101
เมษายน-มิ
ถุ
นายน ๒๕๕๖
ทั้
งสามวั
นนี้
ถ้
าหากดู
ตามประกาศสงกรานต์
อั
นเป็
นการคำ
�นวณตามหลั
กโหราศาสตร์
จริ
งๆ แล้
ว ก็
จะมี
การคลาดเคลื
อนไม่
ตรงกั
นบ้
าง เช่
น วั
นมหาสงกรานต์
อาจจะ
เป็
นวั
นที่
๑๔ เมษายน แทนที่
จะเป็
นวั
นที่
๑๓ เมษายน
แต่
เพื่
อให้
จดจำ
�ได้
ง่
าย และไม่
สั
บสน จึ
งกำ
�หนดเรี
ยกตาม
ที่
กล่
าวข้
างต้
“สาธารณรั
ฐประชาธิ
ปไตยประชาชนลาว
(สปป. ลาว)”
ดิ
นแดนแห่
งนี้
ยั
งคงมนต์
เสน่
ห์
ดึ
งดู
ดให้
ผู้
คน
เป็
นจำ
�นวนมากมาสั
มผั
ส ด้
วยการยึ
ดถื
อและปฏิ
บั
ติ
ในขนบธรรมเนี
ยมอย่
างเคร่
งครั
ดเรื่
อยมา จึ
งทำ
�ให้
คลาคล่ำ
ด้
วยนั
กท่
องเที่
ยวที่
หลั่
งไหลมาสั
มผั
สวั
ฒนธรรม จึ
งมั
กจะ
เลื
อกสปป. ลาวเป็
นอั
นดั
บต้
นๆ ใน “กุ
ดสงกรานต์
” หรื
“สงกรานต์
ลาว” โดยจั
ดขึ
น๔ วั
น ระหว่
างวั
นที
๑๔ – ๑๗ เมษายน
ในวั
นแรกนั้
นจะ เรี
ยกว่
า “ วั
นสั
งขารล่
วง ”
ชาวหลวงพระบางจะทำ
�ความสะอาดบ้
านเรื
อนเช่
นเดี
ยวกั
ชาวไทย แต่
จะแตกต่
างกั
นในช่
วงเย็
นนั้
นจะมี
การลอยกระทง
ริ
มน้ำ
�โขง ซึ่
งภายในจะบรรจุ
ผลไม้
ดอกไม้
ธู
ปเที
ยน ผมและ
เล็
บของผู้
ลอย เพื่
อเป็
นการอธิ
ษฐานให้
ทุ
กข์
โศกโรคภั
ลอยไปกั
บกระทง คล้
ายๆ กั
บช่
วงลอยกระทงในบ้
านเรา
วั
นที่
สอง เรี
ยก “วั
นเนา” ซึ่
งช่
วงเช้
ามี
การแห่
รู
หุ่
นเชิ
ดปู่
เยอ ย่
าเยอ และสิ
งห์
แก้
ว สิ
งห์
คำ
� ซึ่
งเป็
นเทวดาที่
ชาวหลวงพระบางให้
ความนั
บถื
อ ช่
วงบ่
ายขบวนแห่
ซึ่
งนำ
�โดยปู่
เยอ ย่
าเยอ ผู้
เฒ่
าผู้
แก่
หั
วหน้
าหมู่
บ้
านแต่
ละ
หมู่
บ้
าน ขบวนพระสงฆ์
นางสั
งขาร ขี่
สั
ตว์
พาหนะบนรถแห่
ปู่
เยอย่
าเยอก็
จะฟ้
อนรำ
�อวยพรลู
กหลาน
วั
นที่
สาม “วั
นสั
งขารขึ้
น” ซึ่
งเป็
นวั
นปี
ใหม่
ชาว
หลวงพระบางจะทำ
�ข้
าวเหนี
ยวนึ่
ง และขนมลู
กกวาดพากั
เดิ
นขึ้
นพู
สี
ภู
เขาสู
งกลางเมื
องหลวงพระบาง ระหว่
างเดิ
จะวางข้
าวเหนี
ยว และขนมไว้
ตามหั
วเสาบั
นไดจนถึ
องค์
พระธาตุ
วิ
ธี
นี้
เรี
ยกว่
าเป็
นการตั
กบาตรพู
สี
มี
การโยน
ข้
าวเหนี
ยวลงป่
าข้
างองค์
พระธาตุ
เป็
นการให้
ทาน ช่
วงบ่
าย
ก็
จะมี
ขบวนแห่
นางสั
งขาร และอั
ญเชิ
ญศี
รษะท้
าวกบิ
ลพรหม
จากวั
ดเชี
ยงทองไปยั
งวั
ดวิ
ชุ
วั
นที
สี
เป็
นวั
นสำ
�คั
ญอี
กวั
นหนึ
ง ซึ
งชาวหลวงพระบาง
จะอั
ญเชิ
ญพระพุ
ทธรู
ปคู
บ้
านคู
เมื
องออกมาให้
ชาวเมื
องสรงน้
เป็
นเวลา ๓ วั
น ๓ คื
น ก่
อนอั
ญเชิ
ญกลั
