นิตยสารวัฒนธรรม ฉบับ ๓ ปีพ.ศ.๒๕๕๗ - page 30
30
ราวปลายพุ
ทธศตวรรษที่
๑๙ ถึ
งกลางพุ
ทธศตวรรษ
ที่
๒๐เครื่
องเคลื
อบประเภทเขี
ยนลายสี
ด�
ำใต้
เคลื
อบได้
รั
บอิ
ทธิ
พล
จากเครื่
องลายครามจี
นสมั
ยราชวงศ์
หยวน (พ.ศ.๑๘๒๒
-๑๙๑๑) ทั้
งรู
ปทรงและลวดลาย โดยผลิ
ตเป็
นแจกั
นคอยาว
และจานก้
นตื้
นปากผายออกเป็
นขอบหนา ก้
นกว้
างฐาน
ไม่
เคลื
อบ ค่
อนข้
างหนั
ก ตกแต่
งด้
วยลวดลายสระบั
ว
ลายดอกบั
ว ลายก้
านขด เป็
นกลุ
่
มที่
มี
อายุ
เก่
าที่
สุ
ด ต่
อมาช่
วง
ปลายพุ
ทธศตวรรษที่
๒๐ ถึ
งกลางพุ
ทธศตวรรษที่
๒๑ ได้
รั
บ
อิ
ทธิ
พลด้
านรู
ปทรงและลวดลายจากเครื่
องลายคราม
เวี
ยดนามสมั
ยราชวงศ์
เล (พ.ศ.๑๙๗๑-๒๐๗๐) รู
ปทรง
ที่
ผลิ
ตได้
แก่
จาน ชาม โถ กระปุ
ก เป็
นต้
น มั
กมี
ขอบเชิ
งหนา
และสู
ง ลวดลายที่
นิ
ยมเขี
ยนคื
อลายดอกไม้
ลายก้
านขด และ
ลายกลี
บบั
ว
ในช่
วงต้
นถึ
งปลายพุ
ทธศตวรรษที่
๒๑ เครื่
องเคลื
อบ
ประเภทนี้
ได้
รั
บอิ
ทธิ
พลจากเครื่
องถ้
วยจี
นสมั
ยราชวงศ์
หมิ
ง
ภาชนะที่
ผลิ
ตส่
วนใหญ่
เป็
นประเภทจาน ชาม และกระปุ
ก
รู
ปทรงใกล้
เคี
ยงกั
บเครื่
องถ้
วยจี
นมาก ลวดลายที่
ใช้
ตกแต่
ง
ได้
แก่
ลายก้
านขด ลายกิ
เลน ลายจุ
ด ลายสามเหลี่
ยม และ
ลายภู
มิ
ประเทศ ซึ่
งเป็
นลายที่
มี
ความโดดเด่
น และแสดงถึ
ง
การเลี
ยนแบบมากที่
สุ
ด และในระยะสุ
ดท้
ายของการผลิ
ต
เครื่
องปั
้
นดิ
นเผาเวี
ยงกาหลง คื
อช่
วงกลางพุ
ทธศตวรรษที่
๒๑
ถึ
งต้
นพุ
ทธศตวรรษที่
๒๒ พั
ฒนาการของเครื่
องเคลื
อบ
ประเภทเขี
ยนลายสี
ด�
ำใต้
เคลื
อบได้
แสดงถึ
งเอกลั
กษณ์
ของ
เวี
ยงกาหลงอย่
างแท้
จริ
ง รู
ปทรงที่
ผลิ
ตส่
วนใหญ่
เป็
นจานและ
ชามปากกว้
าง ชามทรงสู
งขนาดเล็
ก แจกั
น โถมี
ฝา ตั
วหมากรุ
ก
กระปุ
ก และคนโท เป็
นต้
น ตั
วภาชนะบางมาก (๒-๔มิ
ลลิ
เมตร)
ลั
กษณะของภาชนะจะท�
ำขอบเชิ
งบางและเตี้
ย ก้
นไม่
เคลื
อบ
ด้
านนอกของภาชนะมั
กตกแต่
งด้
วยลายกลี
บบั
วโดยรอบ
ลายช่
อดอกไม้
ก้
านขด ลายพั
นธุ
์
พฤกษา ลายเส้
นแบบนามธรรม
ส่
วนภายในมั
กเขี
ยนลายกา ลายกลี
บดอกไม้
บาน ลายใบไม้
ลายพั
นธุ
์
ไม้
ทั้
งแบบธรรมชาติ
และแบบนามธรรม เป็
นต้
น มี
ทั้
ง
ลายที่
เขี
ยนด้
วยพู
่
กั
นขนาดใหญ่
เส้
นแถบลายหนาและลาย
เส้
นเล็
กบางเบา
ถ้
วยเขี
ยนลายสี
ดำ
�ใต้
เคลื
อบ ราวพุ
ทธศตวรรษที่
๒๑
อิ
ทธิ
พลลวดลายจากชามลายครามเวี
ยดนาม สมั
ยราชวงศ์
เล
จานเนื้
อแกร่
ง เขี
ยนลายสี
ดำ
�ใต้
เคลื
อบ
พื้
นจานคล้
ายลายกา ที่
นำ
�มาจั
ด
องค์
ประกอบโดยมี
เส้
นโค้
งเป็
นตั
วเชื่
อม
ระหว่
างลาย ทำ
�ให้
ดู
คล้
ายลายดอกไม้
อาจเรี
ยกว่
า “ลายดอกกา” พบที่
กลุ่
มเตาในพื้
นที่
ต้
นน้ำ
�แม่
เฮี
ยว
แจกั
นเขี
ยนลายสี
ดำ
�ใต้
เคลื
อบ
ลายช่
อดอกไม้
ราวพุ
ทธศตวรรษที่
๒๑-๒๒
I...,20,21,22,23,24,25,26,27,28,29
31,32,33,34,35,36,37,38,39,40,...122