นิตยสารวัฒนธรรม ฉบับ ๓ ปีพ.ศ.๒๕๕๗ - page 73

73
กรกฎาคม-กันยายน ๒๕๕๗
วรรณกรรมของมาลา ค�ำจันทร์ มิ ได้มีคุณค่ าใน
เชิงวรรณศิลป์เท่านั้น หากแต่ผู้เขียนเป็ นศิลปินร่วมสมัยที่มี
ส�ำนึกสูงทางสังคม ผู้เขียนสอดแทรกปัญหาของสังคมชนบท
ภาคเหนือ ในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความเหลื่อมล�้ำ
ในด้านสิ ทธิมนุษยชน ตลอดจนการรุกรานของสังคมเมือง
และวัตถุนิยม อันส่งผลกระทบต่อโครงสร้างทางสังคมและ
วัฒนธรรมของชาวบ้าน มาลา ค�ำจันทร์ จึงพยายามสอดแทรก
เรื่องศี ลธรรม คุณธรรม จริยธรรมในการด� ำรงชีวิต และ
ค�ำสอนในพระพุ ทธศาสนา เช่น เรื่องกฎแห่ งกรรม บาปบุญ
ชาติภพ นรกสวรรค์ เน้นให้ ยึดถื อการเคารพเชื่อฟั งบิดา
มารดาและผู้อาวุโส รักษาสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์ ทั้งคน
ในครอบครัว ชุมชน และสั งคม และมิตรภาพระหว่างเพื่อน
เชิดชู คุณลั กษณะที่ดี ของมนุษย์ ได้แก่ ความเสี ยสละ
ความรับผิดชอบ ความเป็นผู้ น�ำ ความกล้าหาญ ความซื่อสัตย์
ความรักศักดิ์ศรี เป็นต้น วรรณกรรมของมาลา ค�ำจันทร์ จึงมี
คุณค่าทางสังคมในการสร้ างค่านิยมและรสนิยมที่ดีด้วย
กล่าวได้ว่ า ผลงานวรรณกรรมของมาลา ค�ำจันทร์
มีส่วนช่ วยกระตุ้ นให้เยาวชนคนรุ ่นใหม่ ในภาคเหนื อ
เกิดความรักในท้องถิ่ น หวงแหนศิลปวัฒนธรรมอั นเป็น
เอกลักษณ์ของตน มีความสนใจศึกษาประวัติศาสตร์ ภาษาถิ่น
ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิ ลปะ และวัฒนธรรมล้ านนา
อย่างกว้ างขวาง จนเกิดโครงการอนุ รักษ์ และสืบสาน
ศิลปวัฒนธรรมล้านนาขึ้นหลายโครงการ
มาลา ค�ำจันทร์ ศิ ลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์
ประจ�ำปี ๒๕๕๖ ยั งสร้างสรรค์ผลงานวรรณกรรมอย่าง
สม�่ำเสมอ เผยแพร่ในนิ ตยสารหลายฉบับ นอกจากใช้
นามปากกา มาลา ค�ำจันทร์ แล้ว ยังใช้นามปากกาอื่ นๆ ใน
การเขียนคอลัมน์และแปลวรรณกรรมส�ำหรับเยาวชน ได้แก่
ค�ำพร หิรัญจั นทร์ จุลจักร นันทมาลา และสิทธันต์ ชินทัต