12
วั
ฒนธ รม
ม.ร.ว. คึ
กฤทธิ
์
ปราโมช ได้
ให้
ภาพในเชิ
งสมมุ
ติ
ฐาน
ถึ
งการบรรจุ
สมบั
ติ
ลงกรุ
เมื่
อครั้
งกระโน้
นเอาไว้
ว่
า
“...เมื
่
อเจ้
าพนั
กงานน�
าพระบรมอั
ฐิ
หรื
อพระอั
ฐิ
ลง
บรรจุ
พร้
อมด้
วยเครื
่
องราชกกุ
ธภั
ณฑ์
และของหลวงทั
้
ง
ปวงเสร็
จแล้
ว พระเจ้
าแผ่
นดิ
นก็
คงเสด็
จพระราชด�
าเนิ
น
ไปยั
งปากกรุ
เพื
่
อทรงหลั
่
งน�
้
าทั
กษิ
โณทก...ครั
้
นน�
้
า
ทั
กษิ
โณทกหมดพระเต้
าแล้
ว จะทรงพระราชศรั
ทธาตื
้
นตั
น
ขึ
้
นมาอย่
างไรก็
สุ
ดที
่
จะเดา แทนที
่
จะพระราชทานพระ
เต้
าทั
กษิ
โณทกอั
นมี
จุ
กเป็
นรู
ปพรหมพั
กตร์
นั
้
นคื
นให้
แก่
พนั
กงาน กลั
บทรงเหวี
่
ยงพระเต้
านั
้
นลงไปในกรุ เมื
่
อได้
เห็
นพระราชศรั
ทธาแก่
กล้
าดั
งนี
้
แล้
ว บรรดาพระบรม-
วงศานุ
วงศ์
ข้
าราชการผู
้
ใหญ่
ตลอดจนขุ
นหมื
่
นพั
นทนาย
และมหาดเล็
กข้
าหลวง คนทั
้
งปวงที
่
ไปในงานนั
้
น เมื
่
อถึ
ง
คราวที
่
ตนจะต้
องขึ
้
นไปถวายบั
งคมพระอั
ฐิ
ธาตุ
เป็
นครั
้
ง
สุ
ดท้
าย ต่
างก็
เหวี
่
ยงเครื
่
องทองหยองที
่
ติ
ดตั
วมา ลงไป
อุ
ทิ
ศถวายเป็
นการโดยเสด็
จ ประเพณี
เอาของมี
ค่
าใส่
ลง
ไปในที
่
บรรจุ
อั
ฐิ
แทนพวงหรี
ดนั
้
นคงมี
มาก่
อนแล้
ว...ของ
ที
่
บรรจุ
ในลั
กษณะเช่
นนี
้
จึ
งเป็
นของที
่
ผู
้
ไปในงานแต่
ละ
คนอุ
ทิ
ศถวาย มี
ค่
ามากบ้
างน้
อยบ้
างตามฐานะของผู
้
อุทิศ มิใช่สมบัติกษัตริย์ไปทั
้งสิ
้น ดังเช่นที
่เข้าใจกัน...”
สะท้
อนว่
าความมั
่
งคั
่
งเรื
่
องทองค�
าในราชอาณาจั
กร
สยามย่
อมมี
มาก่
อนนั
้
นแล้
ว ดั
งที
่
ปรากฏในวรรณคดี
อิ
นเดี
ยที
่
เรี
ยกขานดิ
นแดนแถบนี
้
ว่
า สุ
วรรณภู
มิ
อั
นมี
ความหมายว่
า แดนทอง แม้
จะยั
งไม่
เป็
นที
่
แน่
ชั
ดว่
าอยู
่
ตรงไหน แต่
ก็
เป็
นที่
ยอมรั
บกั
นว่
าอยู่
ในแถบอุ
ษาคเนย์
เมื
่
อครั
้
งโบราณทองค�
าถื
อเป็
นเครื
่
องก�
าหนดชนชั
้
น
ทางสั
งคม ซึ่
งจ�
ากั
ดอยู
่
เฉพาะในหมู
่
ชนชั
้
นสู
งเท่
านั
้
น
ชาวบ้
านสามั
ญชนแม้
จะมี
ฐานะพอจะซื
้
อหาทองได้
ก็
ไม่
มี
สิ
ทธิ
จะครอบครอง ดั
งมี
กฎมณเที
ยรบาลที
่
ช�
าระในสมั
ย
รั
ชกาลที
่
๑ โดยใช้
กฎหมายสมั
ยอยุ
ธยาเป็
นแม่
แบบ
ห้
ามไม่
ให้
ช่
างทองท�
าเครื
่
องทองต้
องห้
ามให้
ผู
้
อื
่
น ตลอด
จนห้
ามการซื
้
อขายอย่
างเด็
ดขาด ผู
้
ฝ่
าฝื
นมี
บทลงโทษ
หนั
ก ๑๐ สถาน ตามบั
ญญั
ติ
พระไอยการอาญาหลวง
เมื
่
อมี
การพบแหล่
งทองค�
าที
่
ไหนจึ
งต้
องน�
าถวายแด่
พระมหากษั
ตริ
ย์
ผู
้
เปรี
ยบเสมื
อนสมมุ
ติ
เทพ อย่
างคราว
ที
่
มี
การพบแหล่
งแร่
ทองที
่
ประจวบคี
รี
ขั
นธ์
เมื
่
อปี
เถาะ
พ.ศ. ๒๒๙๐ พระกุ
ยบุ
รี
ก็
ได้
มี
หนั
งสื
อบอกมายั
งกรุ
ง
ศรี
อยุ
ธยา ซึ่
งอยู
่
ในรั
ชสมั
ยสมเด็
จพระเจ้
าบรมโกศ ตาม
ที
่
มี
บั
นทึ
กใน
พระราชพงศาวดารฉบั
บพระราชหั
ตถเลขา
เล่
ม ๒ ว่
า
เต่
าทองค�
า