วารสารวัฒนธรรม มกราคม - มีนาคม ๒๕๕๗ - page 8

8
ให้
อภั
ยอ�
ำมาตย์
ทั้
งสอง อจิ
ตกุ
มารท�
ำพิ
ธี
เชิ
ญอ�
ำมาตย์
ทั้
งสอง
คื
อพระยาหงส์
ทอง และพระยาหงส์
เหมราช โดยท�
ำพิ
ธี
โรงครู
ตั้
งเครื่
องสิ
บสอง ตั้
งงานพิ
ธี
๓ วั
น คื
อ วั
นพุ
ธ วั
นพฤหั
สบดี
และวั
นศุ
กร์
พร้
อมทั้
งมี
การร�
ำที่
สวยงามให้
ชม แต่
การแสดง
ของนั
กร�
ำแต่
งกายด้
วยผ้
าเก่
าๆ ขาดๆ นั
กร�
ำจึ
งหยิ
บผ้
ายก
ที่
พระยาสายฟ้
าฟาดจั
ดไว้
เป็
นเครื่
องบู
ชามาสวมใส่
ท�
ำให้
ท่
าร�
ำมี
ความสวยงามเป็
นที่
พอพระทั
ย พระยาสายฟ้
าฟาด
ได้
เปลื้
องเครื่
องทรงและถอดมงกุ
ฎให้
อจิ
ตกุ
มาร พร้
อมทั้
ก�
ำหนดหลั
กว่
า หากต่
อไปภายหน้
าผู
ใดจะรั
บโนราไปร�
ต้
องมี
ขั
นหมาก ให้
ปลู
กโรงกว้
าง ๔ ศอก ยาว ๑๑ ศอก โดย
ให้
โรงร�
ำเป็
นกรรมสิ
ทธิ์
ของคณะนั
กร�
ำ เมื่
อเสร็
จสิ้
นพิ
ธี
แล้
พระยาสายฟ้
าฟาดได้
เปลี่
ยนชื่
อนางนวลส�
ำลี
เป็
น “ศรี
มาลา”
ประทานชื่
ออจิ
ตกุ
มารเป็
น “เทพสิ
งหร” พร้
อมพระราชทาน
ศร และพระขรรค์
ให้
แก่
เทพสิ
งหร
ต�
ำนานโนรายั
งมี
เล่
าอี
กหลายส�
ำนวน แม้
ว่
ชื่
อที
ปรากฏในแต่
ละต�
ำนานจะแปลกแตกต่
างไปบ้
าง เช่
นางนวลส�
ำลี
นางนวลทองส�
ำลี
แต่
ก็
ยั
งคงโครงเรื่
องที่
กล่
าวถึ
งการถู
กลอยแพไปติ
ดเกาะกะชั
ง การมี
ครรภ์
โดย
มี
พระอิ
นทร์
หรื
อเทพดาดลบั
นดาล การร�
ำโนราที่
เกิ
ดขึ้
ระหว่
างถู
กเนรเทศ ชื่
อในต�
ำนานอื่
นๆ เช่
น ท้
าวเทพสิ
งหร
พระยาสายฟ้
าฟาดขุ
นสั
ทธาหรื
อศรี
สั
ทธาพรานบุ
ญนางกิ
นรี
ฯลฯ
นอกจากนี้
ในต�
ำนานอื่
นๆ และเรื่
องราวที
เล่
าขานในวงการโนรา
ยั
งมี
เรื่
องราวที่
ต่
อเนื่
องจากวรรณคดี
เรื่
องพระสุ
ธนชาดก
คื
อ พระสุ
ธน - นางมโนห์
รา ท้
องเรื่
องนี้
ได้
เข้
ามาผสมผสาน
กั
บการแสดงโนรา มี
ตั
วละครส�
ำคั
ญๆ เพิ่
มเติ
ม คื
อพรานบุ
พระธิ
ดา ซึ่
งเป็
นนางกิ
นนรี
๗ นาง มี
การตั้
งพิ
ธี
โรงครู
เข้
างาน
พิ
ธี
กรรมวั
นพุ
ธ ส่
งครู
วั
นศุ
กร์
ในพิ
ธี
มี
การอั
ญเชิ
ญวิ
ญญาณต่
างๆ
ที่
เป็
นครู
ส�
ำคั
ญของโนรา มี
การร�
ำคล้
องหงส์
ร�
ำแทงเข้
(จระเข้
)
เป็
นต้
รำ
�แทงเข้
(จระเข้
) ใช้
รำ
�ในพิ
ธี
โนราโรงครู
จะรำ
�หลั
งจากคล้
องหงส์
แล้
I,II,1,2,3,4,5,6,7 9,10,11,12,13,14,15,16,17,18,...IV
Powered by FlippingBook