15
กรกฎาคม-กั
นยายน ๒๕๕๖
เดื
อนพฤศจิ
กายน ด้
วยความทุ
มเท แม้
จะเพิ
มรอบกว่
า ๑๐ รอบ
บั
ตรก็
ยั
งไม่
เพี
ยงพอกั
บจำ
�นวนผู
ที
ต้
องการชม นั
บเป็
นกระแสใหม่
ของการแสดงนาฏศิ
ลป์
ไทยที่
ไม่
เคยปรากฏมาก่
อน
และในการแสดงแต่
ละครั้
ง ได้
มี
โครงการคั
ดเลื
อก
เยาวชนรุ่
นใหม่
เพื่
อทำ
�การถ่
ายทอดการแสดงโขน และมี
นั
กเรี
ยนนั
กศึ
กษาประชาชนทั
วไป เข้
ามาสมั
ครเป็
นจำ
�นวนมาก
นั
บเป็
นโอกาสอั
นดี
ของเยาวชนที่
ได้
เรี
ยนรู้
แบบแผนวิ
ถี
การแสดงโขน ซึ่
งเป็
นการแสดงนาฏศิ
ลป์
ไทยขั้
นสู
งและยั
งได้
ร่
วมอนุ
รั
กษ์
สื
บทอดการแสดงโขนให้
ยั่
งยื
นต่
อไป
และในปี
พ.ศ.๒๕๕๖ นี
ได้
มี
พระราชเสาวนี
ย์
ให้
จั
ดการแสดงโขน ชุ
ดศึ
กกุ
มภกรรณตอน “โมกขศั
กดิ
” ซึ
งเป็
ตอนที
กล่
าวถึ
งกุ
มภกรรณ อนุ
ชาของทศกั
ณฐ์
รั
บอาสาทศกั
ณฐ์
ออกรบกั
บพระราม กุ
มภกรรณมี
หอกวิ
เศษชื่
อโมกขศั
กดิ์
ที่
ฝากไว้
กั
บพระพรหม ได้
นำ
�หอกโมกขศั
กดิ์
ไปทำ
�พิ
ธี
ลั
บหอก โดยสร้
างโรงพิ
ธี
ใหญ่
และให้
เหล่
าเสนายั
กษ์
ป้
องกั
ไม่
ให้
มี
สิ่
งปฏิ
กู
ลเน่
าเหม็
นผ่
านมาทางโรงพิ
ธี
หนุ
มานมา
ทำ
�ลายพิ
ธี
ลั
บหอกกุ
มภกรรณ โดยแปลงกายเป็
นหมาเน่
และองคตแปลงกายเป็
นอี
กา ทำ
�ตายลอยน้
�ผ่
านมาหน้
โรงพิ
ธี
กุ
มภกรรณ จนไม่
สามารถทำ
�พิ
ธี
ได้
กุ
มภกรรณ
การแสดงโขน ชุ
ด"จองถนน"
ยกกองทั
พออกไปรบ พระรามใช้
ให้
พระลั
กษณ์
ยกกองทั
มารบกั
บกุ
มภกรรณ กุ
มภกรรณพุ
งหอกโมกขศั
กดิ์
ต้
องพระลั
กษณ์
สลบลง พิ
เภกทู
ลให้
พระรามใช้
ให้
หนุ
มาน
ไปนำ
�สั
งกรณี
ตรี
ชวา มารั
กษาพระลั
กษณ์
ก่
อนพระอาทิ
ตย์
ขึ้
หนุ
มานจึ
งเหาะไปชั
กรถพระอาทิ
ตย์
และเหาะไปหา
ยาสั
งกรณี
ตรี
ชวามาแก้
พระลั
กษณ์
จนฟื้
การแสดงครั้
งนี้
คณะกรรมการจั
ดการแสดงกำ
�ลั
ดำ
�เนิ
นการจั
ดสร้
างฉากและเตรี
ยมการฝึ
กซ้
อมอย่
างหนั
กเพื่
จะได้
จั
ดการแสดงในวั
นที่
๘ พฤศจิ
กายน ถึ
ง ๕ ธั
นวาคม
พ.ศ. ๒๕๕๖
การแสดงโขนนั้
นมี
ความสง่
างาม อลั
งการ และ
อ่
อนช้
อย จากประวั
ติ
อั
นยาวนานตั้
งแต่
โบราณกาล
โขนจึ
งถื
อเป็
นศิ
ลปะที
เป็
นจุ
ดศู
นย์
รวมของศาสตร์
และศิ
ลป์
อั
นหลากหลายแขนง ไม่
ว่
าจะเป็
นวรรณกรรม วรรณศิ
ลป์
นาฏศิ
ลป์
คี
ตศิ
ลป์
และหั
ตถศิ
ลป์
จึ
งนั
บได้
ว่
าเป็
นโอกาส
อั
นดี
ของชาวไทยที่
ได้
ชมโขนเฉกเช่
นทุ
กวั
นนี้
ด้
วย
พระบารมี
ในสมเด็
จพระนางเจ้
าสิ
ริ
กิ
ติ์
พระบรมราชิ
นี
นาถ
ที่
ทรงพระราชทานการแสดงโขนไว้
เป็
นสมบั
ติ
ของชาติ
และสมบั
ติ
ของมวลมนุ
ษย์
สื
บไป
1...,7,8,9,10,11,12,13,14,15,16 18,19,20,21,22,23,24,25,26,27,...124