เมษายน-มิ
ถุ
นายน
๒๕๕๕
5
นเชิ
งคุ
ณค่
า ทองค�
าดู
จะเป็
นสิ
งหนึ
งที
ไม่
เคยเสื
อมค่
า สมดั
คุ
ณสมบั
ติ
ของโลหะธาตุ
ชนิ
ดนี
ที
มี
ความสุ
กใสเหลื
องอร่
ามอยู
เป็
นิ
รั
นดร์
ทองไม่
หมองแม้
ถู
กฝั
งอยู
ในดิ
นโคลนนั
บร้
อยนั
บพั
นปี
มั
นจึ
งถู
กให้
ค่
าและเป็
นเครื
องประกอบการแสดงความเชิ
ดชู
บู
ชา
มาแต่
โบราณ
ในทุ
กวั
นนี
ทองค�
ายั
งเป็
นที
แพร่
หลายกว้
างขวาง ในฐานะเครื
องประดั
บระดั
บนที
นิ
ยมกั
นทั
วไป และเป็
นสิ
งส�
าคั
ญที
ถื
อว่
าขาดไม่
ได้
ส�
าหรั
บพิ
ธี
สมรสคู
บ่
าวสาว
ที่
มั
กต้
องมี
ทองเป็
นสิ
นสอดด้
วย
ในมิ
ติ
เศรษฐกิ
จระดั
บมหภาค ปริ
มาณทองค�
าส�
ารอง สะท้
อนถึ
งความมั
งคั
และถื
อเป็
นหลั
กประกั
นเงิ
นตราของชาติ
เช่
นเดี
ยวกั
บในแง่
อารยธรรม ที
ถื
อว่
าทองค�
าอยู
คู
กั
บสั
งคมไทยมาแต่
ครั
โบราณกาล
เรื
องนี
อาจเป็
นเพี
ยงค�
ากล่
าวอ้
างเลื
อนลอย หากเราไม่
มี
หลั
กฐานอย่
าง
เครื
องทองกรุ
งศรี
อยุ
ธยาจากกรุ
วั
ดราชบู
รณะ ปรากฏเป็
นที
รั
บรู
กั
นมาตั
งแต่
ปี
พ.ศ. ๒๕๐๐
“ทองค�
ำ”
ในอำรยธรรมและสั
งคมไทย
เรื
องจากปก
วี
ระศั
กร จั
นทร์
ส่
งแสง
ภาพ : สกล เกษมพั
นธุ์
, ประเวช ตั
นตราภิ
รมย์
, บั
ณสิ
ทธิ์
บุ
ณยะรั
ตเวช
1,2,3,4,5,6 8,9,10,11,12,13,14,15,16,17,...124