๖๙
มกราคม-มี
นาคม ๒๕๕๖
ชนชาติ
พั
นธุ
ญั
ฮกุ
ร เป
นคนเชื้
อสายมอญโบราณ
ตั้
งแต
ยุ
คสมั
ยทวารวดี
ที่
มี
อาณาจั
กรรุ
งเรื
อง มี
ขอบเขตตั้
งแต
เมื
องฟ
าแดดสู
งของจั
งหวั
ดกาฬสิ
นธุ
ทอดยาวไปจนถึ
งจั
งหวั
ดลํ
าพู
น
ชาวญั
ฮกุ
ร ถื
อเป
นคนท
องถิ่
นดั้
งเดิ
มกลุ
มแรกๆ ที่
อาศั
ยอยู
บน
เทื
อกเขาพั
งเหยตลอดมาไม
เคยอพยพไปไหนในอดี
ตที
่
ผ
านมา
ป
จจุ
บั
นที่
ที่
ชาวญั
ฮกุ
รอาศั
ยอยู
มาอย
างยาวนานได
ประกาศ
เป
นเขตอุ
ทยานแห
งชาติ
ป
าหิ
นงาม อุ
ทยานแห
งชาติ
แห
งที่
๑๐๕
ของประเทศไทยในป
จจุ
บั
น ทํ
าให
คนญั
ฮกุ
รต
องลงมาอาศั
ยอยู
พื
้
นราบรวมกั
บคนไทยและคนลาวอี
สานทั่
วไป
ชาวญั
ฮกุ
รมี
ความเป
นอั
ตลั
กษณ
ของตนเองสู
งและ
ยั
งสื
บทอดมาจนถึ
งป
จจุ
บั
นนี้
คื
อ ภาษา การแต
งกาย วิ
ถี
วั
ฒนธรรม ความเชื่
อ และลั
กษณะนิ
สั
ย-อุ
ปนิ
สั
ย ยกเว
นเรื
่
องที
่
อยู
อาศั
ยที
่
ได
เปลี
่
ยนไปตามแบบบ
านของคนไทยยุ
คป
จจุ
บั
นเป
น
ส
วนใหญ
ภาษาของชาวญั
ฮกุ
รเป
นภาษามอญโบราณ
สมั
ยทวารวดี
ซึ
่
งมี
แต
ภาษาพู
ดไม
มี
ระบบตั
วเขี
ยน จึ
งทํ
าให
ภาษา
ตกอยู
ในภาวะวิ
กฤตอย
างรุ
นแรง โดยนั
กภาษาศาสตร
ได
ยื
ม
ตั
วอั
กษรไทยมากํ
าหนดใช
ภาษาญั
ฮกุ
รจึ
งมี
คํ
าอ
านขึ
้
นมาอี
กครั
้
ง
ภาษาญั
ฮกุ
รจะต
างจากภาษาอื่
นๆโดยสิ้
นเชิ
ง เช
น คํ
าว
า
“สวั
สดี
” ชาวญั
ฮกุ
รจะพู
ดว
า “ยุ
กแต็
ยระฮงวร” “ทานข
าวอร
อยมั
๊
ย”
ใช
แทนว
า “จา?โปงม็
อบเกลา” “ไปไหนมา” ใช
แทนว
า “อั
รโนว”
“วั
นนี้
หนาวจั
ง” ใช
แทนว
า “ฮั
ยออตะกั
ด” “ฮี
?” ใช
แทน “บ
าน”
เป
นต
น (เครื่
องหมาย ? ที่
ตามหลั
งคํ
าในภาษาญั
ฮกุ
ร คํ
านั้
น
จะมี
เสี
ยงกึ่
งเสี
ยงเอกกั
บเสี
ยงโท ในการวิ
จั
ยเรี
ยกว
า “ตั
วหยุ
ด”)
การแต
งกายของชาวญั
ฮกุ
ร ผู
ชายจะใส
เสื้
อคอกลม
สี
ดํ
าป
กลายของชาวญั
ฮกุ
ร นุ
งผ
าโสร
งแบบลาวอี
สานหรื
อ
กางเกงขาก
วยสี
ดํ
า ส
วนผู
หญิ
งจะเกล
าผมมวยไว
ท
ายทอย
ใส
เสื้
อ “พ็
อก” สี
ดํ
าคอวี
ชายเสื
้
อเป
นสี
แดง ตามขอบเสื้
อ
จะป
กลวดลายสวยงามด
วยมื
อเป
นลายเอกลั
กลั
กษณ
ดั้
งเดิ
ม
ของมอญโบราณ พาดผ
าแถบสี
สดใสเฉี
ยงไหล
และนุ
งผ
าถุ
ง
สี
แดงสด สวมใส
รองเท
าที
่
