Page 97 - Culture3-2017
P. 97

พรวนใบ (ก้ำงใบ) ลักษณะคล้ำยพัดขนำดใหญ่ซึ่ง
                                                                           พับเก็บได้ เรือเดินทะเลของชำติต่ำง ๆ ในอุษำคเนย์
                                                                           สมัยโบรำณรวมทั้งของไทย ทั้งในสมัยกรุงศรีอยุธยำ
                                                                           และต้นรัตนโกสินทร์ล้วนแต่สร้ำงตำมแบบเรือส�ำเภำ
                                                                           ของจีนเป็นส่วนใหญ่
                                                                                 เดี๋ยวนี้จะหำชมส�ำเภำจีนแบบโบรำณดั้งเดิม
                                                                           ได้ยำกเต็มที ที่ยังเห็นอยู่มักเป็นเรือที่ต่อให้มีรูปร่ำง
                                                                           ละม้ำยใกล้เคียงส�ำเภำแบบโบรำณ แต่ใส่เครื่องยนต์
                                                                           เข้ำไปแทน ไม่นิยมกำงใบเรือเพรำะเก็บค่อนข้ำงยำก
                                                                           ส่วนมำกท�ำไว้เพื่อใช้ในกำรท่องเที่ยว อย่ำงแถบอ่ำว
                                                                           ฮำลองในเวียดนำม หรือเรือส�ำรำญแถวฮ่องกง

