๙๔
พิ
พิ
ธภั
ณฑ
พื้
นบ
านตํ
าบลหนองบั
ว
เป
นสถานที่
จั
ดแสดงโบราณวั
ตถุ
และครื่
องมื
อเครื่
องใช
ในชี
วิ
ตประจํ
าวั
นของ
ชาวตํ
าบลหนองบั
ว ที่
นี่
เป
นชุ
มชนเก
าแก
และตั้
งอยู
ริ
มฝ
งแม
น้ํ
า
แควใหญ
หรื
อแม
น้
ํ
าศรี
สวั
สดิ
์
ในอดี
ตมี
อายุ
ยาวนานกว
า ๒๐๐ ป
นั
บตั้
งแต
กรุ
งศรี
อยุ
ธยาตอนปลาย จนถึ
งกรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร
ที่
หนองบั
วจะมี
เกจิ
อาจารย
ที่
มี
บารมี
แก
กล
าจั
ดอยู
ในระดั
บ
แนวหน
าของประเทศไทย นั้
นก็
คื
อ หลวงปู
ยิ้
มท
านมี
เครื่
องราง
ของขลั
งเป
นที่
เลื่
องลื
อ ต
อมาเมื่
อท
านมรณภาพหลวงปู
เหรี
ยญ
ศิ
ษย
ก
นกุ
ฏิ
ท
านจึ
งขึ้
นมาเป
นเจ
าอาวาสแทน และท
านได
ทํ
า
คุ
ณประโยชน
ให
กั
บชาวหนองบั
วมากมายจนเป
นที่
นั
บถื
อ
ของคนทั่
วไป
ช
วงประมาณป
พ.ศ.๒๔๙๘ ท
านได
จั
ดตั้
งพิ
พิ
ธภั
ณฑ
ขึ้
นที่
โรงเรี
ยนวั
ดศรี
อุ
ปลารามโดยใช
ห
องมุ
ขของอาคาร
นิ
วิ
ฐพิ
ทยาเป
นห
องพิ
พิ
ธภั
ณฑ
ภายในจั
ดเก็
บโบราณวั
ตถุ
ต
างๆ
เหตุ
ผลสํ
าคั
ญที่
ท
านจั
ดตั้
งพิ
พิ
ธภั
ณฑ
ขึ้
นมาเป
นเพราะว
า แต
เดิ
ม
วั
ดมี
ของวั
ตถุ
โบราณอยู
เยอะเป
นจํ
าพวกลายคราม เครื่
องใช
ไม
สอย ถ
วยชามต
างๆ มากมาย ท
านก็
มี
แนวคิ
ดที่
จะทํ
าเป
น
พิ
พิ
ธภั
ณฑ
เพื่
อให
ลู
กหลานรุ
นหลั
งได
ศึ
กษาค
นคว
า ต
อมา
ประสบป
ญหาเรื
่
องความไม
ปลอดภั
ยและสถานที
่
คั
บแคบ จึ
งได
ยกเลิ
กห
องพิ
พิ
ธภั
ณฑ
และเก็
บของเข
าตู
เหล็
กโดยไม
อนุ
ญาตให
ใครเข
าชมอี
กเลย จนกระทั
่
งเมื
่
อป
พ.ศ.๒๕๔๐ คณะกรรมการวั
ด
ได
มี
แนวคิ
ดที่
จะฟ
นฟู
พิ
พิ
ธภั
ณฑ
ขึ้
น จึ
งได
สํ
ารวจวั
ตถุ
โบราณ
และอุ
ปกรณ
เครื
่
องใช
ที
่
เก
าแก
เครื
่
องลายคราม เครื
่
องทองเหลื
อง
เครื่
องแก
ว เครื่
องป
นดิ
นเผา เครื่
องจั
กสาน เครื่
องมื
อเครื่
องใช
และของอื่
นๆ เพื่
อเก็
บรั
กษาไว
โดยได
เอาตึ
กปริ
ยั
ติ
ธรรม
สมาจาร ซึ่
งเป
นตึ
กที่
สร
างขึ้
นเมื่
อป
พ.ศ.๒๔๗๑ ซึ่
งหลวงพ
อ
พระครู
โสภณสมาจารท
านได
ก
อสร
างไว
มาซ
อมแซมปรั
บปรุ
ง
แล
วนํ
าวั
ตถุ
โบราณมาจั
ดแสดงไว
เป
นหมวดหมู
เพื่
อเป
น
การถ
ายทอดให
เห็
น ว
าวิ
ถี
ชี
วิ
ตคนในชุ
มชนเดิ
มๆ เป
นมาอย
างไร
ซึ่
งดู
ได
จากเครื่
องใช
ไม
สอย เครื่
องทํ
ามาหากิ
น อุ
ปกรณ
ที่
ใช
ใน
การประกอบอาหารโดยวั
ตถุ
ประสงค
หลั
กก็
เพื่
อจะให
เด็
ก
รุ
นหลั
งได
สื
บค
นเรื่
องราวต
างที่
มาที่
ไปของคนรุ
นปู
ย
าตายาย
ว
าเป
นมาอย
างไร แล
วทํ
าการเป
ดให
ประชาชนได
ชมเป
น
ครั้
งแรกเมื่
อป
พ.ศ.๒๕๔๒
อาบน้
ํ
า กิ
นข
าวเสร็
จก็
รวมตั
วกั
นประมาณ ๕ คน ๑๐ คน ผู
หญิ
งบ
าง
ผู
ชายบ
าง พากั
นออกไปร
องเพลงเชิ
ญชวนให
เขามาร
วมทํ
าบุ
ญ
ทอดกฐิ
น บ
างคนไม
มี
โอกาสได
มาทํ
าบุ
ญที่
วั
ด ชาวบ
านชุ
ดนี้
เขาก็
จะเคาะประตู
บ
าน พอเขาได
ยิ
นเสี
ยงเพลงเขาจะรู
กั
น
พากั
นเตรี
ยมเงิ
นให
บ
านละเล็
กละน
อยรวมไว
เพื่
อทอดกฐิ
น
นี
่
แหละเป
นประเพณี
ร
อยพรรษา วั
นเวลา มั
นสั
้
นเข
ามา
หดเข
ามา ร
อยๆ หรอๆ เขาจึ
งเรี
ยกว
าร
อยพรรษา
เสร็
จจากทํ
าบุ
ญบ
านพี
่
สาวแล
ว ผมก็
พาเด็
กๆ
เดิ
นทางไปยั
งพิ
พิ
ธภั
ณฑ
ตามคํ
าเรี
ยกร
องทั
นที
ซึ
่
งก็
ไม
ผิ
ดหวั
ง
เพราะพิ
พิ
ธภั
ณฑ
พื้
นบ
านตํ
าบลหนองบั
วคื
อ แหล
งเรี
ยนรู
ที่
น
าค
นหาจริ
งๆ
๑. น้ํ
าพริ
กกะป
ปลา
๒. แม
เพลงร
องเพลงร
อยพรรษา
๓. กาน้ํ
าชา เครื่
องลายคราม
๔. ถ
วยชามโบราณ
๕. การจั
ดแสดงวั
ตถุ
โบราณในพิ
พิ
ธภั
ณฑ
๑ ๒
1...,86,87,88,89,90,91,92,93,94,95
97,98,99,100,101,102,103,104,105,106,...124