บไปประดิ
ษฐ์
สถาน
ยั
งสถานที่
เดิ
“สาธารณรั
ฐแห่
งสหภาพเมี
ยนมา (พม่
า)
เรี
ยกการละเล่
นสงกรานต์
ว่
า “ตะจั
งเหย่
ตะเบงบะแวด่
อ”
หรื
อเรี
ยกสั
นๆ ว่
า “เหย่
บะแวด่
อ” (คำ
�ว่
า เหย่
แปลว่
า “พิ
ธี
น้
�”
ส่
วน บะแวเด่
อ แปลว่
า “เทศกาล”) ในช่
วงสงกรานต์
นี้
ประเทศพม่
าจะถื
อให้
เป็
นวั
นหยุ
ดแห่
งชาติ
ซึ่
งหยุ
ดติ
ดต่
อกั
ยาวนานหลายวั
น โดยพม่
าจะจั
ดสงกรานต์
ตั
งแต่
วั
นที่
๑๔ - ๑๖ เมษายนเป็
นต้
นไป เหมื
อนกั
บของไทยเรา
สงกรานต์
ในอดี
ตของพม่
านั้
นมี
เพี
ยงการพรมน้
�ในขั
นเงิ
โดยใช้
กิ่
งมะยมจุ่
มน้
�และพรมเพี
ยงเบาๆ เท่
านั้
น ต่
อมา
เริ่
มมี
การสาดน้
�กั
นเมื่
อประมาณปี
พ.ศ. ๒๕๒๘ ชาวพม่
จะออกมาเล่
นน้
�กั
นอย่
างสนุ
กสนานจนบางครั้
งอาจเกิ
ขอบเขตความพอดี
แต่
ถึ
งอย่
าง ไรก็
ตาม พม่
าก็
มี
ข้
อกำ
�หนดในการเล่
นน้
�สงกรานต์
อย่
างเคร่
งครั
ด โดยเฉพาะ
การเล่
นน้ำ
�แบบพิ
เรน ลวนลามผู้
หญิ
ง หรื
อแม้
แต่
เรื่
อง
ทะเลาะวิ
วาท หากเกิ
ดเรื่
องเหล่
านี้
ขึ้
น นั้
นหมายถึ
งคุ
กำ
�ลั
งทำ
�ในสิ่
งที่
ผิ
ดกฏหมาย
ส่
วนในวั
นที่
๑๗ เมษายน ชาวพม่
าตั้
งแต่
เด็
กไป
กระทั่
งคนหนุ่
มสาวจะนุ่
งโสร่
ง ใส่
ผ้
านุ่
งอย่
างสวยงาม
เพื่
อนำ
� “ลู
กขนมลอยน้ำ
�” หรื
อ “ม่
งโลงเหย่
บ่
อ” ขนมประจำ
เทศกาล พร้
อมด้
วยดอกไม้
ธู
ปเที
ยนไปสั
กการะบู
ชาเจดี
ย์
ของแต่
ละเมื
องในพม่
า แสดงให้
เห็
นถึ
งวั
ฒนธรรมที่
แข็
งแกร่
ของพม่
า ไม่
ว่
าจะมี
วั
ฒนธรรมที่
ทั
นสมั
ยกล้
�กรายมากมาย
แค่
ไหน แต่
คนในชาติ
ยั
งรั
กและหวงแหนวั
ฒนธรรมของตน
ราชอาณาจั
กรกั
มพู
ชา”
งานสงกรานต์
ของ
ชาวกั
มพู
ชาจะจั
ดขึ้
นเป็
นประจำ
�ทุ
กปี
ในช่
วงต้
นฤดู
เก็
บเกี่
ยว
ซึ
งการเฉลิ
มฉลองนี
จะกิ
นระยะเวลา ๓ วั
น ตั
งแต่
วั
นที
๑๔ – ๑๖
เมษายน โดยในวั
นแรกถื
อเป็
นวั
นมหาสงกรานต์
หรื
วั
นปี
ใหม่
และตามธรรมเนี
ยมปฏิ
บั
ติ
ของแต่
ละวั
นนั้
วั
นแรกจะเป็
นวั
นแห่
งการทำ
�บุ
ญตั
กบาตร มี
การขนทราย
เข้
าวั
ด เพื่
อเตรี
ยมก่
อเจดี
ย์
ทราย วั
นที่
สองเป็
นวั
นครอบครั
ที
ลู
กๆ จะอยู
กั
บพ่
อแม่
อาจจะมี
การให้
เงิ
นหรื
อซื
อเสื
อผ้
าใหม่
ให้
เป็
นของขวั
ญ ส่
วนในช่
วงหั
วค่
�ก็
จะช่
วยกั
นก่
อเจดี
ย์
ทราย
และวั
นที
สามจะมี
การละเล่
นรื
นเริ
งต่
างๆ ที
นิ
ยมเห็
นจะเป็
1...,93,94,95,96,97,98,99,100,101,102 104,105,106,107,108,109,110,111,112,113,...124