๙๐
ป
จจุ
บั
น “โคมล
านนา” เป
นที
่
รู
จั
กไปทั
่
วโลกเช
นเดี
ยวกั
บโคมญี
่
ปุ
น
หรื
อโคมอิ
นเดี
ย เนื
่
องจากมี
ความงดงาม มี
เอกลั
กษณ
ที
่
โดดเด
นจากการสื
บสาน
ลวดลายดั้
งเดิ
มแบบล
านนาไว
ส
วนหนึ่
งมาจากการทุ
มเทแรงกายแรงใจ
ของครู
เบญจพล ที่
ไม
ใช
แบบที่
ประยุ
กต
ขึ้
นใหม
ด
วยหวั
งให
คนรุ
นใหม
ได
เรี
ยนรู
รากเหง
าของตั
วเองว
ามี
ความเป
นมาอย
างไร และในป
จจุ
บั
นนี้
ก็
มี
การทํ
าโคมล
านนาเป
นอาชี
พกั
นอย
างแพร
หลาย สร
างรายได
ให
แก
ชุ
มชนกั
นอย
างมากมาย เช
น ที่
หมู
บ
านทํ
าโคมในเชี
ยงใหม
คื
อ เมื
องสาตร
เพราะเมื
่
อเข
าไปในตั
วเมื
อง จะพบเห็
นโคมล
านนาห
อยเต็
มไปหมด และทํ
ากั
น
ตลอดทั้
งป
เริ่
มมาตั้
งแต
ป
พ.ศ. ๒๕๓๘ ก็
นั
บได
ประมาณ ๑๐ กว
าป
แล
ว
อาจารย
ยั
งเบญจพลได
กล
าวถึ
งการได
สื
บสานโคมล
านนา และ
สร
างรายได
ให
แก
ชุ
มชนอย
างภาคภู
มิ
ใจว
า
“ผมภู
มิ
ใจที่
ได
ทํ
าหน
าที่
ของความเป
นคนล
านนาอย
างสมบู
รณ
ได
สื
บทอด ได
สานต
องานศิ
ลป
หั
ตถกรรมอั
นงดงามของท
องถิ่
น ให
คงอยู
และเป
นที่
รู
จั
กมากยิ่
งขึ้
น
ดี
ใจที่
มี
ส
วนทํ
าให
สิ่
งที่
มี
คุ
ณค
าดี
ๆ อย
างนี้
ได
ถู
กชุ
บชี
วิ
ตขึ้
นมาใหม
ดี
กว
าที่
จะหายไปกั
บวั
ฒนธรรมใหม
ๆ ที่
สอดแทรกเข
ามาจากที่
อื่
นๆ
และไม
ได
แสดงถึ
งรากเหง
าหรื
อตั
วตนที่
แท
จริ
งของเราเอง ...ผมภู
มิ
ใจ
กั
บส
วนนี้
มากที่
สุ
ดครั
บ”
1...,82,83,84,85,86,87,88,89,90,91
93,94,95,96,97,98,99,100,101,102,...124