นิตยสารวัฒนธรรม ฉบับ ๓ ปีพ.ศ.๒๕๕๗ - page 36

36
ประติ
มากรรมนู
นสู
งบนกำ
�แพง ณ อนุ
สาวรี
ย์
พระนางจามเทวี
เล่
าเรื่
องราวเมื
องหริ
ภุ
ญไชย เมื่
อครั้
งพระนางจามเทวี
ทรงครอง
เมื
องอั
นสุ
ขสงบรุ่
งเรื
อง
เมื่
อพระนางจามเทวี
ครองเมื
องหริ
ภุ
ญไชยได้
๗ วั
ก็
ประสู
ติ
โอรสสองพระองค์
เนื่
องด้
วยเมื่
อพระนางเดิ
นทาง
มานั้
นพระนางทรงครรภ์
ได้
สามเดื
อนแล้
ว โอรสองค์
พี่
ชื่
มหั
นตยศ และองค์
น้
องชื่
ออิ
นทวรหรื
อบางต�
ำนานเรี
ยก
อนั
นตยศ พระนางจามเทวี
ได้
ครองเมื
องหริ
ภุ
ญไชยด้
วย
ทศพิ
ธราชธรรมและศรั
ทธามั่
นคงในพระพุ
ทธศาสนา
พระพุ
ทธศาสนาที่
เข้
ามาเผยแผ่
ยั
งเมื
องหริ
ภุ
ญไชยนั้
เป็
นพระพุ
ทธศาสนาที่
ได้
รั
บการเผยแผ่
มาจากพระโสณะ
พระอุ
ตระ ที่
พระเจ้
าอโศกมหาราช ส่
งมาเผยแผ่
พระพุ
ทธ
ศาสนายั
งดิ
นแดนสุ
วรรณภู
มิ
เมื
องหริ
ภุ
ญไชยเมื
อครั
งพระนางจามเทวี
เป็
กษั
ตรี
ย์
ผู
ครองนคร เป็
นภาพอั
นเปี
ยมสุ
ขดุ
จดั
งเมื
องสวรรค์
แต่
กระนั้
นก็
มี
ข้
าศึ
กมารบกวนเป็
นธรรมดา เมื่
อขุ
นวิ
ลั
งคราชา
เจ้
าแห่
งลั๊
วะประสงค์
จะขอพระนางไปเป็
นมเหสี
ด้
วยหวั
งว่
จะได้
ทั
งพระนางและเมื
องมาครองในที่
สุ
ด แต่
พระนาง
หายอมไม่
จึ
งเกิ
ดศึ
กสู
รบกั
น พระนางจามเทวี
จึ
งให้
พระโอรส
ทั้
งสองคื
อเจ้
ามหั
นตยศและเจ้
าอนั
นตยศแต่
งทั
พออกไป
สู้
รบกั
บทั
พของขุ
นลั๊
วะ พวกลั๊
วะเกรงกลั
วบุ
ญญาบารมี
แห่
พระโอรสทั้
งสอง จึ
งแตกทั
พและพ่
ายแพ้
ในที่
สุ
นั
บตั้
งแต่
นั้
นพระนางจามเทวี
จึ
งตั
ดสิ
นพระทั
ยที่
จะให้
เจ้
ามหั
นตยศ ได้
ขึ้
นครองเมื
องหริ
ภุ
ญไชยสื
บแทนพระนาง
ต่
อมา บ้
างว่
าพระนางครองเมื
องอยู
ได้
๑๘ ปี
จึ
งได้
สละ
ราชสมบั
ติ
ส่
วนโอรสผู้
น้
องเจ้
าอิ
นทวรหรื
อเจ้
าอนั
นตยศนั้
เมื่
อพี่
ได้
ครองเมื
องแล้
ว ก็
ใคร่
อยากที่
จะได้
ครองเมื
องแบบ
เจ้
าพี่
บ้
าง จึ
งไปขอความเห็
นต่
อพระนางจามเทวี
ซึ่
งพระนาง
ก็
ไปปรึ
กษาฤๅษี
วาสุ
เทพ ซึ่
งฤๅษี
วาสุ
เทพให้
ไปหาพราหมณ์
ชื่
อเขลางค์
แล้
วจะพาไปพบกั
บสุ
พรหมฤๅษี
เพื่
อหาที่
สร้
าง
เมื
องใหม่
ในชั
ยภู
มิ
ที่
เหมาะสมต่
อไป และเมื่
อได้
พบกั
นแล้
สุ
พรหมฤๅษี
จึ
งได้
พาไปสร้
างเมื
องใหม่
ที่
ชั
ยภู
มิ
ริ
มน�้
ำวั
อั