ทํ
ามาจากเปลื
อกไม
สวมเครื
่
องประดั
บ
ที่
ทํ
ามาจากเงิ
นแท
การแต
งกายเป
นแบบเดี
ยวกั
นทั้
งเผ
า
ความเชื่
อ ชาวญั
ฮกุ
รอาศั
ยอยู
บนภู
เขาสู
งตั
้
งแต
ดั้
งเดิ
ม วิ
ถี
ชี
วิ
ตความเป
นอยู
จึ
งผู
กพั
นอยู
กั
บต
นไม
ใบหญ
า
และภู
เขา ญั
ฮกุ
รมี
ความเชื่
อต
อนางไม
เจ
าป
าเจ
าเขา ผี
ฟ
า
เขาจะนั
บถื
อศาสนาพุ
ทธ ไหว
พระ และถื
อผี
อย
างเคร
งครั
ด
การรั
กษาอาการเจ็
บป
วยต
างๆ ก็
อาศั
ยหมอผี
เป
นอั
นดั
บแรก
ความเชื่
อนี้
จะฝ
งแน
นสื
บทอดมาอย
างคงทนแม
ในป
จจุ
บั
น
จะเป
นยุ
คเทคโนโลยี
แล
วก็
ตาม
วิ
ถี
วั
ฒนธรรมประเพณี
ตั้
งแต
โบราณมาได
ถู
กรื้
อฟ
น
ขึ้
นมาอี
กครั้
งโดยที
มวิ
จั
ยจึ
งมี
การสื
บสานต
อมาอย
างน
าภู
มิ
ใจ
เช
น การไหว
ผี
ปู
ตา การแห
หอดอกผึ
้
ง การละเล
นร
องปา? เร เร
การรํ
ากระแจ
ะ การเป
าใบไม
เป
นเพลง การเล
นรอบกองไฟ
และกี
ฬาพื้
นบ
านของญั
ฮกุ
ร เป
นต
น
ที่
อยู
อาศั
ยของชาวญั
ฮกุ
รเรี
ยกว
า “ฮี
?” แปลว
า
“บ
าน” จะมี
เอกลั
กษณ
คื
อไม
ใช
ตะปู
ในการก
อสร
างแม
แต
ตั
วเดี
ยว
ทุ
กขั้
นตอนจะใช
การไขว
พาด และมั
ดตรึ
งด
วยตอกหรื
อเถาวั
ลย
พื้
นและฝาเป
นไม
ไผ
ผ
าสั
บคลี่
แผ
ออกเรี
ยกว
าฟาก หลั
งคามุ
ง
ด
วยหญ
าคา จั่
วบ
านจะโดดเด
นด
วยหญ
าคารวบบิ
ดมั
ดแน
น
เป
นเกลี
ยวเรี
ยกว
า “กระด็
อบเมี
ยว” ชาวญั
ฮกุ
รมี
ความเชื่
อว
า
เป
นเครื่
องป
องกั
นสิ่
งเลวร
ายที่
มองไม
เห็
นตั
วไม
ให
มาเอาชี
วิ
ต
ของคนในบ
าน
สภาพบ
านญั
ฮกุ
รจะไม
แข็
งแรงถาวรเนื่
องจาก
ชาวญั
ฮกุ
รชอบความสงบ อยู
อาศั
ยเฉพาะคนในครอบครั
ว
เมื
่
อมี
คนแปลกหน
าเข
าไปให
เห็
นหรื
อมี
สมาชิ
กในบ
านเสี
ยชี
วิ
ตลง
ชาวญั
ฮกุ
รก็
จะละทิ้
งบ
านไปอยู
ที่
อื่
นและสร
างที่
อยู
ใหม
เรื่
อยไป
การประกอบอาชี
พของชาวญั
ฮกุ
รแต
เดิ
มคื
อการล
า
สั
ตว
ป
า หาของป
าลงมาแลกสิ
่
งของจํ
าเป
นจากคนไทย เมื
่
อก
อน
การทํ
าไร
ข
าวของชาวญั
ฮกุ
รจะใช
มื
อรู
ดข
าวจากรวงใส
คราย
(ภาชนะที่
สานจากไม
ไผ
ที่
เด็
กสะพายอยู
ในภาพการเซิ้
งรู
ดข
าว)
เพราะไม
มี
เคี
ยว ป
จจุ
บั
นทํ
าไร
เหมื
อนคนไทย
1...,61,62,63,64,65,66,67,68,69,70
72,73,74,75,76,77,78,79,80,81,...124