Page 92 - วารสารวัฒนธรรม ฉบับอาเซียน

90
ประชากร ชาติพันธุ ์
สิงคโปร์เป็นประเทศที่ เล็กที่สุด และมี ประชากร
หนาแน่นที่สุดในภูมิ ภาค และหนาแน่นเป็นอันดับ ๒ ของโลก
คื อมีประชากรประมาณ ๕.๓๑ ล้ านคน ประกอบด้วย
ชาวจี นร้อยละ ๗๖ ชาวมาเลย์ร้อยละ ๑๓ ชาวอินเดียร้อย
ละ ๘.๑ และอื่ นๆ อี กร้อยละ ๑.๖ เห็นได้ว่ าประชากร
สิงคโปร์มีความหลากหลายทางเชื้อชาติทำ�ให้มีหลายภาษา
มีวัฒนธรรมที่แตกต่ าง เสื้อผ้าเครื่องแต่ งกายที่ไม่ เหมือนกัน
รวมถึงงานประเพณีต่างๆ หลากหลาย เป็ นอีกประเทศหนึ่ง
ที่เต็มไปด้วยสีสันระหว่างโลกตะวันออกและโลกตะวันตก
ศาสนา
สิงคโปร์มีการนับถือศาสนาหลากหลายตามแต่ละ
เชื้ อชาติ โดยนั บถือศาสนาพุทธร้ อยละ ๔๒.๕ อิสลาม
ร้อยละ ๑๔.๙ ลัทธิเต๋าร้อยละ ๘.๕ ฮินดูร้อยละ ๔ คริสต์
นิกายโรมันคาทอลิกร้อยละ ๔.๘ คริสต์ นิกายอื่นๆ ร้อยละ
๙.๘ ศาสนาอื่นๆ ร้อยละ ๐.๗ และไม่มีศาสนาร้อยละ ๑๔.๘
ซึ่งจะเห็นได้ ว่า การที่ประชากรแต่ ละเชื้อชาติ มีเอกลั กษณ์
มีความเชื่อ และนับถือศาสนาต่างๆ กันนั้นก็ทำ�ให้เกิดงาน
เทศกาลตามวั นสำ�คัญทางศาสนาตลอดทั้งปีอีกด้ วย เช่น
งานวันวิสาขบูชา สำ�หรับชาวพุทธก็จะเดินทาง
ไปวั ดพระธาตุ เขี้ยวแก้ ว และวั ดเหลียนซั นซวงหลิ นซั่ น
เพื่อทำ�บุญและสวดมนต์ตามประเพณี
งานเทศกาลดีปาวาลีหรือทีปวาลี ซึ่งเป็ นของ
ชาวอินเดีย อั นเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งแสงสว่าง
เป็ นช่วงเวลาที่ชุมชนอินเดียจะสว่างไสวไปด้วยแสงไฟ
ศิลปวั ฒนธรรม
วั ฒนธรรมของสิงคโปร์มีความหลากหลายตาม
แต่ละเชื้อชาติ เช่น จีน มลายู อินเดีย รวมไปถึงชาวยุโรปด้วย
เนื่องจากแต่ละเชื้อชาติต่างก็แสดงเอกลักษณ์ของตัวเองออกมา
เห็นได้จากการแต่งกาย อาคารบ้านเรือน ศาสนา อาหาร
เช่น ในย่านไชน่าทาวน์ก็จะแสดงถึงความเป็นคนจีน ส่ วนใน
ย่านลิตเติลอินเดี ย ก็จะแสดงถึงความเป็นคนอินเดียอย่าง
โดดเด่น
การแต่งกาย
ชุ ดประจำ�ชาติของชาวสิงคโปร์ มีทั้งหมด ๔ ชุด
สำ�คัญตามความหลากหลายของชาติ พันธุ์ ได้แก่
๑. ชุดของชาวเปอรานากั น ลูกครึ่งจีน-มลายู
จะเรียกว่า “เคบายา” โดยมีเสื้ อเข้ารูป แขนยาว ผ่าหน้า
ทำ�จากผ้าที่โปร่งแสง มีการปั กลวดลายฉลุโดยเฉพาะลาย
ดอกไม้ สวมทับเสื้อตัวใน ส่วนท่อนล่างก็จะเป็ นโสร่ง
๒. ชุ ดของชาวจีน โดยฝ่ายหญิงสวม “ชุดฉีเผา
หรือกี่เพ้า” ส่วนฝ่ายชายเรี ยกว่า “ฉางเผา” ซึ่งแต่เดิมนั้ น
จะเป็นชุดยาว สวมใส่ แบบหลวมๆ ไม่ เน้ นรูปร่าง แต่ ใน
ปัจจุบันนิยมสวมแบบเข้ารู ปทำ�ให้เห็นรูปร่างชัดเจน
๓. ชุดอินเดีย ฝ่ ายหญิงจะสวมใส่ส่าหรี ที่เป็นผ้า
ผืนยาว สีสันสดใส ใช้พันร่างกายทับเสื้อที่ เรียกว่ า “โสสิ” โดย
มีปลายผ้าด้านหนึ่งพาดบ่า สำ�หรับ “ชุดกูรตะ” ที่เป็ นเสื้อ
ตัวหลวมก็จะยาวถึ งเข่า ไม่มีปก สวมทั้ งผู้หญิงและผู้ชาย โดย
สวมคู่กับซาลวาร์ กางเกงตัวหลวม ด้านบนกว้าง ด้านล่าง
แคบ ซึ่งเสื้ อกูรตะแบบสั้นก็จะเรียกว่า “กูรตี ”
๔. ชุ ดของชาวมลายู ชุดสำ�หรับฝ่ายหญิงเรียกว่า
“บาจูกูรุ ง” ส่วนฝ่ายชายเรียกว่า “บาจู มลายู” เป็นเสื้ อ
ตั วหลวมแขนยาว โดยท่อนล่ างฝ่ายชายจะสวมโสร่งทับ
กางเกง สำ�หรับฝ่ ายหญิงก็ จะสวมกระโปรงยาวคลุมเท้า
โดยมีผ้าคลุมศีรษะและคอเรี ยกว่า “ตูดุง”