นิตยสารวัฒนธรรม ฉบับ ๓ ปีพ.ศ.๒๕๕๗ - page 82

82
มรดกบรรพชนสู่ลูกหลาน
แม่ ครูบัวเรี ยวได้น�ำความรู ้ด้านการฟ้ อน
สาวไหมที่ได้ศึกษา ค้นคว้า กระทั่งค้ นพบ และฝึก
จนประสบความส�ำเร็จมาสร้ างประโยชน์ ให้ กั บ
สังคม จนได้รับการยกย่ องเชิดชูเกียรติ จากส�ำนักงาน
เลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึ กษาธิการ ให้เป็น
ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ ๗ ด้านศิ ลปกรรม (การฟ้อน
สาวไหมต้นแบบ) ประจ�ำปี พ.ศ. ๒๕๕๔
แม่ครูบัวเรียวเกิ ดเมื่อวันที่ ๒๒ กั นยายน
พ.ศ. ๒๔๘๙ ที่จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันแม่ครูบัวเรียว
อายุ ๖๘ ปี สมรสกั บ “นายโสภณ รัตนมณีภรณ์”
มีบุตรด้วยกัน ๓ คน ได้แก่ นางสาวสายไหม นางสาว
สายชล และนางสาวสนธยา รัตนมณีภรณ์ แม่ครูบัวเรียว
มีความรู้ความเชี่ ยวชาญนาฏศิลป์พื้ นบ้ านล้านนา
เช่น การฟ้อนดาบ การฟ้อนเจิง (การร่ ายร�ำในท่าต่ อสู้
ด้วยมือเปล่า) การฟ้อนเล็บเชียงราย การฟ้อนเทียน
และการฟ้อนสาวไหม เป็ นต้น กระทั่งได้รับยกย่ องให้
เป็นต้นแบบการฟ้อน อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด
เชียงราย ด้วยศิลปะการฟ้อนสาวไหมที่สะท้อนชีวิต
ความเป็นอยู่ของชาวล้านนา ส่งผลให้ เยาวชนและ
ผู้ สนใจเกิ ดความตระหนักและเห็ นคุณค่ าในการ
อนุรักษ์ศิลปะการแสดงพื้นบ้านล้านนาให้คงอยู่
ด้วยความที่ เกิดและเติบโตในครอบครัว
ศิลปิน วั ยเด็ กแม่ครูบัวเรียวจึ งได้รั บการถ่ายทอด
ความรู้ด้านการฟ้อนร�ำอย่างหลากหลายตั้งแต่ ๘ ขวบ
ไม่ว่าจะเป็ นฟ้อนเจิง ฟ้อนดาบ และการฟ้อนสาวไหม
จากบิดาซึ่งก็คือ “นายกุย สุภาวสิทธิ์” หรือ “พ่อครูกุย”
ศิลปินช่างฟ้อนแห่งหมู่บ้านศรีทรายมูล อ�ำเภอเมือง
จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะการฟ้ อนสาวไหมนั้น
แม่ครูบัวเรียวจะมี ลีลาอ่อนช้อยงดงามยิ่งนัก