นงดงาม และตั้
งชื่
อเมื
องนั้
นตามชื่
อพราหมณ์
ว่
า เขลางค์
นคร
แล้
วเจ้
าอนั
นตยศก็
ครองเมื
องเขลางค์
นครสื
บต่
อมา
เจ้
าอนั
นตยศได้
ทู
ลเชิ
ญพระนางจามเทวี
ไปดู
แล
เมื
องเขลางค์
นครของพระองค์
ในต�
ำนานมู
ลศาสนาบอกว่
พระนางได้
ไปประทั
บ ณ เมื
องเขลางค์
นครนานถึ
ง ๖ เดื
อน
แล้
วจึ
งเสด็
จกลั
บเมื
องหริ
ภุ
ญไชย ครั้
นเสด็
จกลั
บได้
ไม่
นาน
ก็
เสด็
จสวรรคต ซึ
งบ้
างว่
ากลั
บมาถึ
งเมื
องหริ
ภุ
ญไชยได้
๗ วั
บ้
างก็
ว่
านานถึ
ง ๗ เดื
อน จึ
งสวรรคต
ในพงศาวดารโยนกบั
นทึ
กว่
า พระนางครองเมื
องอยู
นานถึ
ง ๕๒ ปี
จึ
งเสด็
จสวรรคตเมื่
อพระชนมายุ
๙๒ ปี
และใน
บั้
นปลายชี
วิ
ตของพระองค์
ได้
ถื
อศี
ลปฏิ
บั
ติ
ธรรมณวั
ดจามเทวี
จนสิ้
นพระชนม์
เมื่
อพระนางจามเทวี
สิ้
นพระชนม์
เจ้
ามหั
นตยศ โอรส
องค์
โตผู
ครองนครได้
ถวายพระเพลิ
งพระบรมศพและได้
จั
สร้
างเจดี
ย์
ขึ้
นเพื่
อประดิ
ษฐานพระบรมอั
ฐิ
ของพระนาง ขึ้
นทาง
ทิ
ศตะวั
นออกของเมื
องหริ
ภุ
ญไชย ชื่
อว่
าสุ
วรรณจั
งโกฏเจดี
ย์
ซึ่
งเชื่
อกั
นว่
า คื
อเจดี
ย์
กู่
กุ
ฎ หรื
อกู่
กุ
ด ณ วั
ดกู่
กุ
ดหรื
อวั
ดจาม
เทวี
ในปั
จจุ
บั
ราชวงศ์
หริ
ภุ
ญไชยได้
มี
กษั
ตริ
ย์
ปกครองสื
บต่
อมาถึ
๕๐ พระองค์
ครองราชย์
สื
บต่
อกั
นมา ๖๓๑ ปี
จนสุ
ดท้
าย
ได้
เสี
ยเมื
องให้
กั
บพญามั
งรายแห่
งแคว้
นโยนกที่
ขยาย
อ�
ำนาจมาถึ
ต�
ำนานของพระนางจามเทวี
มี
รายละเอี
ยดอยู
ใน
หนั
งสื
อส�
ำคั
ญคื
อต�
ำนานมู
ลศาสนา ซึ่
งแต่
งเป็
นภาษาไทยเหนื
ใช้
อั
กษรธรรมจารบนใบลาน เขี
ยนราวพ.ศ. ๑๙๐๐ แต่
งโดย
พระพุ
ทธพุ
กามและพระพุ
ทธญาณเจ้
า หนั
งสื
อเรื่
องจามเทวี
วงศ์
พงศาวดารเมื
องหริ
ภุ
ญไชย ซึ่
งพระโพธิ
รั
งสี
เป็
นผู
รจนาไว้
เป็
นภาษาบาลี
เมื่
อปี
พ.ศ. ๒๐๒๐ ซึ่
งมี
การแปลเป็
นภาษาไทยโดย
พระปริ
ยั
ติ
ธรรมธาดา (แพ ตาละลั
กษณ์
) และพระญาณวิ
ชิ
ตร
(สิ
ทธิ
โจนานนท์
) พิ
มพ์
ครั้
งแรกในปี
พ.ศ. ๒๔๖๓สมั
ยรั
ชกาลที่
และหนั
งสื
อชิ
นกาลมาลิ
นี
ปกรณ์
แต่
งโดยพระรั
ตนปั
ญญา
เมื่
อปี
พ.ศ. ๒๐๕๙ หนั
งสื
อเหล่
านี้
ล้
วนจารึ
กขึ้
นหลั
งสมั
พระนางจามเทวี
นั
บเป็
นร้
อยปี
ทั้
งสิ้
I...,26,27,28,29,30,31,32,33,34,35 37,38,39,40,41,42,43,44,45,46,...122
Powered by FlippingBook