26
คำ
�ว่
สั
ตตะ
มี
ความหมาย เกี
ยวเนื
องกั
บความเชื
ในพระพุ
ทธศาสนา เช่
สั
ตตมหาสถาน
ได้
แก่
สถานที
๗ แห่
ที่
พระพุ
ทธเจ้
าเสวยวิ
มุ
ติ
สุ
ขภายหลั
งตรั
สรู้
แล้
บางความเชื่
อ สั
ตตภั
ณฑ์
หมายถึ
ง พุ
ทธะ ๗
ประการ คื
๑. สติ
ความระลึ
กได้
๒. ธั
มมวิ
จั
ย การวิ
เคราะห์
วิ
จั
ยพระธรรม
๓. วิ
ริ
ยะ ความพากเพี
ยร
๔. ปิ
ติ
ความอิ่
มใจ พอใจ
๕. ปั
สสั
ทธิ
ทำ
�ใจได้
๖. สมาธิ
การทำ
�จิ
ตแน่
วแน่
มั่
นคง
๗. อุ
เบกขา วางเฉยในสิ่
งวุ่
นวายทั้
งปวง
ดั
งนั้
น การจุ
ดเที
ยนบนสั
ตตภั
ณฑ์
จึ
งเป็
นการบู
ชา
พระธรรมทั้
งที่
เป็
นโลกิ
ยะและโลกุ
ตระ ความหมายนั
ยนี้
เที
ยนจึ
งเป็
นแสงแห่
งความรู้
แจ้
งเห็
นจริ
งดั
งประที
ปเที
ยน
ที
บู
ชา ไม่
ใช่
การจุ
ดเที
ยนเพื
ออธิ
ษฐานให้
ได้
มาแห่
งลาภยศใดๆ
คติ
การสร้
างสั
ตตภั
ณฑ์
มี
ข้
อสั
นนิ
ษฐานเกี่
ยวกั
ความเชื่
อหลายประการ เช่
น เชื่
อว่
าการสร้
างสั
ตตภั
ณฑ์
เป็
นการผสมผสานกั
นระหว่
างความเชื
อทางศาสนาพุ
ทธและ
ศาสนาพราหมณ์
เชื่
อกั
นว่
าการสร้
างสั
ตตภั
ณฑ์
เป็
นการบู
ชา
พระอิ
ศวร โดยแสดงออกผ่
านรู
ปลั
กษณ์
เปรี
ยบสั
ตตภั
ณฑ์
เป็
นสั
ญลั
กษณ์
ของเขาพระสุ
เมรุ
(ชาวล้
านนาเรี
ยก สิ
เนรุ
)
ที
ล้
อมด้
วยเขาบริ
วารทั
ง ๗ ได้
แก่
ยุ
คั
นธร อิ
สิ
นธร กรวิ
สุ
ทั
สนะ เนมิ
นธร วิ
นั
นตกะ และอั
สสกั
ณณ์
มี
นาค ๗ ตั
พั
นรอบเขาพระสุ
เมรุ
คติ
นี้
อาจจะเกี่
ยวกั
บเรื่
องน้
�อมฤต
ซึ่
งเทพเจ้
าทำ
�พิ
ธี
กวนน้ำ
�ในทะเลสี
ทั
นดร โดยดึ
งนาคให้
หมุ
เขาพระสุ
เมรุ
ประกอบกั
บพวกเทพยดาทั้
งหลายกล่
าว
ถ้
อยคำ
�ด่
าทอและเฆี่
ยนตี
อย่
างรุ
นแรง นาคจึ
งคายพิ
ษออก
มาจนทำ
�ให้
น้
�ทะเลมี
พิ
ษ พระอิ
ศวรจึ
งต้
องดู
ดพิ
ษเอาไว้
ทำ
�ให้
พระศอของพระศิ
วะถู
กพิ
ษของพระยานาคจนดำ
�เป็
นสี
นิ
อย่
างที่
กล่
าวเปรี
ยบเที
ยบว่
า ดำ
�สนิ
ทดุ
จศอพระศิ
วะ การใช้
รู
ปนาคมาประกอบในงานพุ
ทธศิ
ลป์
แสดงให้
เห็
นคติ
ที่
ผสมผสานกั
นระหว่
างศาสนาพุ
ทธและศาสนาพราหมณ์
จึ
งไม่
แปลกที่
พบรู
ปครุ
ฑจั
บนาคบนหน้
าบั
นพระอุ
โบสถ
รู
ปนาคพั
นกั
นที่
เรี
ยกว่
า นาคทั
ณฑ์
ดั
งนั้
น อาจเป็
นไปได้
ว่
สั
ตตภั
ณฑ์
ทำ
�เพื่
อบู
ชาพระศิ
วะด้
วย
ส่
วนคติ
การสร้
างสั
ตตภั
ณฑ์
ที่
เชื่
อมโยงหลั
กธรรม
ในพระพุ
ทธศาสนา โดยเกี่
ยวข้
องกั
บเลข ๗ เช่
น หลั
โพชฌงค์
๗ สั
ทธั
มมะ ๗ สั
ปปุ
ริ
สธั
มมะ ๗
ชาวพุ
ทธในประเทศไทยเมื่
อสร้
างสิ่
งต่
างๆ
ที่
เกี่
ยวข้
องกั
บพุ
ทธศาสนามั
กให้
มี
นั
ยที่
เกี่
ยวกั
บหลั
กธรรม
โดยแสดงให้
ปรากฏในรู
ปลั
กษณะ ขนาด หรื
อตั
วเลข เช่
ธรรมจั
กรใช้
รู
ปของวงล้
อเป็
นสั
ญลั
กษณ์
การเผยแพร่
พระธรรม การสร้
างเจดี
ย์
ปรางค์
ที่
องค์
ประธานเป็
ศู
นย์
กลางก็
น่
าจะมาจากคติ
เกี่
ยวกั
บจั
กรวาลที่
มี
เขาพระสุ
เมรุ
เป็
นศู
นย์
กลาง นอกจากงานพุ
ทธศิ
ลป์
มั
กจะวิ
จิ
ตรงดงาม
เป็
นพิ
เศษเพื่
อถวายเป็
นพุ
ทธบู
ชา สั
ตตภั
ณฑ์
ก็
เป็
นไปตาม
คติ
นี้
ด้
วย แม้
แต่
ที่
ปั
กเที
ยนหน้
าพระพุ
ทธรู
ปยั
งทำ
�ให้
งดงาม
เป็
นพิ
เศษและใช้
รู
ปลั
กษณ์
ที่
แสดงให้
เห็
นความเกี่
ยวเนื่
องกั
พระพุ
ทธเจ้
าหรื
อพระพุ
ทธศาสนา ความพิ
เศษนั้
นแสดงออก
ผ่
านฝี
มื
อช่
าง ซึ่
งช่
างจะสร้
างสรรค์
ตามจิ
นตนาการของตน
สั
ตตภั
ณฑ์
ใช้
สำ
�หรั
บตั้
งหรื
อรองเครื
องสั
กการะ
ของชาวล้
านนา ซึ
งพุ
ทธศาสนิ
กชนทำ
�ถวายวั
ดเป็
นพุ
ทธบู
ชา
โดยตั
งไว้
หน้
าพระพุ
ทธรู
ปในโบสถ์
และวิ
หาร เพื
อปั
กเที
ยนและ
จุ
ดบู
ชาพระรั
ตนตรั
ย คื
อ พระพุ
ทธ พระธรรม และพระสงฆ์
1...,18,19,20,21,22,23,24,25,26,27 29,30,31,32,33,34,35,36,37,38,...124