97
เมษายน-มิ
ถุ
นายน ๒๕๕๖
"ปิ
ยะชนก" แหล่
งศึ
กษาเรี
ยนรู้
วิ
ถี
วั
ฒนธรรม
ของชาวไทดำ
� กลุ่
มชาติ
พั
นธ์ุ
ที่
มี
วั
ฒธรรมอั
นโดดเด่
น
จนกลายเป็
นเอกลั
กษณ์
เฉพาะตน การได้
ใช้
เวลาอยู่
ใน
สถานที่
แห่
งนี้
ทำ
�ให้
เรามั่
นใจได้
ว่
าวั
ฒนธรรมประเพณี
ของไทดำ
�จะไม่
สู
ญสิ้
นไป แม้
บริ
บททางสั
งคมจะ
เปลี่
ยนแปลงไปอย่
างไรก็
ตาม เพราะลู
กหลานชาวไทดำ
�
ต่
างพร้
อมใจกั
นลุ
กขึ้
นมาปกป้
องและสื
บสานรากเหง้
า
ของตนเองด้
วยความภาคภู
มิ
ใจ และในขณะเดี
ยวกั
น
ก็
ยิ
นดี
ที
่
จะแบ่
งปั
นวิ
ถี
ที่
แตกต่
างจากวั
ฒนธรรมเมื
องกรุ
ง
ให้
กั
บทุ
กคนที่
มาเยื
อนได้
มี
โอกาสเรี
ยนรู้
ถึ
งภู
มิ
ปั
ญญา
ที
่
สอดคล้
องกลมกลื
นกั
บธรรมชาติ
มาแล้
วคุ
ณจะหลงรั
ก
และอยากกลั
บมาเยื
อนอี
ก
อย่
างที่
เราได้
เกริ่
นในตอนต้
นว่
า ที่
นี่
ไม่
ใช่
ฉากใน
การถ่
ายรู
ป เพราะฉะนั้
นบ้
านเรื
อน หรื
อสถาปั
ตยกรรมต่
างๆ
จึ
งเกิ
ดขึ
้
นด้
วยความต้
องการในการใช้
งานจริ
ง เพื
่
อดำ
�รงชี
วิ
ตจริ
งๆ
แม้
จะไม่
ได้
ยิ่
งใหญ่
และสวยงามเหมื
อนหลายๆ แห่
ง แต่
ใน
ชุ
มชนไททรงดำ
�สะแกรายแห่
งนี้
ก็
ดำ
�รงอยู่
อย่
างเป็
นสุ
ข
ในบริ
บทเช่
นนั้
น ซึ่
งในอดี
ต “เฮื
อน” หรื
อ “เรื
อน” ของไทดำ
�
แบบดั้
งเดิ
มจะมี
ลั
กษณะที่
โดดเด่
นเป็
นเอกลั
กษณ์
เฉพาะกลุ่
ม
คื
อ มี
หลั
งคาทรงโค้
งรู
ปกระดองเต่
า มุ
งหญ้
าคายาวคลุ
มลง
มาเกื
อบถึ
งพื้
นดิ
นแทนฝาเรื
อน เพื่
อป้
องกั
นลม ฝน และ
อากาศที่
หนาวเย็
น (ในอดี
ตชุ
มชนไทดำ
�ตั้
งอยู่
ในแถบอากาศ
หนาว) ตั
วเรื
อนยกใต้
ถุ
นสู
งเพื่
อประโยชน์
ในการเก็
บสิ่
งของ
เครื
่
องใช้
เป็
นที
่
ประกอบการงาน เช่
น ทอผ้
า ตำ
�ข้
าว เป็
นคอก
เลี
้
ยงสั
ตว์
มั
กมี
แคร่
ไว้
นั
่
งนอนและเป็
นที
่
รั
บแขกในเวลากลางวั
น
เสาเรื
อนทำ
�ด้
วยไม้
ทั้
งต้
น มี
ง่
ามไว้
สำ
�หรั
บวางคาน ยอดจั่
ว
ประดั
บด้
วยไม้
แกะสลั
กเป็
นกิ่
งคล้
ายเขาควายไขว้
กั
น เรี
ยกว่
า
“ขอกุ
ด” พื้
นเรื
อนทำ
�ด้
วยไม้
ไผ่
ทุ
บเป็
นชิ้
นๆแผ่
ออกติ
ดกั
น
ภายในตั
วบ้
านเป็
นพื
้
นที่
โล่
งแบ่
งส่
วนสำ
�หรั
บที่
นอน ครั
ว และ
เป็
นส่
วนที่
บู
ชาผี
เรื
อน เรี
ยกว่
า “กะล้
อห่
อง” มี
ชานแดดยื่
น
ออกจากตั
วบ้
าน มี
บั
นไดขึ้
นเรื
อน ๒ ทาง มี
ยุ
้
งข้
าวที่
สร้
างเป็
น
เรื
อนยกเสาสู
งไว้
ข้
างที่
พั
กอาศั
ย คนไทดำ
�จะปลู
กบ้
านอยู่
ใกล้
ๆ กั
น ปั
จจุ
บั
นได้
มี
การปรั
บเปลี่
ยนรู
ปทรงและวั
สดุ
ที่
ใช้
ไปตามยุ
คสมั
ย เช่
นที่
เราได้
สั
มผั
สกั
บที่
นี่
ที่
ผู้
คนดำ
�รงชี
วิ
ตอยู่
ณ บ้
านสะแกราย
บ้
านเรื
อนแบบไททรงด�
ำ
การเดิ
นทาง
จากกรุ
งเทพฯ ก่
อนเข้
าตั
วเมื
องนครปฐม ให้
เลี้
ยวซ้
ายแยกพระ
ประโทณ-บ้
านแพ้
ว จากนั้
นตรงเข้
าไปอี
กประมาณ๑๒ กิ
โลเมตร
แล้
วเลี้
ยวขวาบ้
านวั
ดดอนขนาก แล้
วตรงไปเรื่
อยๆ ให้
สั
งเกตป้
าย
วั
ดดอนขนากซอย ๕ ก็
ถึ
งหมู่
บ้
านสะแกราย
เวลาทำ
�การ
เปิ
ดบริ
การทุ
กวั
น เวลา ๙.๐๐ น. – ๑๗.๐๐ น.
