40
ในรั
ชสมั
ยสมเด็
จพระเจ้
ากรุ
งธนบุ
รี
(พ.ศ. ๒๓๑๐
– ๒๓๒๕) ครั้
นเมื่
อเกิ
ดสงครามระหว่
างไทยกั
บพม่
า นำ
�โดย
อะแซหวุ่
นกี้
แม่
ทั
พพม่
า ยกพลมาตั้
งค่
ายที่
เมื
องสุ
โขทั
หมายจะกวาดต้
อนเสบี
ยงอาหารกั
กตุ
นไว้
สมเด็
จพระเจ้
ากรุ
งธนบุ
รี
พร้
อมด้
วยพระยาจั
กรี
และพระยาสุ
รสี
ห์
ได้
ร่
วมออกรบและ
แบ่
งกองกำ
�ลั
งออกเป็
น ๒ ฝ่
าย เพื
อรบกวนและทำ
�ลาย
รี
พลพม่
าทั
งกลางวั
นไปถึ
งกลางคื
น ส่
วนพระยาจั
กรี
พร้
อมด้
วยพระยาสุ
รสี
ห์
ได้
ทรงนั
งเล่
นหมากรุ
กอยู่
บน
เชิ
งกำ
�แพงเมื
อง ร้
องเรี
ยกให้
อะแซหวุ่
นกี้
ขึ
นมาประลองฝี
มื
สั
กกระดาน และนั
นก็
เป็
นการปรากฏหลั
กฐานการเล่
นหมากรุ
ในรั
ชสมั
ยของสมเด็
จพระเจ้
ากรุ
งธนบุ
รี
หลั
งจากการสร้
างกรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร์
ในปี
พ.ศ. ๒๓๒๕
ก็
ได้
ปรากฏว่
ามี
การเล่
นหมากรุ
กกั
นมากในหมู
พระราชวงศ์
ดั
งจะเห็
นว่
ามี
หมากรุ
กที
ทำ
�ด้
วยงาและเขาสั
ตว์
แสดงความเก่
าแก่
มานานจนงานั้
นผุ
พั
งไป หมากบางตั
วก็
อ้
วน หรื
อกลมเตี้
ไม่
ได้
ขนาดก็
มี
แต่
อย่
างไรก็
ตามหมากรุ
กได้
แพร่
หลายไปตาม
หมู่
เจ้
านาย ไพร่
พล หมู่
ทหาร ข้
าราชบริ
พาร และไปยั
วั
ดวาอารามต่
างๆ ในที่
สุ
ดเข้
าถึ
งประชาชนโดยทั่
วไปจนมา
ถึ
งปั
จจุ
บั
การเล่
นหมากรุ
กนั้
นฝั
งอยู่
ในสายเลื
อดของ
คนไทยตั้
งแต่
ในอดี
ต เห็
นได้
จากสำ
�นวนภาษาต่
างๆ มากมาย
ที่
เร าพู
ดกั
นจนติ
ดปากตร าบจนทุ
กวั
นนี้
เ หล่
านั้
ล้
วนพั
ฒนามาจากการละเล่
นหมากรุ
กนั่
นเอง เช่
รุ
กเสี
ยม้
า (การใช้
คำ
�นี้
ของคนปั
จจุ
บั
น เป็
นการพ้
องเสี
ยง
เพราะใช้
ในความหมายว่
า ลุ
กเสี
ยม้
า คื
อ การลุ
กออกจากที
นั
แล้
วเสี
ยที่
นั่
งให้
กั
บผู้
อื่
น) กลเม็
ดเคล็
ดลั
บ กิ
นขาด เข้
าทาง
เข้
าตาจน จนมุ
ม จนแต้
ม ดู
ตาม้
าตาเรื
อ ตกเป็
นเบี้
ยล่
าง
ทางหนี
ที
ไล่
เป็
นต่
อ พลิ
กกระดาน วางหมาก เป็
นต้
1...,32,33,34,35,36,37,38,39,40,41 43,44,45,46,47,48,49,50,51,52,...124