                                                                                 ส่วนในเมืองไทยอำจเหลือให้เห็นเพียงล�ำเดียว
                                                                           อยู่ที่วัดยำนนำวำ กรุงเทพฯ เป็นส�ำเภำจีนที่พระบำท
            ๔                                                              สมเด็จพระนั่งเกล้ำเจ้ำอยู่หัว รัชกำลที่ ๓ โปรดเกล้ำฯ
                                                                           ให้สร้ำงขึ้นในปี พ.ศ. ๒๓๘๗ ด้วยมีพระรำชประสงค์
                                                                           จะสร้ำงพระสถูปเจดีย์ไว้ที่วัดคอกกระบือเพื่อเป็น
                                                                           อนุสรณ์ในกำรที่พระองค์ทรงใช้เรือส�ำเภำขนสินค้ำ
          ภำพ ๑ ภำพลำยเส้นบรรยำกำศ     ผลจำกกำรเปิดเส้นทำงค้ำขำยทำงทะเล หรือ   ไปท�ำมำค้ำขำยถึงเมืองจีน โดยทรงมีพระรำชด�ำริว่ำ
          ของเมืองบำงกอก มีเรือส�ำเภำ  Maritime Silk Road ท�ำให้บ้ำนเมืองในเขตอุษำคเนย์   ต่อไปในภำยหน้ำรูปลักษณ์เรือส�ำเภำจะเปลี่ยนไป
          ในแม่น�้ำและพระบรมมหำ-
          รำชวัง ตีพิมพ์ลงในหนังสือ   ซึ่งอยู่บนเส้นทำงค้ำขำยได้รับประโยชน์ เกิดกำร  คนรุ่นหลังอำจจดจ�ำส�ำเภำจีนไม่ได้ จึงทรงพระกรุณำ
          ของ John Crawfurd พ.ศ.   ถ่ำยทอดควำมรู้ วิทยำกำร และควำมเชื่อศรัทธำ   โปรดเกล้ำฯ ให้สร้ำงพระสถูปเป็นส�ำเภำจีนมี
          ๒๓๒๖-๒๔๑๑              จนกลุ่มบ้ำนเมืองเหล่ำนี้เติบโตกลำยเป็นแว่นแคว้น   พระเจดีย์ ๒ องค์อยู่บนเรือ กล่ำวอีกนัยหนึ่งก็คือ
          ภำพ ๒ ภำพกองเรือก�ำปั่นชำว
          ดัตช์ เมื่อช่วง ค.ศ. ๑๗๒๔-๑๗๒๖   ต่ำง ๆ อำทิ รัฐฟูนัน แถบปำกแม่น�้ำโขง รัฐพิว (Pyu)    ทรงสร้ำงพระสถูปเจดีย์มีฐำนเป็นเรือส�ำเภำจีน
          ที่อ่ำวเมืองมะละกำ ประเทศ  ในลุ่มน�้ำอิระวดี รัฐมอญริมอ่ำวเบงกอล และรัฐ   พร้อมกับพระรำชทำนนำมวัดคอกกระบือใหม่ว่ำ
          มำเลเซีย ในปัจจุบัน ภำพพิมพ์  ทวำรวดีในลุ่มเจ้ำพระยำ รวมทั้งรัฐเมืองท่ำในเขต   “วัดญำนนำวำรำม”
          โดย WAGNER. Augsburg,
          Koppmayer              หมู่เกำะตอนใต้ของอุษำคเนย์ซึ่งอยู่ในประเทศ      ส่วนที่เรียกว่ำ “เรือส�ำเภำ” เชื่อว่ำมำจำกค�ำว่ำ
          ภำพ ๓ ควำมรุ่งเรืองของท่ำเรือ   อินโดนีเซียปัจจุบัน              “ซำนป่ำว” ซึ่งเป็นฉำยำของเจิ้งเหอ แม่ทัพเรือ
          ก�ำปั่นฝรั่ง Victoria Dock,
          Tanjong  Pagar,  เมื่อปี     หำกจินตนำกำรย้อนเวลำไปในช่วงที่กรุงศรี-   แห่งรำชวงศ์หมิง ผู้บัญชำกำรกองเรือป่ำวฉวน หรือ
          ค.ศ. ๑๘๙๐ ประเทศสิงคโปร์   อยุธยำรุ่งเรือง ทั่วท้องน�้ำตั้งแต่ปำกน�้ำเจ้ำพระยำ ผ่ำน   หมู่เรือมหำสมบัติ (ป่ำว - ทรัพย์สมบัติ ฉวน - เรือ)
          ในปัจจุบัน ภำพพิมพ์โดย    ด่ำนภำษีเมืองพระขนอนธนบุรี ไปจนถึงพระนครหลวง    ออกเดินทำงประกำศศักดำและอ�ำนำจของรำชวงศ์หมิง
          G R Lambert
          ภำพ ๔ แผนที่อุษำคเนย์โบรำณ    คงคลำคล�่ำด้วยเรือใบหลำยสัญชำติ แต่มิว่ำสัญชำติใด    ไปยังดินแดนต่ำง ๆ ถึง ๗ ครั้ง ตั้งแต่ย่ำนอุษำคเนย์
          วำดโดย Jan Jansson ชำวดัตช์    เรือใบที่ใช้เดินทำงข้ำมสมุทรกันในยุคนั้น ชำวไทยคุ้นเคย   อินเดีย ศรีลังกำ เปอร์เซีย อำหรับ ไปจนถึงแอฟริกำ
          เมื่อปี ค.ศ. ๑๖๓๖
                                 กันอยู่ ๒ ประเภท คือ เรือส�ำเภำ และ เรือก�ำปั่น  ตะวันออก เรื่องของกำรเดินทำงสมุทรยำตรำทั้ง ๗ ครั้ง
                                       เรือส�ำเภำ เป็นค�ำเรียกเรือเดินทะเลของ   ของเจิ้งเหอเป็นที่กล่ำวขำนกระทั่งปัจจุบัน
                                 ชำวจีนในสมัยโบรำณ มีลักษณะท้ำยเรือสูงและยื่น    เจิ้งเหอได้ฉำยำว่ำ “ซำนป่ำวไท่เจี้ยน” ซึ่ง
                                 ออกไป หัวเรือต�่ำ สร้ำงด้วยไม้ทั้งล�ำ มีเสำกระโดง  หมำยถึง “ตรีรัตนะมหำขันที” เรือของซำนป่ำว
                                 ส�ำหรับแขวนใบเรือ ส�ำเภำจีนมีจุดเด่นที่ใบเรือมี  ต่อมำจึงถูกเรียกในชื่อ “เรือส�ำเภำ”



                                                                                           กรกฎำคม-กันยำยน ๒๕๖๐    95
   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102