94
ห้
อง ๓ และ ๔ นิ
ทรรศการ “พระหั
ตถ์
ที่
ทรงงานเพื่
อแผ่
นดิ
น”
สองห้
องนี้
เป็
นเรื่
องเล่
าเกี่
ยวกั
บพระราชกรณี
ยกิ
บอกเล่
าเรื
องราวต้
นกำ
�เนิ
ดมู
ลนิ
ธิ
ส่
งเสริ
มศิ
ลปาชี
พ ตั้
งแต่
ปี
พ.ศ. ๒๕๑๓ เพื่
อให้
ประชาชนได้
รู้
จั
กให้
มากขึ้
น เนื่
องจาก
เป็
นเรื่
องที่
เกี่
ยวข้
องกั
บผ้
าด้
วยนั่
นเอง
เมื่
อครั้
งที่
“ท่
านผู้
หญิ
งสุ
ประภาดา เกษมสั
นต์
และ “ท่
านผู้
หญิ
งจรุ
งจิ
ตต์
ที
ขะระ” ลงพื้
นที่
หาข้
อมู
ลที่
จะทำ
โครงการ ในขณะนั้
นผ้
าไหมมั
ดหมี่
ในภาคอี
สานไม่
ค่
อยมี
ให้
เห็
นนั
ก จะมี
ก็
เฉพาะที่
สวมใส่
อยู่
ตามบ้
านเรื
อนต่
างๆ พอไป
ขอชาวบ้
านเพื่
อที่
จะนำ
�มาศึ
กษาทอผื
นใหม่
ชาวบ้
านก็
ไม่
ยอมให้
มา เพราะพวกเขาต้
องสวมใส่
ท่
านจึ
งซื้
อผ้
าในพื้
นที่
กลั
บมาแทน พระองค์
ตรั
สว่
า ไม่
ใช่
ผ้
าที่
พระองค์
ทรง
ทอดพระเนตรเวลาที
ราษฎรมารั
บเสด็
จ ก็
เลยบอกให้
กลั
บไป
ที่
บ้
านของพวกเขาอี
กครั้
ง ให้
ไปขอผ้
าที่
เป็
นผ้
าโบราณของ
พวกเขามา ทรงกำ
�ชั
บ “แม้
ผ้
าถู
เรื
อนก็
อย่
าละเลย” ที่
จะนำ
กลั
บมา เพราะในผ้
าถู
เรื
อนนั้
นมี
ลวดลายโบราณ มี
สี
สั
นที่
สวยงาม เนื่
องจากคนโบราณจะทอผ้
าเพื่
อใช้
เองเป็
นหลั
ดั
งนั้
นจึ
งเป็
นจุ
ดเริ่
มต้
นในการนำ
�ภู
มิ
ปั
ญญาเหล่
านั้
มาพั
ฒนาต่
อไป
ในสองห้
องนี้
นอกจากได้
ทราบเรื่
องราวของมู
ลนิ
ธิ
ส่
งเสริ
มศิ
ลปาชี
พแล้
ว ผู้
เข้
าชมก็
จะได้
รู้
จั
กเอกลั
กษณ์
ของผ้
าไหมไทยได้
ดี
ยิ่
งขึ้
น ได้
รู้
ว่
าผ้
าไหมไทยมี
ลั
กษณะเป็
อย่
างไร มาจากที่
ไหน และที่
พิ
เศษไปกว่
านั้
นก็
คื
คุ
ณจะได้
เห็
นตั
วอย่
างผ้
าต่
างๆ ซึ่
งสามารถสั
มผั
สจั
บต้
องได้
ได้
เห็
นเส้
นไหม เห็
นวิ
ธี
การมั
ดหมี่
ก่
อนที่
จะนำ
�มาทอเป็
ผ้
าสวมใส่
รวมถึ
งการให้
ความรู
เรื
องการย้
อมผ้
าด้
วยสี
ธรรมชาติ
ที่
ชาวบ้
านคิ
ดค้
นด้
วยภู
มิ
ปั
ญญาโบราณได้
เห็
นว่
าใช้
วั
สดุ
อะไร
ในการย้
อมสี
แถมยั
งมี
สู
ตรการย้
อมให้
ศึ
กษาและนำ
�กลั
บไป
ปฏิ
บั
ติ
เองได้
อี
กด้
วย ที
นี
จึ
งเป็
นแหล่
งเรี
ยนรู
เรื
องการทอผ้
าไหม
ได้
เป็
นอย่
างดี
1...,86,87,88,89,90,91,92,93,94,95 97,98,99,100,101,102,103,104,105,106,...124