นิตยสารวัฒนธรรม ฉบับ ๓ ปีพ.ศ.๒๕๕๗ - page 83
83
ลี
ลาบอกเล่
าวิ
ถี
ถิ่
น
การฟ้
อนสาวไหมเป็
นการแสดงที่
เลี
ยนแบบมา
จากวิ
ถี
ชี
วิ
ตของคนพื้
นเมื
อง ในการปลู
กฝ้
าย ทอผ้
า รวมถึ
ง
การตั
ดเย็
บเสื้
อผ้
า พบเห็
นได้
ทั่
วไปตามท้
องถิ่
นต่
างๆ ด้
วย
ลั
กษณะการท�
ำงานที
่
เป็
นขั้
นเป็
นตอน กระทั่
งมี
ผู
้
มองเห็
น
และพั
ฒนากระบวนการท�
ำงานเหล่
านั้
นให้
มี
ลี
ลาอั
นสวยงาม
จนกลายเป็
นท่
าฟ้
อนร�
ำสาวไหมในที่
สุ
ด ซึ่
งการฟ้
อนสาวไหม
นั้
นมี
มานานแล้
ว ถื
อเป็
นการฟ้
อนพื้
นเมื
องของภาคเหนื
อ
อย่
างเด่
นชั
ด แต่
ก่
อนนั้
นจะเป็
นแค่
การฟ้
อนที่
รวมอยู
่
กั
บ
การฟ้
อนเจิ
ง ภายหลั
งจึ
งได้
แยกออกมาเป็
นท่
าเฉพาะ และ
แต่
เดิ
มการฟ้
อนสาวไหมก็
ใช้
ฝ่
ายชายเป็
นผู
้
ฟ้
อน ภายหลั
งจึ
ง
เปลี่
ยนเป็
นฝ่
ายหญิ
ง โดยลั
กษณะการฟ้
อนจะใช้
ท่
าเดี
ยวกั
น
กั
บที่
ฝ่
ายชายฟ้
อน
การฟ้
อนสาวไหมมี
ให้
เห็
นอยู
่
๒ แบบ คื
อ ๑. ฟ้
อน
สาวไหมในการฟ้
อนเจิ
ง ๒. การฟ้
อนสาวไหมของหญิ
ง ที่
แสดงความเคลื่
อนไหวในลี
ลาร่
ายร�
ำที่
นุ
่
มนวล ซึ่
งจะแตกต่
าง
จากฟ้
อนเจิ
งต่
อสู
้
โดย “พ่
อครู
กุ
ย” เป็
นผู
้
คิ
ดประดิ
ษฐ์
การฟ้
อนสาวไหม พ่
อครู
กุ
ยได้
เรี
ยนเจิ
งมาจาก “พ่
อครู
ปวน”
ต่
อมาประมาณ พ.ศ. ๒๔๙๕ พ่
อครู
กุ
ยได้
ย้
ายไปตั้
งถิ่
นฐาน
ที่
อยู
่
แถววั
ดศรี
ทรายมู
ล และก็
ได้
ถ่
ายทอดการฟ้
อนให้
แก่
ธิ
ดา
ซึ่
งก็
คื
อ “แม่
ครู
บั
วเรี
ยว” นั่
นเอง
ดั
งนั้
นแม่
ครู
บั
วเรี
ยวจึ
งได้
รั
บการสื
บทอดมรดกการ
ฟ้
อนร�
ำจากบิ
ดามาตั้
งแต่
นั้
น โดยบิ
ดาเป็
นผู้
ฝึ
กหั
ดการฟ้
อน
ร�
ำต่
างๆ ให้
ต่
อมา “นายโม ใจสม” หรื
อ “พ่
อครู
โม” ชาวมอญ
พระประแดง ซึ่
งเป็
นนั
กดนตรี
และนาฏศิ
ลป์
ไทยจากเชี
ยงใหม่
ได้
อพยพไปอยู
่
ในละแวกเดี
ยวกั
น ซึ่
งพ่
อครู
ได้
ช่
วยฟื
้
นฟู
วงกลองเต่
งทิ้
งของวั
ด สอนนาฏศิ
ลป์
และดนตรี
ไทย จนมี
นั
กดนตรี
ฝี
มื
อดี
หลายคน ซึ่
งแม่
ครู
บั
วเรี
ยวก็
ได้
ฝึ
กนาฏศิ
ลป์
กั
บพ่
อครู
โมด้
วย
เมื่
อมี
งานฉลองที่
วั
ดตามเทศกาลต่
างๆแม่
ครู
บั
วเรี
ยว
ก็
จะไปร่
วมฟ้
อนด้
วยประจ�
ำ และมั
กจะฟ้
อนสาวไหม
เป็
นส่
วนใหญ่
ซึ่
งแม่
ครู
ได้
ดั
ดแปลงลี
ลาการฟ้
อนสาวไหม
เชิ
งต่
อสู
้
แบบชายให้
เข้
ากั
บบุ
คลิ
กของสตรี
พร้
อมกั
บให้
ลง
จั
งหวะดนตรี
แบบนาฏศิ
ลป์
ไทย ขณะเดี
ยวกั
นก็
มี
การเลื
อก
ใช้
เพลง “สาวไหม” แทนเพลงอื่
นๆ ในการฟ้
อนร�
ำ ซึ่
งผู
้
รู
้
บางท่
านบอกว่
าเป็
นเพลง “ลาวสมเด็
จ” บ้
างก็
ว่
าเป็
นเพลง
ที่
พ่
อครู
โมดั
ดแปลงจากเพลง “ลาวสมเด็
จ” เพื่
อใช้
ประกอบ
กั
บการฟ้
อนสาวไหม
ช่
วงประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๓ แม่
ครู
บั
วเรี
ยวได้
พบ
กั
บ “แม่
ครู
พลอยศรี
สรรพศรี
” ช่
างฟ้
อนในคุ้
มของเจ้
าแก้
ว
นวรั
ฐฯ จั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
ซึ่
งได้
รั
บการถ่
ายทอดจากพระราช
ชายาเจ้
าดารารั
ศมี
ด้
วย แม่
ครู
พลอยศรี
ได้
ปรั
บปรุ
งท่
าฟ้
อน
ของแม่
ครู
บั
วเรี
ยวจากเดิ
ม ๑๓ ท่
าฟ้
อนให้
เป็
น ๒๑ ท่
าฟ้
อน
แต่
ถึ
งกระนั้
นท่
าฟ้
อนต้
นฉบั
บของแม่
ครู
บั
วเรี
ยวก็
ยั
งเป็
นที่
นิ
ยมในการถ่
ายทอดแก่
ลู
กศิ
ษย์
อย่
างต่
อเนื่
อง
ท่
าม้
วนไหมใต้
ศอกขวา
I...,73,74,75,76,77,78,79,80,81,82
84,85,86,87,88,89,90,91,92,93,...122