การติ
ดต่
อ
ที
่
อยู
่
๖๑ หมู
่
๙ ต.ดอนยายหอม อ.เมื
อง จ.นครปฐม ๗๓๐๐๐
โทร. ๐๘๑ ๘๕๘๓๗๕๔ โทรสาร. ๐๓๔ ๓๘๘๒๐๗
หรื
อผู้
ที่
มาศึ
กษาดู
งาน ให้
ได้
ศึ
กษาและเรี
ยนรู้
ทดลองทำ
�กั
น
ซึ่
งได้
แก่
การสอนทำ
�เครื่
องหอมไททรงดำ
� อย่
างแป้
งพวง,
ทำ
�อาหาร, ขนม และการเย็
บผ้
าพื้
นเมื
อง เป็
นต้
น
ในการทำ
�อาหารการกิ
นนั้
น จะใช้
พื
ชผั
กสวนครั
ว
ซึ่
งเก็
บจากสวนที่
ปลู
กไว้
ใกล้
ๆ ปลอดภั
ยจากสารพิ
ษ อี
กทั้
ง
ยั
งเป็
นการประหยั
ดค่
าใช้
จ่
ายได้
อี
กด้
วย โดยทางศู
นย์
เป็
น
ผู้
จั
ดเตรี
ยมอุ
ปกรณ์
ทุ
กอย่
างไว้
ให้
เรี
ยบร้
อยแล้
ว ที่
เหลื
อก็
เป็
น
เวลาแห่
งการเก็
บเกี่
ยวประสบการณ์
จากเจ้
าของวั
ฒนธรรม
โดยตรง
โดยเราก็
จะได้
เรี
ยนรู
้
ตั
้
งแต่
การกิ
นอยู
่
อย่
างพอเพี
ยง
คื
อ มี
น้
อยใช้
น้
อย มี
มากก็
ใช้
เท่
าที
่
จำ
�เป็
น รวมไปถึ
งการเรี
ยนรู
้
ที่
จะอยู่
กั
บธรรมชาติ
และนำ
�สิ่
งที่
อยู่
รอบๆ ตั
วมาใช้
ให้
เกิ
ด
ประโยชน์
อย่
างสู
งสุ
ด นั
บได้
ว่
าเป็
นปรั
ชญาชี
วิ
ตที่
มี
ราคาแพง
หรื
ออาจจะเที
ยบมู
ลค่
าไม่
ได้
เลยที
เดี
ยว หากแค่
เรารู้
จั
กที่
จะนำ
�ประโยชน์
จากสิ่
งเหล่
านี้
มาปรั
บใช้
ในชี
วิ
ตประจำ
�วั
น
ของเรา ซึ่
งที่
นี่
ก็
จะมี
คนแวะเวี
ยนมาเรี
ยนรู้
อยู่
เสมอ ไม่
ว่
าจะ
เป็
นหน่
วยงานราชการ, โรงเรี
ยน และสถาบั
นเอกชนต่
างๆ
โดยที่
พวกเขาเหล่
านั้
นหวั
งว่
า จะได้
นำ
�ความรู้
ที่
ได้
ไปพั
ฒนา
ชุ
มชน รวมถึ
งสั
งคมของตนเองให้
เข้
มแข็
ง และสามารถพึ่
งพา
ตนเองได้
และนี่
คงเป็
นสิ่
งที่
ปิ
ยะชนกต้
องการจะสอนให้
คนรุ่
นหลั
งอย่
างเราๆ ไม่
ให้
หลงลื
มในความเป็
นรากเหง้
า
ของตนเอง