นิตยสารวัฒนธรรม ฉบับ ๔ ปีพ.ศ.๒๕๕๗ - page 9
9
ตุ
ลาคม-ธั
นวาคม ๒๕๕๗
๑
อมิ
โลส (amylose) หมายถึ
ง แป้
งชนิ
ดหนึ่
งที่
มี
อยู่
ในเมล็
ดข้
าว มี
ผลให้
เมื่
อหุ
งสุ
ก
แล้
วข้
าวสวยมี
ความแข็
งหรื
ออ่
อนนุ่
มแตกต่
างกั
นไปตามปริ
มาณอมิ
โลส
พั
นธุ
์
ข้
าวหอมพื้
นเมื
องของประเทศไทยส่
วนใหญ่
เป็
นพั
นธุ
์
ข้
าวในกลุ
่
มอิ
นดิ
กา ซึ่
งมี
การปลู
กแพร่
หลายใน
หลายประเทศของภู
มิ
ภาคอุ
ษาคเนย์
ส�
ำหรั
บประเทศไทย
พบว่
ามี
การเพาะปลู
กข้
าวหอมอยู
่
ในแทบทุ
กภาค ผลจาก
การเก็
บรวบรวมพั
นธุ
์
ข้
าวหอมของกรมการข้
าว ในช่
วงต้
น
ทศวรรษ ๒๕๐๐ ปรากฏว่
าสามารถรวบรวมพั
นธุ
์
ข้
าวพื้
นเมื
อง
ได้
เป็
นจ�
ำนวน ๘๐๓ สายพั
นธุ
์
และในจ�
ำนวนดั
งกล่
าวนั้
น
พบว่
าเป็
นข้
าวหอมถึ
ง ๒๐๒ สายพั
นธุ
์
เช่
น ข้
าวหอมมะลิ
เหลื
องหอม หอมดง หอมทอง เหลื
องทอง หอมสุ
ริ
นทร์
หอมดอ หอมทุ
่
ง หอมพม่
า หอมเขมร หอมจั
น หอมนางนวล
เจ้
าหอม ขาวดอกมะลิ
หอมทุ
เรี
ยน หอมหาง ขาวดอกมะลิ
เตี้
ย
หอมเศรษฐี
ดอเหลื
อง ส้
มโฮง มั
นเป็
ด แม่
ห้
าง แดงหอม
เหนี
ยวหอม หอมอ้
ม หอมมาล่
า หอมมาลั
ย ล้
นยุ้
ง ลู
กผึ้
ง
หอมเมล็
ดเล็
ก เหนี
ยวหอมมะลิ
เหลื
องอ่
อนเบา ขาวตาเจื
อ
กาบด�
ำ ปลาไหล ประดู
่
แดง อี
ปลวก อี
โกย เจ๊
กเชยเบา
ลายเห็
น ขาวกะเหรี่
ยง หอมลาว ก�่
ำด�
ำ หอมขี้
ควาย หอมสะดุ
้
ง
หนู
โขง หอมสวน เหนี
ยวดี
จระเข้
หอมมะลิ
๑๐๕ ฯลฯ
บรรดาพั
นธุ
์
ข้
าวหอมพื้
นเมื
องที่
มี
อยู
่
มากมาย
เหล่
านี
้
แสดงถึ
งความอุ
ดมสมบู
รณ์
และความหลากหลายทาง
ชี
วภาพของท้
องถิ่
นได้
เป็
นอย่
างดี
แต่
อย่
างไรก็
ดี
เมื่
อสั
งคม
และเศรษฐกิ
จเริ่
มเข้
าสู
่
ระบบการแข่
งขั
น อี
กทั้
งประชากร
ในประเทศมี
จ�
ำนวนเพิ่
มมากขึ้
น ท�
ำให้
มี
ความจ�
ำเป็
นต้
อง
พั
ฒนาให้
เกิ
ดความมั่
นคงทางด้
านอาหาร ซึ่
งการพั
ฒนา
สายพั
นธุ์
ข้
าวคื
อความจ�
ำเป็
นหนึ่
ง ที่
มี
ผลต่
อความมั่
นคงนั้
น
หน่
วยงานรั
ฐที่
เกี่
ยวข้
อง และเกษตรกรจ�
ำนวนมากจึ
งมี
การคิ
ดค้
นและพั
ฒนาสายพั
นธุ
์
ข้
าวให้
มี
ความเหมาะสมกั
บ
นิ
เวศวั
ฒนธรรมของตนเอง ด้
วยเหตุ
นี
้
ข้
าวหอมไทยจ�
ำนวน
๑๓ สายพั
นธุ์
จึ
งถู
กน�
ำมาพั
ฒนาและปรั
บปรุ
งพั
นธุ์
ซึ่
งกรม
พั
ฒนาพั
นธุ์
ข้
าวได้
จ�
ำแนกกลุ่
มตามปริ
มาณอมิ
โลส
๑
ได้
แก่
๑. กลุ
่
มพั
นธุ
์
ข้
าวเจ้
าหอมที่
มี
อมิ
โลสต�่
ำกว่
าร้
อยละ๒๐
ได้
แก่
ข้
าวขาวดอกมะลิ
๑๐๕ กข๑๕ ข้
าวเจ้
าหอมคลองหลวง๑
ข้
าวเจ้
าหอมสุ
พรรณบุ
รี
ปทุ
มธานี
๑ ข้
าวเจ้
าหอมพิ
ษณุ
โลก
กลุ
่
มพั
นธุ
์
ข้
าวเจ้
าหอมที่
มี
อมิ
โลสปานกลาง ได้
แก่
พั
นธุ
์
นางมล
เอส-๔ และ ดอกพะยอม กลุ
่
มพั
นธุ
์
ข้
าวเจ้
าหอม ที่
มี
อมิ
โลสสู
ง
ได้
แก่
ข้
าวปทุ
มธานี
๖๐
๒. กลุ
่
มพั
นธุ
์
ข้
าวเหนี
ยวหอม ได้
แก่
กข๖ สกลนคร
ขาวโป่
งไคร้
และข้
าวดอสามเดื
อน (อาร์
๒๕๘)
จะเห็
นได้
ว่
าข้
าวหอมของไทยนั้
นมี
หลากหลาย
สายพั
นธุ์
และที่
ถู
กเลื
อกมาพั
ฒนาทั้
ง ๑๓ สายพั
นธุ์
ยั
งคง
เป็
นพั
นธุ
์
ข้
าวที่
ชาวนานิ
ยมปลู
กกั
นในปั
จจุ
บั
น แต่
ที่
เป็
นที่
รู
้
จั
ก
และกลายเป็
นสิ
นค้
าส่
งออกที่
ส�
ำคั
ญ คื
อกลุ
่
มพั
นธ์ุ
ข้
าวเจ้
าหอม
ที่
คนทั่
วไปรู้
จั
กในชื่
อว่
า ข้
าวหอมมะลิ
ข้
าวหอมไทย
I...,II,1,2,3,4,5,6,7,8
10,11,12,13,14,15,16,17,18,19,...122