อยู่
ร่
วมกั
นอย่
างพร้
อมหน้
าพร้
อมตา โดยยึ
ดหลั
กการทำ
�งาน
ที่
ว่
“ตนเองไม่
ได้
มี
ความมุ่
งหวั
งร่ำ
�รวยจากการทอผ้
แต่
ว่
าปั
นทอด้
วยความรั
ก และความตั
งใจช่
วยเหลื
เพื
อนบ้
านให้
มี
รายได้
บ้
าง”
จากชื่
อเสี
ยงที่
เลื่
องลื
อและฝี
มื
ออั
นล้
�เลิ
ศในงาน
ด้
านหั
ตถศิ
ลป์
การทอผ้
าฝ้
าย ซึ
งเป็
นการผสมผสานกั
บการใช้
กระบวนการทางวิ
ทยาศาสตร์
ที่
สอดคล้
องพอดี
กั
ความต้
องการและการดำ
�รงชี
วิ
ตตามสภาพธรรมชาติ
ไม่
มุ
งแต่
ประโยชน์
จนทำ
�ให้
สิ
งแวดล้
อมเสื
อมโทรม อี
กทั
งยั
งเป็
บุ
คคลที่
ทำ
�งานเพื่
อท้
องถิ่
นและสั
งคมทำ
�ให้
คุ
ณยายแสงดา
ได้
รั
บการยกย่
องเชิ
ดชู
เกี
ยรติ
จากหน่
วยงานทั
งภาครั
ฐและเอกชน
อย่
างต่
อเนื
อง เช่
น รางวั
ลผู
ประดิ
ษฐ์
สิ
งทอดี
เด่
นปี
พ.ศ. ๒๕๒๕
จากกระทรวงอุ
ตสาหกรรม รางวั
ลผู
ประกอบการหั
ตถกรรมดี
เด่
ปี
พ.ศ. ๒๕๒๕ โล่
เชิ
ดชู
เกี
ยรติ
ศิ
ลปิ
นพื
นบ้
านดี
เด่
นปี
พ.ศ .๒๕๒๘
จากกรมส่
งเสริ
มวั
ฒนธรรม เกี
ยรติ
บั
ตรผู
มี
ผลงานวิ
ทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
ล้
านนาดี
เด่
นในด้
านสิ
งทอ พ.ศ. ๒๕๒๙ และ
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
สาขาทั
ศนศิ
ลป์
(การทอผ้
า) ปี
พ.ศ. ๒๕๒๙
จากกรมส่
งเสริ
มวั
ฒนธรรม ถื
อเป็
นความภาคภู
มิ
ใจยิ
งของท่
าน
และครอบครั
ว อั
นเป็
นกำ
�ลั
งใจที
สำ
�คั
ญในการสื
บสานและ
อนุ
รั
กษ์
ภู
มิ
ปั
ญญางานหั
ตถศิ
ลป์
นี้
ให้
คงอยู่
คู่
ท้
องถิ่
นและ
บ้
านเมื
องสื
บไป
คุ
ณยายแสงดาได้
ทุ่
มเทให้
กั
บงานผ้
าฝ้
ายทอมื
อย่
างไม่
หยุ
ดหย่
อนจวบจนกระทั่
งวาระสุ
ดท้
าย ท่
านเคย
กล่
าวไว้
ว่
“ตลอดชี
วิ
ตของป้
า ป้
าไม่
เคยนอนกลางวั
ป้
ามี
ความสุ
ข มี
ความเพลิ
ดเพลิ
นกั
บการทำ
�งาน ไม่
เคย
ง่
วงเหงา ถึ
งเวลากลางคื
น เมื่
อสะสางงานเสร็
จ ป้
าจะหลั
อย่
างมี
ความสุ
ข และปกติ
จะตื
นแต่
เช้
าตรู
เป็
นอย่
างนี
ทุ
กวั
น”
ท่
านถึ
งแก่
กรรมเมื่
อวั
นที่
๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๖ ณ
โรงพยาบาลแมคคอร์
มิ
ค จั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
ด้
วยโรคมะเร็
ในลำ
�ไส้
ขณะอายุ
ได้
๗๔ ปี
ก่
อนที่
จะถึ
งแก่
กรรมนั้
มี
สมาชิ
กแม่
บ้
านและสตรี
ร่
วมกลุ่
มทอผ้
าอยู่
ถึ
ง ๔๒ คน และ
ได้
ใช้
ชื่
อกลุ่
มว่
า “กลุ่
มแม่
บ้
านบ้
านไร่
ไผ่
งาม” จั
ดตั้
งโรงทอผ้
ในหมู่
บ้
านโดยจะออกไปให้
คำ
�ปรึ
กษากั
บชาวบ้
านที่
สนใจ
บ้
านของท่
านหรื
อที่
รู้
จั
กกั
นในปั
จจุ
บั
นชื่
“บ้
านไร่
ไผ่
งาม”
หรื
“พิ
พิ
ธภั
ณฑ์
ผ้
าป้
าดา”
ได้
เปิ
ดเป็
“บ้
านศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
เพื่
อเป็
นแหล่
งการเรี
ยนรู้
ให้
แก่
ผู้
สนใจศึ
กษาหาความรู้
เกี่
ยวกั
บประวั
ติ
และผลงานของท่
านในฐานะศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
ตลอดจนการจั
ดแสดงการทอผ้
า ด้
วยกรรมวิ
ธี
แบบดั
งเดิ
ข้
าวของเครื่
องใช้
เครื่
องมื
อการผลิ
ต วั
ตถุ
ดิ
บ และสี
ที่
ใช้
ย้
อม
ซึ
งได้
จากธรรมชาติ
อาทิ
คำ
�แสด คราม มะเกลื
อ ครั
ง ฝาง ฯลฯ
ถื
อเป็
นแหล่
งการเรี
ยนรู้
และแหล่
งท่
องเที่
ยวทางวั
ฒนธรรม
ที่
สำ
�คั
ญแห่
งหนึ่
งของท้
องถิ่
1...,74,75,76,77,78,79,80,81,82,83 85,86,87,88,89,90,91,92,93,94,...124