภาคกลาง
ดั้
งเดิ
ม
1...,54,55,56,57,58,59,60,61,62,63
65,66,67,68,69,70,71,72,73,74,...124