46
วั
ฒนธ รม
ถึ
งแม้
“ตะกร้
อ”
(Rattan ball) ที
่
คนไทยรู
้
จั
กในฐานะกี
ฬาพื
้
นบ้
านอย่
างหนึ
่
งนั
้
นจะมี
เล่
นกั
นทั
่
วไปในเอเชี
ยตะวั
นออก
เฉี
ยงใต้
ทั
้
งภาคพื
้
นแผ่
นดิ
นใหญ่
และหมู
่
เกาะ เช่
น
ชิ
งลง
(พม่
า)
ซี
ปั
กรากา
(มาเลเซี
ย)
เซปั
ก
(ฟิ
ลิ
ปปิ
นส์
)
เตกโก
(ลู
กหนั
งปั
กขนไก่
–จี
นกวางตุ
้
ง) แต่
หากจะระบุ
ต้
นก�
าเนิ
ดแรกเริ
่
มว่
าอยู
่
ที
่
ใด คงมิ
ใช่
เรื
่
องง่
ายนั
ก และว่
าที
่
จริ
งแต่
ละชาติ
ต่
างก็
คงมี
ค�
าตอบของตั
วเองอยู
่
แล้
ว เช่
น คนไทยเชื
่
อว่
า
“ไทยนิ
ยมเล่
นตะกร้
อมายาวนาน สามารถประยุ
กต์
เข้
ากั
บ
ประเพณี
ของชนชาติ
ไทยอย่
างกลมกลื
นและสวยงามทั
้
งด้
านทั
กษะและความคิ
ด”
หรื
อ
“ตะกร้
อลอดบ่
วงเป็
นของไทย
อย่
างแท้
จริ
ง เริ
่
มตั
้
งแต่
สมั
ยสุ
โขทั
ย ใครท�
าผิ
ดกฎหมายจะถู
กจั
บยั
ดใส่
ลู
กตะกร้
อให้
ช้
างเตะ ไทยเราจึ
งดั
ดแปลงโดย
การศึ
กษาจากท่
าเตะแต่
ละท่
าของช้
างมาประยุ
กต์
เป็
นท่
าเตะตะกร้
อในปั
จจุ
บั
น”
หรื
อ
“สมั
ยเสี
ยกรุ
งครั
้
งที
่
๒
พม่ามาเห็นคนไทยท�าตะกร้อ พม่าจึงเลียนแบบไทยโดยบังเอิญ”
เหล่
านี้
เป็
นความเชื่
อฝ่
ายไทยที่
ได้
ยิ
นกั
นโดยทั่
วไป
นั
กตะกร้
อไทยสามารถ
รั
บส่
งลู
กด้
วยแข้
ง เท้
า เข่
า ศอก
ไหล่
ศี
รษะ ด้
วยลี
ลาสารพั
ด